ทันสถานการณ์โลก วันที่ 20 กันยายน 2561

+++เกิดเหตุนักเรียนโรงเรียน Huntsville ในรัฐแอละบามา ของสหรัฐฯ นำปืนมาโรงเรียนและใช้ฆ่าตัวตาย ตำรวจ บอกว่าเหตุเกิดในห้องน้ำ ขณะที่ เด็กเอาปืนมาอวดเพื่อน ไม่มีเจตนาจะทำร้ายคนอื่น รายละเอียดอยู่ระหว่างการตรวจสอบ

+++สำนักข่าวเอพี รายงานจากเมืองเมดิสัน รัฐวิสคอนซิน สหรัฐฯ ว่า นายไมค์ เดวิส เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองของเมืองเมดิสัน เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าของวันพุธ ตามเวลาท้องถิ่น เกิดเหตุยิงกันภายในสำนักงานของบริษัทผู้ผลิตซอฟต์แวร์ชื่อ WTS Paradigm ตั้งอยู่ในเมืองมิดเดิลตัน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 คน ส่วนผู้ต้องสงสัยมือปืนก่อเหตุยิงเพื่อนร่วมงานบาดเจ็บ ถูกตำรวจยิงได้รับบาดเจ็บสาหัส ถูกนำส่งโรงพยาบาลและเสียชีวิตต่อมา เบื้องต้น ยังไม่ทราบเหตุจูงใจ

+++จากคำบอกเล่าของพยานที่อยู่ในเหตุการณ์ คือ น.ส.จูดี้ ลาห์เมอร์ส นักวิเคราะห์ด้านธุรกิจของบริษัทที่เกิดเหตุ บอกว่าได้ยินเสียงดังมาก เธอตัดสินใจวิ่งหนีออกจากอาคารสำนักงาน และไปหลบอยู่หลังรถยนต์ มองกลับมาที่หน้าประตูทางเข้าบริษัท พบว่ากระจกประตูทางเข้าแตก

+++ตำรวจรับแจ้งเหตุว่ามีเสียงปืนดังขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. จึงส่งกำลังตำรวจและรถพยาบาลไปยังบริษัทที่เกิดเหตุในทันที เบื้องต้น ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ ต้องรอสอบปากคำพยานราว 40 ปาก  

+++นายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ และประธานาธิบดีมุน แจ อิน ผู้นำเกาหลีใต้ ลงนามร่วมกันในปฏิญญาร่วมของการประชุมสุดยอดผู้นำสองเกาหลีครั้งที่ 3 ที่กรุงเปียงยาง สาระสำคัญคือ การยกระดับความร่วมมือระดับทวิภาคีในทุกด้าน เพื่อผลประโยชน์ร่วมกันระหว่างทั้งสองประเทศ และการสร้างสันติภาพตามกระบวนการเพื่อนำไปสู่การทำให้คาบสมุทรเกาหลีเป็นพื้นที่ปลอดนิวเคลียร์

+++นายคิม ยืนยันการเตรียมปิดศูนย์ทดสอบเครื่องยนต์จรวด ตงชาง-รี  ที่อยู่ทางตะวันตกของประเทศเป็นการถาวร ผู้นำสองเกาหลี ยังเห็นพ้องการเตรียมเคลื่อนย้ายสรรพาวุธทั้งหมด โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับโครงการขีปนาวุธและอาวุธนิวเคลียร์ ออกจากคาบสมุทรเกาหลี

+++นายมุนและนายคิม เห็นชอบการเตรียมถอนกำลังเจ้าหน้าที่ออกจากจุดสังเกตการณ์ทางทหาร 11 แห่งบนเขตปลอดทหาร ( ดีเอ็มซี ) การกำหนดให้พื้นที่เหนือเส้นแบ่งเขตแดนทางทหาร ( เอ็มดีแอล ) เป็นเขตห้ามบิน ครอบคลุมอากาศยานทั้งเครื่องบินพาณิชย์ เครื่องบินทหาร เฮลิคอปเตอร์ และโดรน และการตั้งคณะกรรมาธิการทหารร่วมสองเกาหลี และการกำหนดแนวกันชนทั้งทางบก ทางทะเล และทางอากาศ เพื่อลดบรรยากาศตึงเครียดทางทหารและป้องกันอุบัติเหตุของพลเรือนด้วย

+++นอกจากนี้ นายคิม ตอบรับคำเชิญของนายมุน ในการเยือนกรุงโซล ภายในอนาคตอันใกล้นี้ หรือเร็วที่สุดคือ ภายในสิ้นปีนี้ ถือว่าเป็นการเยือนเมืองหลวงของเกาหลีใต้ครั้งประวัติศาสตร์ 

+++แถลงการณ์ของนายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ได้หารือกับรัฐมนตรีต่างประเทศเกาหลีเหนือ พร้อมกับเชิญชวนรัฐมนตรีต่างประเทศเกาหลีเหนือ ให้มาพบหารือกันที่นครนิวยอร์กในสัปดาห์หน้าเป็นการหารือนอกรอบของการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ แถลงการณ์มีขึ้นหลังจากที่นายคิม ตกลงที่จะเดินทางไปเยือนกรุงโซลของเกาหลีใต้

+++แถลงการณ์ของรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุว่า สหรัฐฯพร้อมที่จะร่วมเจรจาในทันทีเพื่อปรับเปลี่ยนความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯกับเกาหลีเหนือ เป็นจุดเริ่มต้นของการเจรจาเพื่อปรับเปลี่ยนความสัมพันธ์

+++อดีตนายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัคของมาเลเซีย ถูกจับกุมแล้วและจะถูกตั้งข้อหาเรื่องเงินของกองทุนพัฒนามาเลเซีย (1MDB) ถูกโอนเข้าบัญชีส่วนตัวของเขา คณะกรรมการปราบปรามการทุจริตมาเลเซีย แถลงว่า ได้ควบคุมนายนาจิบ ตามการสอบสวนเรื่อง 1MDB และเงิน 2,600 ล้านริงกิต (ราว 20,366 ล้านบาท) ที่เข้าบัญชีส่วนตัวของเขา ก่อนการเลือกตั้งปี 2556  นายนาจิบจะขึ้นศาลบ่ายวันนี้และจะถูกตั้งข้อหาด้วย เรื่องนี้เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้รัฐบาลผสมของนายนาจิบ พ่ายการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม ให้พันธมิตรฝ่ายค้านที่นำโดยนายมหาเธร์ โมฮัมหมัด อดีตนายกรัฐมนตรี  

+++ศาลสูงอิสลามาบัดของปากีสถาน สั่งปล่อยตัวอดีตนายกรัฐมนตรีนาวาซ ชารีฟและบุตรสาวออกจากเรือนจำ โดยให้พักโทษจำคุกคดีทุจริต เกี่ยวกับการเป็นเจ้าของที่พักในย่านหรูกรุงลอนดอนของอังกฤษ ผู้พิพากษาศาลสูงอิสลามาบัด สั่งพักโทษที่ศาลชั้นต้นตัดสินเมื่อเดือนกรกฎาคมให้จำคุกนายชารีฟ 10 ปี และบุตรสาว 7 ปี และเห็นว่าควรปล่อยตัวทั้งคู่โดยทันที เนื่องจาก อัยการไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าทรัพย์สินในกรุงลอนดอนเป็นของนายชารีฟ และไม่สามารถชี้แจงได้ว่าเหตุใดบุตรสาวของเขาจึงถูกตัดสินลงโทษด้วยข้อหาเดียวกับกับนายชารีฟ ส่วนที่นายชารีฟ อุทธรณ์คำตัดสินของศาลชั้นต้นต่อศาลนี้ก็ปล่อยให้ดำเนินต่อไป 

+++สหประชาชาติ (ยูเอ็น) ประณามการแต่งงานระหว่างชายมาเลเซียวัย 44 ปี กับเด็กหญิงวัย 15 ปี ว่า รับไม่ได้ที่เด็กแต่งงานกับชายอายุรุ่นราวคราวพ่อ ผู้แทนองค์การทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ (ยูนิเซฟ) ประจำมาเลเซีย เรียกร้องให้มาเลเซียเร่งแก้ไขกฎหมายห้ามการแต่งงานแบบนี้  

+++ด้านนางวัน อาซิซาห์ รองนายกรัฐมนตรีที่ดูแลเรื่องสตรี ได้ส่งเจ้าหน้าที่สวัสดิการสังคมไปคุยกับเด็กหญิงและครอบครัวแล้ว แต่ยอมรับว่ารัฐบาลไม่สามารถห้ามการแต่งงานแบบนี้ได้ เนื่องจากศาลอิสลาม มีอำนาจอนุมัติการแต่งงานของชาวมุสลิม กฎหมายมาเลเซียกำหนดอายุแต่งงานขั้นต่ำที่ 16 ปี แต่ชาวมุสลิมสามารถแต่งงานอายุน้อยกว่านี้หากศาลอิสลามอนุญาต 

+++สื่อมาเลเซีย รายงานว่า ครอบครัวนี้มีลูกทั้งหมด 13 คน เด็กหญิงวัย 15 ปี แต่งงานเป็นภรรยาคนที่สองของชายคนนี้ในรัฐกลันตันเมื่อเดือนกรกฎาคมตามที่ศาลอิสลามอนุญาต หนังสือพิมพ์เดอะสตาร์อ้างบิดาของเด็กหญิงว่า ยอมยกบุตรสาวให้เพราะไม่อยากให้ลูกต้องลำบากยากจน และยืนยันว่าลูกแต่งงานอย่างมีความสุข ขณะที่เด็กหญิง บอกว่า แต่งงานด้วยความเต็มใจแม้จะรู้จักสามีเพียงไม่กี่เดือน และจะทำหน้าที่ภรรยาให้ดีที่สุด

CR:Fox News