รมช.มหาดไทย เผย ยอดอุบัติเหตุ 7 วันอันตรายปี2562 ลดลง แต่ตายเพิ่ม สาเหตุ เมาแล้วขับ

สถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 2 มกราคม 2562 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของ 7 วันระวังอันตรายในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2562 โดยศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2562 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นาย สุธี มากบุญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะประธานแถลงข่าวสรุปผลการดำเนินงานของศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนฯ เปิดเผยว่า วันสุดท้ายของการเฝ้าระวังอันตรายและรณรงค์ “ขับรถมีน้ำใจ รักษาวินัยจราจร” เกิดอุบัติเหตุทั้งสิ้น 369 ครั้ง เสียชีวิต 44 ศพ และบาดเจ็บ 391 ราย จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุดประจำวันจำนวน 17 ครั้ง และยังเป็นจังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุดจำนวน 18 ราย ส่วน จ.นครสวรรค์ เป็นจังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุดจำนวน 3 ศพ โดยการดื่มแล้วขับ ยังเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุมากที่สุดกว่าร้อยละ 30.35 รองลงมาเป็นการขับรถเร็วเกินกำหนด ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุดยังคงเป็นรถจักรยานยนต์กว่าร้อยละ 79.53 รองลงมาเป็นรถกระบะ โดยอุบัติเหตุส่วนใหญ่เกิดในเส้นทางตรงกว่าร้อยละ 68.56 รองลงมาเป็นถนนกรมทางหลวง และถนนในหมู่บ้าน ช่วงเวลา16.01-20.00 น. เป็นช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุดกว่าร้อยละ 27.64  มีการตั้งจุดตรวจหลัก 2,052 จุด เรียกตรวจยานพาหนะ 890,673 คัน มีผู้ถูกดำเนินคดี 182,023 ราย ส่วนมากก็ยังเป็นความผิดเดิมคือไม่สวมหมวกนิรภัย รองลงมาคือไม่มีใบขับขี่ 41,473 ราย

สรุปรวมตัวเลขอุบัติเหตุทางถนนสะสม 7 วันอันตราย ตั้งแต่วันที่ 27 ธันวาคม 2561-2 มกราคม 2562 เกิดอุบัติเหตุรวม 3,791 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 463 ศพ และมีผู้บาดเจ็บ 3,892 คน มี 4 จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต ประกอบด้วย จ.ตาก, แพร่, สตูล และสมุทรสงคราม โดย จ.นครศรีธรรมราช เป็นจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุดตลอดเทศกาลที่จำนวน 118 ครั้ง และยังเป็นจังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุดจำนวน 137 ราย ส่วน จ.นครราชสีมา เป็นจังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุดจำนวน 25 ศพ การดื่มแล้วขับยังเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุดกว่าร้อยละ 40.39 ตามมาด้วยการขับรถเร็วเกินกำหนด รถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุดกว่าร้อยละ 79.64 รองลงมาเป็นรถกระบะ ทั้งนี้อุบัติเหตุส่วนใหญ่เกิดในเส้นทางตรง ตามมาด้วยถนนกรมทางหลวง และถนนในหมู่บ้าน ช่วงเวลา 16.01-20.00น. เป็นช่วงที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุดกว่าร้อยละ 27.78

นาย สุธี ยังระบุว่า การเกิดอุบัติเหตุปีนี้ลดลงร้อยละ 2 เมื่อเทียบกับเทศกาลปีใหม่ปีที่แล้ว ส่วนผู้บาดเจ็บก็ลดลงร้อยละ 3 แต่จำนวนผู้เสียชีวิตมากขึ้น ซึ่งสถิติทั้งหมดนี้ไม่ต้องการให้เปรียบเทียบเป็นตัวเลข แต่จะต้องนำมาถอดบทเรียนช่วยกันแก้ไขในภาพรวม ทั้งนี้สาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุ 3 อันดับแรก คือ ดื่มแล้วขับ, ขับรถเร็ว และตัดหน้ากระชั้นชิด ล้วนมาจากพฤติกรรมของผู้ขับขี่ ดังนั้นจะต้องช่วยกันเร่งปรับจิตสำนึกของผู้ขับขี่ให้มีมากขึ้น รวมทั้งต้องหามาตรการควบคุมรถจักรยานยนต์ที่เป็นรถที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุดให้มากขึ้น โดยอาจมีการตั้งคณะอนุกรรมการฯ มาออกมาตรการควบคุม ย้ำว่ารัฐบาลทำงานเต็มที่และไม่ต้องการเห็นการสูญเสีย ซึ่งการมีด่านชุมชนช่วยทำให้การสูญเสียน้อยลง ทั้งนี้ตลอดช่วงเทศกาลปีใหม่มีอยู่ 587 อำเภอที่ไม่มีผู้เสียชีวิต ส่วนกรุงเทพฯมีอยู่ 36 เขตที่ไม่มีอุบัติเหตุ โดยตลอดเทศกาลมีรถผ่านเข้า-ออกกรุงเทพฯ รวม 8,900,000 คัน พร้อมขอสื่อเสนอข่าวเชิงสร้างสรรค์และให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ด้วย