จำเลยในคดีค้ามนุษย์ วิคตอเรียซีเครท กลับคำให้การขอต่อสู้คดี ศาลนัดพร้อมคู่ความ 8 ต.ค.

19 กันยายน 2561, 14:17น.


เจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ คุมตัวนายมนัส อ่วมทับ หรือ ป๋านัส  จำเลยที่ 4  และ นายสมชาย แสงอุดม หรือ ป๋าต้น จำเลยที่ 6 ในคดีค้ามนุษย์ในสถานอาบอบนวดวิคตอเรียซีเครต จากเรือนจำพิเศษกรุงเทพ มาฟังคำพิพากษาที่ศาลอาญา คดีนี้พนักงานอัยการคดีค้ามนุษย์ 1 เป็นโจทก์ฟ้องนายศรัทธาธรรม แจ้งฉาย หรือ ป๋าติ๊ก วัย 67 ปี กับพวกรวม 10 ราย เป็นจำเลย ฐานร่วมกันค้ามนุษย์ในสถานอาบอบนวดวิคตอเรียซีเครท ย่านถนนพระราม 9 หลังถูกเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) บุกเข้าตรวจค้นและจับกุมเมื่อวันที่ 12 มกราคม 2561 คดีนี้ศาลพิพากษาจำเลยแล้ว รวม 8 ราย คงเหลือจำเลย 2 คน คือ นายมนัส และ นายสมชาย ซึ่งรับสารภาพเป็นคนเชียร์แขก



ทนายจำเลย แถลงต่อศาลว่าจำเลยทั้งสองขอกลับคำให้การเดิมจากรับสารภาพว่าขอต่อสู้คดีในเรื่องค้ามนุษย์  เนื่องจากจำเลยอ้างไม่รู้ว่า มีผู้หญิง อายุ 14 ปีและต่ำกว่า 18 ปี เข้ามาทำงานในอาบอบนวดวิคตอเรียซีเครต ศาลพิจารณาแล้วให้โอกาสจำเลยต่อสู้คดี ในเรื่องการพิสูจน์อายุของหญิงที่มาทำงานว่าอายุไม่เกิน 18 ปีหรือไม่ โดยให้นำพยานมาไต่สวน ยืนยันจึงเห็นควรให้ถอนคำให้การเดิมที่ให้การรับสารภาพ และนัดพร้อมคู่ความ 8 ตุลาคม นี้ เวลา 09.00 น. 



สำหรับคดีนี้ ศาลชั้นต้น พิพากษาจำคุก นายบุญทรัพย์ อมรรัตนาศิริ หรือ ป๋ากบ วัย 55 ปี นายศรัทธาธรรม ผู้จัดการสถานอาบอบนวดวิคตอเรียซีเครท ฐานเป็นธุระจัดหาค้าประเวณีเด็กต่างด้าว อายุไม่ถึง 15 ปี ทั้งนี้ เมื่อรวม 2 สำนวนของนายศรัทธาธรรมและนายบุญทรัพย์ แล้ว จำคุก เป็นเวลา 18 ปี 16 เดือน ส่วนนางสาวศศิธร วิระเทพสุภรณ์ ในฐานะเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ คนขอใบอนุญาตสถานบริการ จำคุก 7 ปี 14 เดือน ยกฟ้องข้อหาค้ามนุษย์ เหตุพยานหลักฐานไม่เพียงพอให้ลงโทษ



แฟ้มภาพ



 

ข่าวทั้งหมด

X