เหตุประท้วงในบาร์เซโลน่ายืดเยื้อ ตำรวจคุมตัวผู้ประท้วง 17 คน

          เกิดการปะทะกันครั้งใหม่ระหว่างผู้ประท้วงกับตำรวจปราบจลาจลในเมืองบาร์เซโลน่าของสเปน ท่ามกลางกระแสความไม่พอใจของผู้ประท้วง หลังทางการสเปนมีคำสั่งจำคุกแกนนำกลุ่มแบ่งแยกดินแดนแคว้นกาตาลุญญาจำนวน 9 คนเมื่อวันจันทร์ โดยผู้ประท้วงจำนวนหนึ่ง ซึ่งสวมหน้ากากปิดบังใบหน้าได้ปะทะกับตำรวจใกล้กับสำนักงานตำรวจประจำเมืองบาร์เซโลน่าเมื่อกลางดึกหลังจากที่ผู้ประท้วงได้ขว้างปาก้อนหินและกระป๋องน้ำใส่ตำรวจที่ตรึงกำลังรักษาความปลอดภัยในบริเวณดังกล่าว รวมทั้งจุดไฟเผาถังขยะที่ลากมาไว้กลางถนน ทำให้ตำรวจต้องยิงแก๊สน้ำตา กระสุนยาง รวมทั้งฉีดน้ำใส่ผู้ประท้วงเพื่อควบคุมสถานการณ์

          หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นของสเปนรายงานว่า ตำรวจได้จับกุมผู้ประท้วงจำนวน 17 คน และการปะทะกันยังทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 62 คนด้วย ก่อนหน้านั้นในช่วงกลางวัน ผู้ชุมนุมกว่า 500,000 คนจากกลุ่มต่างๆ ได้นัดหมายชุมนุมและเดินขบวนประท้วงในย่านใจกลางเมือง ส่งผลให้การจราจรตามถนนสายสำคัญกว่า 20 สายกลายเป็นอัมพาต รวมถึงถนนสายหลักที่มุ่งหน้าสู่พรมแดนระหว่างสเปนกับฝรั่งเศสด้วย

          สถานการณ์ชุมนุมประท้วงยังทำให้การแข่งขันฟุตบอลนัดระหว่างทีมเจ้าบ้านบาร์เซโลน่ากับทีมเยือนเรียล มาดริด ในวันที่ 26 ตุลาคมนี้ต้องเลื่อนออกไป เนื่องจากผู้จัดการแข่งขันวิตกต่อสถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้น ด้านนายควิม ทอร์รา ผู้นำแคว้นกาตาลุญญากล่าวขอบคุณบรรดาผู้ชุมนุมประท้วงที่ออกมาร่วมกันแสดงพลังอย่างสงบ พร้อมวิจารณ์กลุ่มผู้ก่อเหตุจลาจลว่าเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม ก่อนประกาศจุดยืนว่าจะพยายามนำวาระเรื่องการแยกตัวของแคว้นกาตาลุญญาเข้าสู่การลงประชามติอีกครั้ง ขณะที่นายเปโดร ซานเชซ รักษาการนายกรัฐมนตรีสเปนเตือนว่า ผู้ชุมนุมประท้วงที่สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้อื่นจะต้องได้รับโทษตามกฎหมาย ขณะเดียวกัน นายเฟอร์นานโด แกรนเด-มาร์ลัสกา รักษาการรัฐมนตรีกิจการภายในของสเปน เปิดเผยว่า การชุมนุมที่เกิดขึ้นทั่วแคว้นกาตาลุญญาตลอด 5 วัน มีผู้ชุมนุมถูกจับกุมแล้วเกือบ 130 คน พร้อมเตือนว่าผู้ก่อเหตุจลาจลอาจได้รับโทษจำคุกสูงสุด 6 ปี