+++พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและคณะ เดินทางถึงสหราชอาณาจักรแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ ได้พบทักทายกับกลุ่มคนไทยที่มารอต้อนรับ พร้อมนำดอกไม้มามอบให้กำลังใจ และบอกกับนายกฯว่าติดตามให้กำลังใจตลอด ขอให้สู้ ๆ และเป็นนายกฯต่อ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวขอบคุณมิตรไมตรีขอให้คนไทยอย่าลืมบ้านเกิดและช่วยกันอย่าให้ใครมาทำลายประเทศนายกฯ พร้อมทั้งมอบนโยบายให้ทีมประเทศไทย ณ กรุงลอนดอน และพบหารือนักธุรกิจ จากนั้นนายกฯ ออกเดินทางไปทำเนียบนายกฯสหราชอาณาจักร เพื่อเข้าพบกับนางเทรีซา เมย์ นายกฯสหราชอาณาจักร และช่วงเย็นนายพิษณุ สุวรรณะชฎ เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงลอนดอน และภริยา จะเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารค่ำเพื่อเป็นเกียรติแก่นายกรัฐมนตรีและคณะ
+++ภารกิจวันที่ 21 มิ.ย. นายกฯ จะกล่าวเปิดงาน “Transforming Thailand” ณ โรงแรมเดอะ แลนด์มาร์ค ลอนดอน ก่อนจะฟังบรรยายสรุปและดูงานเกี่ยวกับการส่งเสริมการศึกษาและพัฒนาทรัพยากรบุคคลของบริษัท เพียร์สัน ซึ่งเป็นหลักสูตรด้านอาชีวศึกษา ณ สำนักงานใหญ่บริษัท เพียร์สัน และในช่วงบ่ายนายกฯ มีกำหนดพบปะชุมชนไทยในสหราชอาณาจักร
+++ขณะที่ในวันที่ 22 มิ.ย. นายกฯ และคณะจะเดินทางเยือนสาธารณรัฐฝรั่งเศส โดยจะพบหารือกับนายกีโยม โฟรี ประธานบริษัท Airbus Commercial Aircraft ที่เมืองตูลูส สาธารณรัฐฝรั่งเศส
+++องค์คณะผู้พิพากษาศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองนัดพิจารณาคดีครั้งแรก ในคดีที่อัยการสูงสุดเป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี คดีทุจริตธนาคารกรุงไทยอนุมัติสินเชื่อวงเงิน 9,000 ล้านบาทให้บริษัทในเครือกฤษดามหานคร นายทักษิณ ไม่ได้เดินทางมาศาล โดยไม่แจ้งเหตุอันควรหรือแจ้งเลื่อนนัดต่อศาล จึงเชื่อว่ามีพฤติการณ์หลบหนี ให้ออกหมายจับเพื่อติดตามตัวมาดำเนินคดี และให้อัยการสูงสุด รายงานผลการจับกุมทุกเดือน โดยส่งหมายศาลและปิดหมายศาลให้จำเลยรับทราบ
+++ผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) นายจาตุรงค์ จันทรังษ์ เลขานุการกนง. เปิดเผยว่า คณะกรรมการ มีมติ 5 ต่อ 1 เสียง ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ร้อยละ 1.50 ต่อปี โดย 1 เสียงให้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายร้อยละ 0.25 เป็นร้อยละ 1.75 เพราะเห็นว่า เศรษฐกิจมีการขยายตัวชัดเจน พร้อมทั้งปรับประมาณการเศรษฐกิจปีนี้เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 4.1 เป็นร้อยละ 4.4 และเศรษฐกิจปี2562 โตร้อยละ 4.2 จากเดิมร้อยละ 4.1 จากแรงขับเคลื่อนจากการส่งออกปีนี้ที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 7 เป็นร้อยละ 9 ขณะที่การบริโภคภาคเอกชน ขยายตัวต่อเนื่องร้อยละ 3.7 แต่การขยายตัวของเศรษฐกิจยังไม่ได้ส่งผลดีต่อครัวเรือนและการจ้างงานอย่างทั่วถึง ต้องติดตามการลงทุนในโครงการพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรืออีอีซี ว่าจะเป็นไปตามแผนหรือไม่ คาดการณ์การลงทุนภาครัฐ โตร้อยละ 8.9 ลดลงจากเดิมร้อยละ 9.5
+++ปัจจัยเสี่ยงสำคัญมาจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับนโยบายการค้าระหว่างประเทศของสหรัฐฯ การกีดกันการค้า และมาตรการการตอบโต้จากคู่ค้าของสหรัฐฯ ที่อาจส่งผลต่อการค้าโลกและการส่งออกของไทย ขณะเดียวกัน ยังติดตามการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทที่ยังคงมีความผันผวนสูง เนื่องจากยังมีเงินทุนไหลออกจากตลาดหุ้น ตลาดพันธบัตรไทย กลับไปลงทุนเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แต่ยังไม่กระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวม พื้นฐานเศรษฐกิจยังเข้มแข็ง ทุนสำรองระหว่างประเทศยังสูง หนี้ต่ำ แม้เงินทุนระยะสั้นจะไหลออก แต่เศรษฐกิจยังมีเสถียรภาพและมีความเข้มแข็ง
+++การลงทุนในตลาดหุ้นไทย ปิดที่ 1,664.26 จุด บวก 24.72 จุด ตลาดหุ้นไทยรีบาวด์ตามตลาดหุ้นในภูมิภาค หลังจากที่ช่วง 5 วันที่ผ่านมาปรับตัวลง 88 จุด หรือประมาณร้อยละ 5 โดยมีแรงซื้อกลับหุ้นในกลุ่มพลังงาน แบงก์ สื่อสาร โรงพยาบาล และค้าปลีก นอกจากนี้ เรื่องที่กนง. ปรับเป้าจีดีพีใหม่ ช่วยหนุนให้ตลาดหุ้นไทยปิดบวก
+++การลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศ ฮั่งเส่ง ฮ่องกง เพิ่มขึ้น 228.02 จุด ปิดที่ 29,696.17 จุด
+++ดัชนีนิเคอิ โตเกียว ญี่ปุ่น ปิดเพิ่มขึ้น 276.95 จุด ปิดที่ 22,555.43 จุด เนื่องจาก ความวิตกกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน
+++คดีสลาก 30 ล้านบาท นายอนันต์ กัลปะ ศึกษาธิการจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวถึงกรณีที่ครูปรีชา ใคร่ครวญ ครูโรงเรียนเทพมงคลรังษี ถูกย้ายไปช่วยราชการที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 8 (จังหวัดราชบุรี-กาญจนบุรี) หรือ สพม. เขต 8 ว่า เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องจริง เนื่องจากเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน สพม.เขต 8 ได้ส่งหนังสือแจ้งมาว่า มีการตั้งคณะกรรมการสอบครูปรีชาเรื่องการผิดวินัยข้าราชการ และคณะกรรมการ มีความเห็นว่า ครูปรีชา มีความผิดวินัยร้ายแรง เนื่องจาก ถูกดำเนินคดีในความผิด 2 ข้อหา คือ 1. ให้การเท็จ แจ้งให้เจ้าพนักงานจดข้อความอันเป็นเท็จ แกล้งให้ผู้อื่นรับโทษทางอาญา และ 2. สนับสนุนเจ้าพนักงานให้ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ซึ่งคำสั่งให้ย้ายไปช่วยราชการ ที่ สพม.เขต 8
+++หนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียนของอังกฤษ รายงานว่า ชาวต่างชาติจำนวนมากในรัสเซียจะมีความทรงจำที่ดีกลับไปมากมายและเปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อประเทศรัสเซีย สื่ออังกฤษรายงานในบทบรรณาธิการหัวข้อ "Ten things we have learned from the first round of World Cup games" หรือ 10 เรื่องที่ได้เรียนรู้จากฟุตบอลโลกที่รัสเซียว่า ต่อไปนี้แฟนบอลทีมอังกฤษจะมองรัสเซียในทางที่ดีขึ้นนับจากรัสเซียเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 สื่ออังกฤษ ยกย่องว่ารัสเซียเป็นสถานที่ดีที่สุดในโลกแห่งหนึ่งในการเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก
แฟ้มภาพ