สรุปข่าว19.30น.วันพฤหัสบดีที่ 19 กันยายน 2562

19 กันยายน 2562, 19:11น.


สรุปข่าว19.30น.วันพฤหัสบดีที่ 19 กันยายน 2562



+++การลงพื้นที่ อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม พร้อมคณะได้ลงเรือท้องแบนไปยังบ้านกุดชุม ต.หนองกินเพล อ.วารินชำราบ โดยระยะทางผ่านกว่า4กิโลเมตร เป็นพื้นที่นาข้าวของชาวบ้านที่ถูกน้ำท่วมขังสูงกว่า 3 เมตร โดยระหว่างทางที่พบชาวบ้านติดอยู่ในบ้านที่น้ำท่วม นายกฯ จะใช้โทรโข่งทักทายชาวบ้านเป็นระยะ เมื่อมาถึง หมู่1บ้านกุดชุม ต.หนองกินเพล สภาพมีน้ำท่วมขังถนนกว่า 2 เมตร บ้านเรือนถูกน้ำท่วมครึ่งหลัง บางหลังจมมิดทั้งหลัง น้ำประปา ไฟฟ้า และการจราจรถูกตัดขาดจากโลกภายนอก โดยมีชาวบ้านบางส่วนที่ไม่ยอมไปไหน เนื่องจากห่วงบ้านและทรัพย์สิน รอต้อนรับนายกฯอยู่ที่บ้าน



+++โดยนายกฯ ทักทายและแจกถุงยังชีพให้ประชาชน พร้อมกล่าวว่า รู้ว่าทุกคนลำบาก แต่ขอให้อดทนอีกนิด คงต้องใช้เวลาพอสมควรเพราะน้ำมันเยอะ วันนี้นำสิ่งของ ถุงยังชีพมาแจกก็แบ่งๆกัน มีอะไรขาดเหลือก็บอกผู้ว่าราชการจังหวัด ระวังตัวกันด้วยเรื่องโรคที่มากับน้ำ วันนี้ก็มียาแก้น้ำกัดเท้ามาให้ ขณะเดียวกันขอให้ฤดูกาลหน้าดีขึ้นกว่านี้



+++ขณะเดียวกันนายกฯ ได้สั่งรัฐมนตรีที่ร่วมคณะมาด้วย อาทิ นายณัฎฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษา นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง กระจายเรือออกไปแจกของประชาชนตามบ้าน พร้อมระบุว่า วันนี้พรรคร่วมรัฐบาลมากันสามพรรคก็ช่วยๆกัน แต่ยังมีอีกหลายพรรคที่ไม่ได้มา 



+++พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวภายหลังลงเรือตรวจเยี่ยมประชาชนว่า วันนี้ได้เห็นสถานการณ์จริงที่น้ำท่วมมิดหลังคาเสียส่วนใหญ่ และได้กำชับเจ้าหน้าที่ให้นำสิ่งของมาแจกจ่ายประชาชนเพิ่มเติมเพื่อให้กำลังใจ และพบว่าประชาชนยังยิ้มได้ รวมถึงดีใจที่นายกฯ มาเยี่ยม พร้อมจะสู้ต่อไป ไม่มีอะไรที่เราจะทิ้งไปได้ เพราะที่นี่คือบ้านและแผ่นดินของเรา ทั้งนี้เมื่อเห็นน้ำแล้วก็เสียดาย ถ้าเกิดระบายไปหมด ซึ่งหากมีน้ำแบบนี้แล้วไม่รบกวนที่ทำกินก็จะดี เพราะเป็นประโยชน์ต่อการทำนาปี เนื่องจากส่วนใหญ่จะทำได้แค่นาปรังและน้ำไม่เพียงพอ   พร้อม ขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ช่วยเหลือชาวบ้าน และขอบคุณประชาชน ที่เข้าใจการทำงานของรัฐบาลด้วย เมื่อผู้สื่อข่าวถาม ว่า เครียดหรือไม่ที่ถูกโจมตีเรื่องการช่วยเหลือผู้ประสบภัย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ผมไม่เครียด ถ้าผมเครียดชาวบ้านเขาจะเป็นอย่างไร ผมไม่เครียดหรอก”ก่อนจะยิ้มให้ผู้สื่อข่าว ก่อนที่นายกฯและคณะ ออกเดินทางกลับกรุงเทพฯ



+++การใช้จ่ายงบประมาณช่วยเหลือผู้ประสบภัยของรัฐบาล นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า รัฐบาลมีระเบียบหลักเกณฑ์ในการเบิกจ่ายอยู่ ทำให้ไม่คล่องตัวเหมือนเอกชน และอยู่ระหว่างการพิจารณาความเป็นไปได้ว่าจะสามารถจัดตั้งศูนย์เฉพาะกิจที่ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยเป็นการเฉพาะเมื่อเกิดเหตุภัยพิบัติได้หรือไม่ โดยศูนย์ดังกล่าวจะเป็นจุดศูนย์กลางในการประสานงานด้านความช่วยเหลือและประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบการทำงานของรัฐบาลโดยละเอียด นายเทวัญ ยอมรับว่า นายกรัฐมนตรีมีบ่นน้อยใจว่าลงพื้นที่หลายครั้ง แต่ข่าวที่เผยแพร่ไม่ได้รับความสนใจ ซึ่งการทำงานด้านการประชาสัมพันธ์หลังจากนี้ จะประสานความร่วมมือกับโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี



+++สำหรับในวันนี้ ผู้บริหารหนังสือพิมพ์ซิงเสียนเยอะเป้า ร่วมสมทบเงินจำนวน 2 ล้านบาท และชุดกันน้ำ 4,100 ตัว ช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ



+++ นางพัชราภรณ์ อินทรียงค์ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงสรุปเงินบริจาคกองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรี ในช่วงการรับบริจาคสำหรับการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ตั้งแต่วันที่ 16 - 19 ก.ย. ว่า มียอดแจ้งบริจาคผ่านรายการ “ร่วมใจ พี่น้องไทย ช่วยภัยน้ำท่วม” จำนวน 264,376,569 บาท และมียอดรับบริจาค จำนวน 97,409,439.95 บาท แบ่งเป็น 1. ยอดรับวันที่ 16 - 17 ก.ย. จำนวน 16,594,602.69 บาท  2.ยอดรับวันที่ 18 ก.ย. จำนวน 58,685,905.29 บาท และ 3.ยอดรับวันที่ 19 ก.ย. จำนวน 22,128,931.97 บาท



+++แผนฉุกเฉิน รับสถานการณ์ในวันนี้มีการจำลองสถานการณ์ร้ายแรงสุดเหตุไม่สงบในตะวันออกกลาง “การปิดช่องแคบฮอร์มุซ” ส่งผลให้ปริมาณการนำเข้าน้ำมันดิบของไทยหายไปถึงร้อยละ 62 ต่อวัน ประเทศไทยอาจจำเป็นต้องงดส่งออกน้ำมันและมีการปันส่วนน้ำมันในส่วนของภาคประชาชนนั้น สามารถมีส่วนร่วมช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้นได้ โดยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมประหยัดการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า เป็นไปตามประเมินที่ราคาน้ำมันจะอยู่ที่ประมาณ 60-70 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล และจะยังไม่ยกเลิกมติคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ที่ลดเงินเก็บเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อดูแลเสถียรภาพราคาน้ำมัน จากภาวะสถานการณ์พลังงานในขณะนี้ กระทรวงฯ ไม่มีแผนลดสำรองน้ำมันทางกฎหมายในส่วนของน้ำมันดิบจากร้อยละ 6 เหลือร้อยละ 5  ไทยสามารถบริหารสำรองน้ำมัน จนทำให้มีเพียงพอรวม 54-57 วัน



+++ศาลปกครองกลาง มีคำพิพากษาเพิกถอนคำชี้ขาดอนุญาโตตุลาการ เมื่อวันที่ 20 ธ.ค.2556 ที่สั่งให้การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ชำระเงินค่าก่อสร้างและค่าใช้จ่ายต่างๆในการดำเนินการก่อสร้างโครงการระบบทางด่วนขั้นที่ 2 เป็นการยื่นคำเสนอข้อพิพาทต่ออนุญาโตตุลาการพ้นกำหนดระยะเวลา 5 ปีนับแต่วันที่ บมจ.บีอีเอ็ม รู้ถึงเหตุข้อพิพาทกับ กทพ. เมื่อวันที่ 19 ม.ค.2543 คำวินิจฉัยชี้ขาดดังกล่าวจึงเป็นคำชี้ขาดที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน พิพากษาเพิกถอนคำชี้ขาดอนุญาโตตุลาการ



+++ก่อนหน้านี้ บมจ.บีอีเอ็ม ยื่นเสนอข้อพิพาทกรณีเงินค่าก่อสร้างและค่าใช้จ่ายต่างๆในการดำเนินการก่อสร้างโครงการระบบทางด่วนขั้นที่ 2 ในส่วนงานที่มีการเปลี่ยนแปลงเพิ่ม3 จุด ได้แก่ จุดเชื่อมต่อถนนงามวงศ์วาน จุดเชื่อมต่อถนนแจ้งวัฒนะ และจุดเชื่อมต่อถนนพระราม9 ต่อคณะอนุญาโตตุลาการ เมื่อวันที่ 9 ธ.ค.2552



+++ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปิดลดลง 13.48จุด ที่ 1,640.66 จุด มูลค่าซื้อขาย 57,286.44 ล้านบาท โดยเปิดตลาดยืนบวกได้เพียงชั่วคราว จากนั้นมีแรงขายในหุ้นใหญ่กดดันให้ยืนในแดนลบ นำโดยกลุ่มพลังงานและกลุ่มสื่อสาร หลังไร้ปัจจัยใหม่เข้ามาหนุนอย่างชัดเจน ส่วนธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงร้อยละ0.25 เป็นไปตามคาด



+++ดัชนีนิกเกอิ ตลาดหุ้นโตเกียวปิดปรับตัวขึ้นใกล้แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในรอบ 5 เดือนในวันนี้ หลังจากธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเมื่อวานนี้ แต่แรงบวกได้ถูกสกัดลงเนื่องจากเงินเยนแข็งค่าขึ้น หลังจากธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) มีมติคงนโยบายการเงินในการประชุมวันนี้

ดัชนีนิกเกอิ ปิดบวก 83.74 จุด ที่ระดับ 22,044.45 จุด



+++ดัชนีฮั่งเส็ง ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดวันนี้ร่วงลง หลังจากธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ไม่ได้ส่งสัญญาณที่ชัดเจนเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในอนาคต หลังจากที่ประชุมเฟดมีมติอย่างไม่เป็นเอกฉันท์ในการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ดัชนีฮั่งเส็ง ลดลง 285.17 จุด ปิดวันนี้ที่ 26,468.95 จุด



+++นายจาวัด ซาริฟ รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน ให้สัมภาษณ์พิเศษกับซีเอ็นเอ็นว่า อิหร่านจะทำสงครามจนถึงที่สุดคือ จะสู้รบไปจนกว่าจะเหลือทหารอเมริกันคนสุดท้ายในกรณีสหรัฐฯหรือซาอุดิอาระเบียโจมตีอิหร่านก่อน  โดยอิหร่านพร้อมจะเจรจากับมหาอำนาจในตะวันออกกลางคือ ซาอุดิอาระเบียและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ส่วนการเจรจากับสหรัฐฯคงจะไม่มีทางเกิดขึ้น ถ้าสหรัฐฯไม่ยอมยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรภายใต้ข้อตกลงนิวเคลียร์ที่สหรัฐฯกับชาติมหาอำนาจของโลกลงนามไว้กับอิหร่านในปี 2558



+++หลังเกิดเหตุ คนร้ายแต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ บุกเดี่ยวใช้ปืนจี้พนักงานร้านทองออโรร่า ภายในศูนย์การค้าไทวัสดุ ถนนบางนาตราด อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ นอกจากนี้ยังวางกล่องพัสดุข่มขู่พนักงานร้าน อ้างข้างในมีระเบิด ก่อนหยิบทองใส่ถุงหนีขึ้นรถตู้ทะเบียน 1 ฒน 150 กรุงเทพมหานคร กล้องวงจรปิดจับภาพไว้ได้ชัดเจน  ขณะนี้ชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ และ สภ.บางแก้ว กำลังแกะรอยเส้นทางหลบหนีของคนร้าย เนื่องจากเห็นเลขทะเบียนรถชัดเจน ซึ่งขณะนี้ มีข้อมูลว่าบริษัทไปรษณีย์ยืนยันรถคันดังกล่าวไม่ใช่รถของบริษัทแต่อย่างใด

ข่าวทั้งหมด

X