ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 19 กันยายน 2561 ช่วงที่ 2

19 กันยายน 2561, 07:45น.


+++การขยายผลดำเนินคดีเครือข่าย พล.ต.ต.สุทิพย์ ผลิตกุศลธัช อดีตผบก.ภ.จ.เลย ที่โกงเงินลูกน้องตำรวจ ภ.จ.เลย จำนวน 196 นาย หลังชักชวนร่วมโครงการรวมหนี้และบริหารหนี้ของสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจภูธรจังหวัดเลย มูลค่าความเสียหายกว่า 1,000 ล้านบาท และผู้ต้องหาทยอยมอบตัว มีทั้งตำรวจ ข้าราชการสังกัดกระทรวงยุติธรรม และพลเรือน พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. สั่งให้นายตำรวจที่เกี่ยวข้องออกจากราชการแล้ว 3 นาย และช่วยราชการสำนักงานตำรวจแห่งชาติอีก 15 นาย



+++พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบช.ทท.กล่าวว่า 1เดือนจากนี้ จะสามารถสรุปสำนวนคดีส่งให้พนักงานอัยการได้ ยืนยัน ผู้ต้องหาในคดีนี้มีทั้งหมด 17 คน เมื่อวานนี้ ผู้ต้องหาคนสุดท้ายเข้ามอบตัว ส่วนการยึดทรัพย์ ทั้งในส่วนของเงินสดและทรัพย์สินต่างๆ ขณะนี้คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 140 ล้านบาท เมื่อคดีเข้าสู่ชั้นศาลแล้ว การคืนทรัพย์ให้ตำรวจ จ.เลย จะทำควบคู่กันไป การคืนทรัพย์สินต้องคืนให้ตำรวจก่อน เพราะผู้เสียหายขณะนี้มีเพียงแค่ข้าราชการตำรวจเท่านั้นที่มาแจ้งความเอาผิด แต่หากมีประชาชนเสียหายถูก หลอกขอให้มาแจ้งความ เพื่อเอาผิดทางอาญาและทางแพ่ง



+++พล.ต.ต.กมล เหรียญราชา ผบก.กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) ประชุมร่วมกับ 7 หน่วยงานทั้ง ป.ป.ช., ป.ป.ท., ปปง., สตง. กรมบัญชีกลาง กรมสรรพากร และกองทัพภาคที่ 1 วางแผนปราบปรามการโกงภาษีน้ำมัน หลังจากพบว่า เจ้าหน้าที่รัฐมีส่วนรู้เห็นกระทำความผิดด้วย พล.ต.ต.กมล เปิดเผยว่า การสืบสวนของชุดปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับเชื้อเพลิง (ปนม.ตร.) พบว่า มีบริษัทผู้ค้าน้ำมันแห่งหนึ่ง ซื้อน้ำมันจากโรงกลั่นน้ำมัน ตามมาตรา 7 ที่มีสิทธิขอยกเว้นหรือคืนภาษีตาม พ.ร.บ.สรรพสามิต 2560 ใน จ.ชลบุรี อ้างว่า นำไปขายต่อให้บริษัทเวียงมิง ในเมียนมา จากนั้นบริษัทดังกล่าวให้บริษัทขนส่งไปรับน้ำมันที่โรงกลั่น เพื่อขนไปส่งที่ชายแดน เมียนมา จ.ตาก แต่บริษัทขนส่งกลับแวะขายให้ปั๊มน้ำมันที่พิษณุโลก 32,000 ลิตร ถูกกว่าท้องตลาด ส่วนน้ำมันที่เหลือส่งให้ชายแดนอำเภอแม่สอด พบทำมาแล้ว 36 ครั้ง แต่พบหลักฐานกระทำผิด 10 ครั้ง มูลค่าความเสียหายกว่า 3 ล้านบาท เบื้องต้น มีผู้ถูกแจ้งข้อกล่าวหาและดำเนินคดีกับผู้ต้องหา 4 ราย ศาลตัดสินตามความผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากร ในปี 2557



+++พล.ต.ต.กมล กล่าวว่า จากเอกสารทั้ง 10 เที่ยวที่พบความผิด มีเจ้าหน้าที่รัฐ ลงนามใบรับรองจำนวน 10 ครั้ง แบ่งเป็นกรมสรรพสามิต 3 คน กรมศุลกากร 4 คน ปปป.จะสอบสวนทั้งหมดว่าเข้าข่ายความผิดมาตรา 162 เป็นการรับรองเอกสารอันเป็นเท็จและความผิดมาตรา 157 เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือไม่ หลังจากนี้ จะลงพื้นที่เปิดปฏิบัติการตรวจค้น 6 จุดทั่วประเทศ ในวันที่ 29 กันยายนต่อไป



+++พ.ต.อ.วิโรจน์ ตัดโส ผกก.สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ สมุทรปราการ เปิดเผยว่า กรณีท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้แจ้งความดำเนินคดีกับผู้หญิง 2 คน ที่เข้าไปในพื้นที่หวงห้ามของท่าอากาศยานโดยไม่ได้รับอนุญาตเพื่อต้อนรับศิลปินเกาหลี



พร้อมทั้งออกหมายเรียกเจ้าหน้าที่ศุลกากรที่ปรากฏตามภาพในกล้องวงจรปิด ในข้อหาสนับสนุนช่วยเหลือให้สอบสวนข้อเท็จจริงและรับทราบข้อกล่าวหาในวันนี้



+++กรณีนายดอยธิเบศร์ ดัชนี บุตรชายและผู้ดูแลมรดกของนายถวัลย์ ดัชนี ศิลปินแห่งชาติสาขาทัศน์ศิลป์ ปี พ.ศ.2544 จิตรกร ช่างเขียนรูป ระดับโลก เข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สน.บางชันว่ามีภาพวาดของนายถวัลย์ สูญหายไปกว่า 100 ภาพ คิดเป็นเงินมูลค่ากว่า 300 ล้านบาท พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.น. ตั้งชุดสืบสวนติดตามคดี มอบหมายให้พล.ต.ต.นิตินันท์ เพชรบรม รองผบช.น. เป็นประธานสืบสวนสอบสวน โดยเรื่องราวดังกล่าวเกิดมาจากเมื่อประมาณเดือนมิ.ย. นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ร้องเรียนว่า มีภาพวาดของอ.ถวัลย์ หายไป ซึ่งตอนนั้นมีการฟ้องร้องเป็นผู้จัดการมรดกระหว่างนายดอยธิเบศร์ กับ ภรรยาอ.ถวัลย์ ให้ดำเนินคดีกับผู้ที่เอาภาพไปและผู้ที่รับซื้อ ทั้งนี้ภาพของอ.ถวัลย์ เป็นทรัพย์มรดก เพราะแต่ละภาพมีราคา ส่วนผู้จัดการมรดกก็คือลูกชาย สำหรับการออกหมายเรียกผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องมาสอบปากคำ ก็ได้ดำเนินการไปบางส่วนแล้วและปลายทางที่มีการรับซื้อภาพไปก็มีการสอบปากคำไปแล้วบางส่วน แต่ยังไม่หมด



+++หลังจากที่ครอบครัว ญาติ เพื่อนสนิท และแฟนคลับ ได้ร่วมทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับโอ วรุฒ วรธรรม บริเวณศาลาวัดพระสิงห์วรมหาวิหาร จ.เชียงใหม่ ก่อนที่จะเคลื่อนย้ายศพไปยังวัดพระนอนขอนตาล อำเภอแม่ริม เพื่อเก็บไว้ 100 วัน รอขั้นตอนการขอพระราชทานเพลิงศพ



+++คดีอาชญากรรมสะเทือนขวัญ ตำรวจนำตัวนายพูล่า สัญชาติลาว ผู้ต้องหาฆ่าปาดคอยาย และหลานสาวเสียชีวิต ภายในบ้านพัก จ.สมุทรปราการ มาทำแผน นายพูล่า สารภาพในชั้นสอบสวนว่าเป็นผู้ลงมือทำจริง ก่อนก่อเหตุวางแผนล่วงหน้า เพื่อเข้าไปชิงทรัพย์ เพราะจะนำเงินไปซื้อยาเสพติด ส่วนที่ต้องฆ่าปาดคอ เพื่อปกปิดความผิดที่ตัวเองกระทำ ก่อนเกิดเหตุเห็นยาย ขายของชำมีเงินมากและใส่ทอง เสียดายที่หนีข้ามฝั่งกลับบ้านเกิดไม่ทัน เพราะเรือกำลังมารับข้ามไปยังแขวงสะหวันนะเขต



แฟ้มภาพ 



 

ข่าวทั้งหมด

X