*สน.บุปผารามรวบผตห.ลักทรัพย์ตามสวนสาธารณะแทบทุกที่ พร้อมของกลางจำนวนมาก*

พ.ต.อ.สุรเดช เด่นธรรม รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล8 พร้อมด้วยพ.ต.อ.ยุทธนา ปุญชรัศมิ ผู้กำกับการสน.บุปผาราม แถลงจับกุมนายพรชัย ผลโยธิน หรือ ติ๊ก อายุ32 ปี ผู้ต้องหาในคดีลักทรัพย์ ที่ก่อเหตุมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน ผู้ต้องหาจะสังเกตผู้เสียหายที่ขี่รถจักรยานยนต์ มาออกกำลังกายตามสวนสาธารณะต่างๆ จากนั้นจะเลือกผู้เสียหายที่เอาทรัพย์สินไว้ใต้เบาะรถ โดยผู้ต้องหาจะขับรถเข้าไปจอดใกล้ๆรถของผู้เสียหายและใช้มือล้วงเบาะรถเพื่อขโมยทรัพย์สิน ทำให้มือขวาผู้ต้องหามีบาดแผลและรอยแผลเป็น รวมถึงในบางครั้งจะทำทีเป็นพลเมืองดีเข้าไปช่วยจอดรถ หรือเตือนผู้เสียหายให้ระวังทรัพย์สินมีค่าเพราะอาจถูกขโมยได้  เจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดสืบสวนสอบสวน สน.บุปผาราม จึงทำทีไปออกกำลังกายที่ลานพระบรมราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระเจ้าตากสิน วงเวียนใหญ่ เพื่อสังเกตพฤติกรรมเนื่องจากเฉพาะเดือนสิงหาคม มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความที่สน.บุปผารามจำนวนมาก จากนั้นเมื่อพบผู้ต้องหาจึงเข้าตรวจสอบ และจับกุม เบื้องต้น ตำรวจ พบว่าผู้ต้องหามีหมายจับ ในคดีลักทรัพย์ อีกประมาณ 4 หมายจับ ส่วนของกลางที่ยืดได้ มีรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า นูโว สีน้ำเงินขาว ไม่มีแผ่นป้ายทะเบียน ซึ่งเป็นรถของผู้ต้องหา กับรถจักรยานยนต์ฮอนด้า คลิก สีแดงขาว เลขทะเบียน อปอ 32 กทม. ซึ่งเป็นรถที่ขโมยมาเมื่อปีที่แล้ว นอกจากนี้ ของกลางที่ยืดได้ ประกอบด้วยโทรศัพท์มือถือ เงินสกุลต่างประเทศ กระเป๋า รองเท้า และชุดออกกำลังกาย ซึ่งในจำนวนของกลางที่ยืดได้ โทรศัพท์มือถือส่วนใหญ่เป็นเครื่องที่ขายไม่ได้ราคาทำให้ผู้ต้องหายังเก็บไว้

ทั้งนี้ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ว่าก่อเหตุในลักษณะนี้มาในสวนสาธารณะหลายแห่งแล้ว เช่น ที่วงเวียนใหญ่ สวนลุมพินี สวนรถไฟ เพื่อนำเงินไปเล่นพนันฟุตบอล ส่วนโทรศัพท์มือถือที่ ขโมยมาได้จะนำไปขายต่อตามร้านขายทั่วไป โดยจะอ้างกับทางร้านว่าเอามาจากบ่อนการพนัน

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ สืบประวัติ พบว่า ผู้ต้องหาเคยทำงานเป็นเจ้าหน้าที่พิมพ์โฉนดที่ดิน อยู่ที่กรมที่ดิน ปากเกร็ด แต่ถูกให้ออกจากงานเนื่องจากไปขโมยนาฬิกา

เจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝากเตือนประชาชน ที่ชอบออกกำลังกายว่า ไม่ควรนำทรัพยสินมีค่าติดตัวไปออกกำลังกายด้วย รวมถึงเตือนประชาชนไม่ควรตั้งรหัสบัตรเอทีเอ็ม เป็นเลขวันเดือนปีเกิด หรือรหัสประจำตัวประชาชน เพราะเมื่อถูกลักทรัพย์ โจรจะได้ไปทั้งกระเป๋าทำให้สามารถไปสุ่มกดได้  อย่างไรก็ตามใครที่เคยเจอเหตุการณ์ในลักษณะนี้ ก็สามารถเข้าไปขอดูของกลางได้ที่ สถานีตำรวจนครบาล บุปผาราม เนื่องจากยังมีของกลางจำนวนมาก ยังหาเจ้าของไม่พบ

บุศรินทร์