ศรชล.ภาค 3 ยืนยันดำเนินการเอาผิด Seasteading แสวงหาประโยชน์น่านน้ำไทย

ความคืบหน้าการแถลงดำเนินการเอาผิดกับและติดตามตัวสองสามีภรรยา คือ นายเชด แอนดริว เอลวอทอวสกี้ ชาวอเมริกัน และ นางสาวสุปรานี เทพเดช หรือนามแฝง Nadia Summergirl ชาวไทยได้ประกาศความสำเร็จในการจัดตั้งที่พักอาศัยในทะเลในเขตน่านน้ำใกล้เกาะภูเก็ต โดยมีการประกาศโฆษณาเชิญชวนให้บุคคลอื่นเข้ามาร่วมก่อสร้างหรือติดตั้งสิ่งก่อสร้างแบบเดียวกันในพื้นที่ดังกล่าวหรือพื้นที่ใกล้เคียงโดยอ้างสามารถจัดตั้งเป็นเขตปกครองตนเองที่ไม่ขึ้นกับรัฐใด

พล.ร.ท.สิทธิพร มาศเกษม ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์รักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 3(ศรชล.ภาค3) นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พล.ต.ต.วิศาล พันธุ์มณี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันแถลงข่าวการเคลื่อนย้ายสิ่งก่อสร้างSeasteading ณ บริเวณท่าเรือน้ำลึกจังหวัดภูเก็ต พล.ร.ท.สิทธิพร กล่าวถึง การเคลื่อนย้ายสิ่งก่อสร้าง Seasteading กลับเข้าฝั่งเพื่อใช้เป็นวัตถุพยานในการดำเนินคดีว่าเรียบร้อยแล้ว

พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารเรือ ในฐานะรองผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล จึงได้มอบนโยบายให้ทัพเรือภาคที่ 3 ในฐานะศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 3 ดำเนินการบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในศรชล.ภาค3 รวมทั้งจังหวัดภูเก็ต ในการตรวจสอบสิ่งก่อสร้างดังกล่าว หากตรวจพบให้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายโดยเด็ดขาด เนื่องจากกรณีดังกล่าวถือว่ามีผลกระทบต่อความมั่นคงและมีการท้าทายอำนาจรัฐของประเทศไทย ที่จะยอมไม่ได้เป็นอันขาด ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการตามกฎหมาย ส่วนจังหวัดภูเก็ตมีการขยายผลในการดำเนินคดีต่อผู้เกี่ยวข้องอย่างเด็ดขาด

และเมื่อวานนี้ ศรชล.ภาค 3 สั่งการให้จัดเรือหลวงศรีราชา เรือหลวงมันใน เรือหลวงริ้น เจ้าหน้าที่กองโรงงานฐานทัพเรือพังงา ชุดปฏิบัติการพิเศษทัพเรือภาคที่3 พร้อมเจ้าหน้าที่หน่วยงานในศรชล.ภาค3 ตำรวจ และผู้แทนจังหวัดภูเก็ต ตรวจสอบและเคลื่อนย้ายสิ่งก่อสร้างดังกล่าวกลับเข้าสู่ฝั่ง โดยนำมาไว้ที่ท่าเรือน้ำลึกภูเก็ต ได้เชิญสื่อมวลชนร่วมสังเกตการณ์และเป็นพยานว่าในการดำเนินการของศรชล.ภาค 3 ดำเนินการด้วยความสุจริตใจ และมอบหมายให้สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ต เป็นผู้ดูแลพยานวัตถุหลักฐานดังกล่าว

หลังมีการตรวจสอบได้ประชุมหารือร่วมระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการด้านกฎหมายแล้วได้ข้อยุติว่าการดำเนินการทางกฎหมายที่เกิดขึ้นบนบกเป็นหน้าที่ของจังหวัดภูเก็ต ในการบูรณาการส่วนราชการที่เกี่ยวข้องสำหรับการดำเนินการทางกฎหมายที่เกิดขึ้นในทะเลเป็นหน้าที่ของศรชล.ภาค3 ในการบูรณาการส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ในส่วนของศรชล.ภาค3 ฝ่ายกฎหมาย ได้ไปแจ้งความร้องทุกข์กล่าวหาในข้อหากระทำการใดๆเพื่อให้ราชอาณาจักรหรือส่วนใดส่วนหนึ่งของราชอาณาจักรตกไปอยู่ใต้อำนาจอธิปไตยของรัฐต่างประเทศหรือเพื่อให้เอกราชของรัฐเสื่อมเสียไปตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา119และฐานความผิดตามกฏหมายอื่นที่เกี่ยวข้องต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรวิชิต อ.เมือง จังหวัดภูเก็ต และหากพบว่ามีความผิดเพิ่มเติมจะได้มีการแจ้งความร้องทุกข์กล่าวหาต่อไป

ผู้สื่อข่าว:อชัถยา ชื่นนิรันดร์