นายกฯย้ำ ขยายเวลาสถานบันเทิง ต้องดูผลดีผลเสีย กระทบวัยรุ่น

แนวคิดของนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ขยายเวลาปิดสถานบริการยามค่ำคืน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า เรื่องนี้ยังเป็นเพียงแนวคิดยังไม่มีการนำเสนอข้อมูลรายละเอียดเข้ามาให้ ต้องคอยดูอีกครั้งว่ามีผลดีผลเสียมากน้อยกว่าเดิมแค่ไหน เพราะเกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงาน ทั้งกระทรวงมหาดไทย ตำรวจ อาจมีการมองต่างมุมในเรื่องนี้ทั้งเรื่องความมั่นคง ความปลอดภัย และเรื่องการท่องเที่ยวที่วัยรุ่นมาเที่ยวกันเยอะในขณะนี้ก็ต้องระมัดระวังด้วย

ก่อนหน้านี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า จะขอหารือปากเปล่ากับ นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง เกี่ยวกับข้อเสนอให้ขยายเวลาปิดสถานบริการต่างๆในยามค่ำคืน ไปปิดที่เวลา 04.00 น. ได้หรือไม่ เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวยามค่ำคืน(ไนต์ไลฟ์) เพื่อตั้งเป้าดึงเงินจากกระเป๋านักท่องเที่ยวมากขึ้น เพราะหากขยายเวลาปิดสถานบริการยามค่ำคืนออกไปถึง 04.00 น. จะช่วยเพิ่มค่าใช้จ่ายกินดื่มเที่ยวเฉลี่ยได้อีกร้อยละ 25  จากค่าใช้จ่ายเดิม แต่ไม่ใช่ขยายทุกย่านและทุกจังหวัดจะเปิดได้หมด เช่น กรุงเทพฯ อาจอนุญาตให้เฉพาะย่านสีลม หรือที่อื่นๆ ภูเก็ต อาจอนุญาตโซนหาดป่าตอง หรืออื่นๆ กระบี่ อาจอนุญาตโซนอ่าวนาง หรืออื่นๆ รวมไปถึงย่านอื่นๆ ในเมืองพัทยาและเกาะสมุย

ด้านนายวิชญายุทธ บุญชิต รองเลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) กล่าวว่า นักท่องเที่ยวจีนที่มาไทยไตรมาสที่ 2 ปรับตัวลดลงถึงร้อยละ8 จากที่คาดว่าจะกลับมาฟื้นตัวดีขึ้น หลังจากไตรมาสแรกก็ติดลบ ร้อยละ 1.7 เพราะจีนกังวลเรื่องค่าเงินหยวนที่อ่อนค่าลง และเปลี่ยนพฤติกรรมการเดินทางไปเที่ยวในระยะใกล้มากๆ เช่น ไต้หวัน ฮ่องกง มาเก๊า และเกาหลีใต้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถิติจำนวนและรายได้ของนักท่องเที่ยว 6 เดือนแรก (ม.ค.-มิ.ย.) ของปีนี้ มีจำนวน 19.76 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.48 ของปีก่อนหน้า สร้างรายได้ 1.02 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.94 โดยตลาดนักท่องเที่ยวจีนครึ่งปีแรก ติดลบร้อยละ 4.73 ขณะที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท.ตั้งเป้ารายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติตลอดปีนี้ว่าจะขยายตัวร้อยละ8

CR: ทำเนียบรัฐบาล