เศรษฐกิจปากีสถานมีสัญญาณเชิงบวก แต่ยังต้องการความช่วยเหลือจาก IMF เพิ่มเติม

          นายกรัฐมนตรี เชห์บาซ ชารีฟ แห่งปากีสถาน เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีที่มีการถ่ายทอดสดผ่านสื่อต่างๆ ยืนยันว่า ตัวชี้วัดเศรษฐกิจของปากีสถานกำลังแสดงสัญญาณเชิงบวก การส่งออกและการส่งเงินกลับประเทศเพิ่มขึ้นภายในช่วงเวลา 1 เดือนครึ่งที่รัฐบาลของเขาเข้ามาบริหารประเทศ

          โดยในวันจันทร์ (29 เม.ย.67) คณะกรรมการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือไอเอ็มเอฟ จะมีการประชุมเพื่อตัดสินใจจัดสรรเงินทุน 1,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นการเบิกจ่ายงวดที่ 2 และสุดท้ายของข้อตกลงมูลค่า 3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ที่ได้รับการอนุมัติเมื่อปีที่แล้วเพื่อหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้

          อัตราเงินเฟ้อของปากีสถานเพิ่มสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ที่ร้อยละ 38 เมื่อเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว และจากวิกฤตดุลการชำระเงินที่เรื้อรัง จำเป็นต้องมีเงิน 24,000 ล้านดอลลาร์เพื่อชำระหนี้และชำระดอกเบี้ยในปีงบประมาณหน้าซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม ซึ่งมากกว่าทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของธนาคารกลางถึง 3 เท่า จึงจำเป็นต้องได้รับการอนุมัติเงินกู้ระยะยาวอีกฉบับหนึ่ง ซึ่งกระทรวงการคลังคาดว่าจะสามารถมีข้อตกลงระดับเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับโครงการใหม่นี้ได้ภายในต้นเดือนกรกฎาคม และหากประสบความสำเร็จ จะเป็นการช่วยเหลือจาก IMF ครั้งที่ 24 สำหรับปากีสถาน

          ในการปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจ มีข้อกำหนดให้ปากีสถานเพิ่มอัตราส่วนภาษีต่อ GDP จากประมาณร้อยละ 9 เป็นอย่างน้อยร้อยละ 13-14 หยุดการขาดทุนในวิสาหกิจของรัฐ และจัดการกับการสูญเสียในภาคพลังงาน กระทรวงการคลังของปากีสถานคาดว่าเศรษฐกิจจะเติบโตร้อยละ 2.6 ในปีงบประมาณปัจจุบันซึ่งสิ้นสุดในเดือนมิถุนายน ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยคาดว่าจะอยู่ที่ร้อยละ 24 ลดลงจากร้อยละ 29.2 ในปีงบประมาณ 2566-2567

..

#เศรษฐกิจปากีสถาน

#ไอเอ็มเอฟ