สรุปข่าว19.30 น.วันพุธที่ 20 มีนาคม 2562

สรุปข่าว19.30 น.วันพุธที่ 20 มีนาคม 2562

+++ในงานเสวนา "1 ปี คดีเสือดำ กับคำตัดสินที่รอคอย" โดยนายศศิน เฉลิมลาภ ประธานมูลนิธิสืบนาคะเสถียร กล่าวให้กำลังใจนายวิเชียร ชิณวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ฝั่งตะวันตก ต่อไป ที่ไม่ยอมแพ้ต่อสิ่งที่เกิดขึ้น แม้จะเป็นแขกนายหรือใครก็ตาม  ส่วนฝ่ายนายเปรมชัยที่กล่าวคำขอโทษ คิดว่าคำขอโทษของเปรมชัย น่าจะส่งผล เชื่อว่านายเปรมชัยจะต่อสู้ต่อไปเพื่อให้รอลงอาญา อีกเรื่องคือการดำเนินการในอนาคตต่อจากนี้วันนี้ ต้องยอมรับว่าผลสะเทือนของกรณีเสือดำ ทำให้ พ.ร.บ. สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า ผ่านการพิจารณาของ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช. มีการเพิ่มโทษการทำความผิดมากขึ้น มีพรรคการเมืองเสนอให้ขึ้นบัญชีเสือดาว เสือดำ เป็นสัตว์ป่าสงวน ซึ่งกฎหมายใหม่มีการกำหนดโทษขั้นต่ำทันทีโดยที่ศาลไม่ต้องใช้ดุลยพินิจ โทษขั้นต่ำปรับเป็นล้านบาท  จากนี้ไปรัฐบาลหน้าต้องสานต่อเรื่องนี้ ท่าทีของรัฐบาลหน้ากับบริษัท อิตาเลียนไทยจะเป็นอย่างไร เพราะศาลมีคำตัดสินโดยไม่รอลงอาญาแล้ว

+++ด้านนายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวว่า คณะทำงานคดีเสือดำของสำนักงานอัยการสูงสุดจะต้องขอคัดคำตัดสินตัวเต็มออกมาเพื่อวิเคราะห์ว่า ศาลฟังพยานหลักฐานจากใคร โดยหากมีการอุทธรณ์จะอุทธรณ์ในประเด็น คำสั่งศาลโดยเฉพาะในเบื้องต้นศาลไม่ได้เห็นตามที่เราส่งฟ้องในข้อหาร่วมกันล่าสัตว์ป่า แต่ศาลตัดสินว่าร่วมสนับสนุนเราจึงจะอุทธรณ์ในประเด็นนี้

+++นายวิเชียร ชิณวงศ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรฝั่งตะวันตก กล่าวว่า จากประสบการณ์ของเจ้าหน้าที่ป่าไม้ มั่นใจว่าหลักฐานแน่นสามารถเอาผิดได้ ซึ่งก็รู้สึกงงที่เสือดำหลุดไม่ตรงใจเรา โดยเฉพาะมีหลักฐานพบซากเสือดำใกล้บริเวณแคมป์ที่พัก ซึ่งทางกรมอุทยานฯ ก็ได้มีการหารือแล้วว่าจะอุทธรณ์ต่อไป ทั้งนี้เป็นครั้งแรกที่กรมอุทยานฯ ต้องประเมินมูลค่าสัตว์ป่าหายาก โดยเฉพาะสัตว์ผู้ล่าซึ่งทำได้ยากมาก โดยกรมอุทยานฯ ประเมินที่ 12 ล้านบาท แต่ศาลพิจารณาที่ 2 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นบรรทัดฐานให้กรณีอื่นๆ ต่อไป

+++นายทิตนันทิ์ มัลลิกะมาส เลขานุการ คณะกรรมการนโยบายการเงิน ( กนง.)  กล่าวว่า คณะกรรมการมีมติเอกฉันท์ให้คงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ร้อยละ1.75 ต่อปี และปรับลดประมาณการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจปีนี้เหลือโตร้อยละ 3.8 จากเดิมร้อยละ 4 ส่วนเศรษฐกิจไทยปี 2563 ขยายตัวร้อยละ 3.9 ผลจากการส่งออกปีนี้ที่คาดขยายตัวชะลอลงโตร้อยละ 3 จากเดิมคาดขยายตัวร้อยละ 3.8 และ ปี2563โตร้อยละ 4.1 ผลจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว และผลจากมาตรการกีดกันทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ - จีน ซึ่งยังเป็นประเด็นที่ต้องติดตามต่อเนื่อง แม้ว่าประมาณการเศรษฐกิจไทย จะปรับลดลงบ้าง แต่เศรษฐกิจไทยยังขยายตัวได้ใกล้เคียงกับศักยภาพ เนื่องจากการบริโภคภาคเอกชนขยายตัวได้ต่อเนื่องปีนี้โตร้อยละ 3.9  การลงทุนภาคเอกชนขยายตัว ร้อยละ4.4 ขณะที่การใช้จ่ายภาครัฐ มีแนวโน้มขยายตัวต่ำกว่าคาดโตร้อยละ 6.1 ส่วนหนึ่งผลจากความล่าช้าของโครงการลงทุนของรัฐวิสาหกิจบางแห่ง

+++ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปิดที่ระดับ 1,627.62 จุด ลดลง 2.47 จุด มูลค่าการซื้อขาย 36,490.69 ล้านบาท 

+++ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดปรับตัวขึ้นเล็กน้อยในวันนี้ ท่ามกลางการซื้อขายที่เป็นไปอย่างระมัดระวัง เนื่องจากนักลงทุนรอผลการประชุมกำหนดนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่จะประกาศในวันนี้ตามเวลาสหรัฐฯ หรือในช่วงเช้าตรู่วันพรุ่งนี้ตามเวลาไทย ปิดบวก 42.07 จุด ที่ 21,608.92 จุด

+++ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดวันนี้ปรับตัวลดลง เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีนอาจจะไม่คืบหน้า หลังจากมีรายงานว่าจีนอาจไม่ทำตามข้อเรียกร้องบางอย่างของสหรัฐฯ ลดลง 145.31 จุด ที่ 29,320.97 จุด

+++ในช่วงบ่ายวันนี้  พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานโครงการศูนย์ทดสอบยานยนต์และยางล้อแห่งชาติ ที่จ.ฉะเชิงเทรา โดยทันทีที่นายกฯ เดินทางมาถึงได้ทักทายประชาชน  พร้อมกล่าวว่า วันนี้ได้รับคำเตือน ว่าให้พูดเพราะ ซึ่งก็จะพยายามพูดให้เพราะมากที่สุด ทั้งนี้เรื่องประชาธิปไตยและการเลือกตั้งก็ไปว่ากันมา ยืนยันว่ามาครั้งนี้เพื่อตรวจราชการ หลังจากที่ได้เดินทางไปแล้วหลายพื้นที่ ขออย่าให้ใครมาทำให้เกิดความแตกแยกอีก ส่วนตัวยินดีจะเป็นสะพาน ให้ทุกคนก้าวข้ามไปข้างหน้า ซึ่งไม่ได้ต้องการเป็นใหญ่โตอะไร และไม่ต้องการที่จะพูดให้เกิดความขัดแย้ง  เชื่อว่าทุกคนและชาวต่างชาติ คงจะเข้าใจ สำหรับประเทศไทย ขอให้มีความสงบสุขคืนกลับมา  ขอให้ทุกคนเดินหน้าไปด้วยกัน เพื่อความสำเร็จ เพราะวันนี้เราต้องการให้ทุกคนมีความสุข

+++นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า จะไม่ตัดงบประมาณในการสร้างสนามทดสอบยานยนต์ เพราะเรื่องเศรษฐกิจคือเศรษฐกิจ เรื่องการเมืองคือการเมือง ขอคนไทยอย่ารังเกียจชาวต่างชาติที่มาลงทุน เพราะต้องสร้างโอกาส เพื่อก้าวเข้าสู่ประเทศนวัตกรรม เพราะโลกมันเชื่อมโยงกัน แต่จะให้ใครทำต่อก็สุดแล้วแต่ประชาชนว่าจะให้ใครเข้ามา โดยวันนี้ได้ดูโซเชียลมีทั้งคนรัก ทั้งเกลียดทั้งชังทั้งด่า และมีแต่คนพูดเก่งว่าจะทำอย่างโน้นอย่างนี้ แต่คนที่ทำคือตนเอง

+++สำหรับโครงการศูนย์ทดสอบยานยนต์และยางล้อแห่งชาติ มีกรอบวงเงิน 3,705 ล้านบาท ให้บริการทดสอบและรับรองผลิตภัณฑ์ยานยนต์โดยไม่ต้องส่งไปทดสอบที่ต่างประเทศ ลดค่าใช้จ่ายในเรื่องดังกล่าวถึงปีละ 119 ล้านบาท

+++นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีนายถาวร เสนเนียม ผู้สมัคร ส.ส. จังหวัดสงขลา โพสต์ข้อความไม่เห็นด้วยกับจุดยืนไม่สนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพราะไม่ใช่มติพรรค ว่า ทุกอย่างต้องอยู่ภายใต้อุดมการณ์พรรค สิ่งที่นายถาวรพูดนั้นก็ถูก เพราะไม่ใช่มติพรรค ซึ่งตนพูดแต่ต้นว่ามติพรรคต้องมาทีหลัง เพราะต้องประชุมร่วมกันระหว่างส.ส.กับกรรมการบริหารพรรค และไม่เชื่อว่าพรรคไหนกล้ามีมติขัดกับอุดมการณ์ของตัวเอง วันนี้อย่ากังวลเรื่องตัวเลขส.ส. แต่ต้องดูทิศทางของประเทศ สิ่งที่พรรคยืนยันคือถ้าอยากเดินไปข้างหน้า วันนี้ต้องทำ 2 อย่าง คือ 1.ฟื้นเศรษฐกิจ และ2.การเมืองต้องเดินหน้า ความขัดแย้งจะเกิดขึ้นหลังการเลือกตั้งหากมีการทุจริตและการสืบทอดอำนาจ และไม่มีความกังวลว่าจะมีงูเห่าในพรรค

+++ส่วนหากเสียงไม่พอจัดตั้งรัฐบาลนั้น  หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์  กล่าวว่า  คิดว่าอย่ามาสมมุติปัญหาอะไรเกี่ยวกับตนหรือพรรค เหลืออีกเพียงไม่กี่วันจะเลือกตั้งขอให้มุ่งสู่ในการแก้ปัญหาของประเทศจะดีกว่า และเราไม่มีหน้าที่แก้ปัญหาให้ใคร เลือกตั้งครั้งนี้ไม่ต้องไปสนใจว่าใครอยากอยู่ต่อ ใครอยากกลับบ้าน แต่ต้องเลือกให้ประเทศเดินหน้าดีขึ้น นี่คือสิ่งที่พรรคต้องการ

+++นายภูมิธรรม เวชชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย มองว่า การลงพื้นที่ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในเวลานี้ มีการใช้กลไกของรัฐในรูปแบบต่างๆ ค่อนข้างมากในการเลือกตั้งครั้งนี้ ทั้งกลไกของราชการ หน่วยงานต่างๆ  เห็นใจข้าราชการที่อยู่ภายใต้อำนาจในเลือกตั้งครั้งนี้  ไม่เหมือนกับอำนาจของรัฐบาลรักษาการในระบอบประชาธิปไตย  ส่วนขณะนี้แกนนำของพรรคส่วนใหญ่ได้ลงพื้นที่เพื่อพบปะประชาชน ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี และเชื่อว่าประชาชนคับข้องใจกับสิ่งที่เป็นอยู่ใน 5 ปีที่ผ่านมา ดังนั้น พรรคเพื่อไทยพร้อมเป็นรัฐบาล และเป็นผู้นำจัดตั้งรัฐบาล เพื่อแก้ปัญหาให้พี่น้องประชาชน

+++นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวถึงโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้งมีพรรคการเมืองหลายพรรคชูนโยบายหาเสียงที่จะยกเลิกยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี รวมถึงโครงการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานบางโครงการว่า ไม่กังวลโดยยืนยันว่าโครงการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานที่กระทรวงคมนาคมดำเนินการในช่วงที่ผ่านมาล้วนแต่เป็นโครงการที่มีความจำเป็น สนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจและความสามารถในการแข่งขันของประเทศ เชื่อว่าไม่ว่าใครเข้ามาเป็นรัฐบาลบริหารประเทศ ก็จะต้องสานต่อโครงการเหล่านี้

++++ส่วนปัจจัยที่ประเทศจีนมีการชะลอตัวทางด้านเศรษฐกิจมาจากปัจจัยสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ ส่งผลให้จีนปรับนโยบายอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ โดยกลับมาเน้นในเรื่องของการเติบโตเชิงคุณภาพมากขึ้น เชื่อว่าปัจจัยดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของไทยน้อยมาก เพราะไทยได้วางแผนการลงทุนในโครงการต่างๆผ่านการจัดสรรงบประมาณที่มีเหมาะสมเป็นอย่างดี

+++นายวรวุฒิ อุ่นใจ ประธานสมาคมผู้ค้าปลีกไทย เปิดเผยจุดยืน สมาคมผู้ค้าปลีกไทย คัดค้านกรณีที่ บริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด มหาชน จะเปิดประมูลหาผู้บริหารร้านปลอดอากร (ดิวตี้ฟรี) ในท่าอากาศยาน 4 แห่ง ประกอบด้วย ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ภูเก็ต เชียงใหม่ และหาดใหญ่ เป็นสัมปทานรายเดียว รวมทั้งประมูลหาผู้บริหารพื้นที่เชิงพาณิชย์ในสนามบินสุวรรณภูมิ พร้อมเรียกร้องให้บริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด มหาชน เลิกล้มการประมูล เพราะมองว่าการประมูลดังกล่าวเป็นการผูกขาดการประมูล แม้จะเลื่อนกำหนดการขายซองประมูลออกไปจากเดิมวันที่ 19 มี.ค.-1 เม.ย.62 แล้วก็ตาม

+++ประธานาธิบดีฟิลิปเป เอ็นยูซี ของโมซัมบิก ทางตะวันออกเฉียงใต้ของทวีปแอฟริกา ประกาศไว้ทุกข์ 3 วันเริ่มจากวันนี้ หลังพายุไซโคลนอิดาอีพัดถล่มเมื่อวันพฤหัสบดีก่อน ด้วยความแรงลม 175 กม.ต่อชม. มีคนเสียชีวิตแล้วกว่า 200 ศพ คาดว่าตัวเลขผู้เสียชีวิตอาจเพิ่มอีก มีน้ำท่วมเป็นบริเวณกว้างในเมืองเบียรา อาคารบ้านเรือนหลายลังถล่มลงมาและระบบสาธารณูปโภคเสียหายเป็นบริเวณกว้าง ชาวบ้านกว่า 1 ล้านคนไร้ที่อยู่อาศัย อีกทั้งมีปัญหาขาดแคลนอาหารและเชื้อเพลิง

+++ส่วนซิมบับเว เพื่อนบ้าน ตัวเลขผู้เสียชีวิตที่เป็นทางการคือ 98 ศพ แต่ตัวเลขผู้เสียชีวิตอาจเพิ่มขึ้นเนื่องจากมีผู้สูญหายอีกหลายร้อยคน ขณะที่ประธานาธิบดีเอ็มเมอร์สัน มนากากวา ของซิมบับเว จะลงพื้นที่ตรวจความเสียหายในพื้นที่ประสบภัยในวันนี้ ด้านสมาคมโรงสีข้าวของซิมบับเวเพิ่มเติมว่ารถบรรทุกกว่า 100 คันลำเลียงข้าวสาลีไปแจกจ่ายให้กับประชาชนในพื้นที่ประสบภัย ส่วนมาลาวี เพื่อนบ้าน ไม่ได้เผยแพร่ตัวเลขผู้เสียชีวิต แม้พายุอ่อนแรงลงขณะพัดถล่มมาลาวีเมื่อวันเสาร์ที่แล้ว มีฝนตกหนักและมีน้ำท่วมในบางท้องที่เช่นกัน