เตรียมสรุปผลปฎิรูปประเทศด้านกฎหมายให้กก.ชุดใหญ่/ดีเอสไอ จะหารือปปง.คืนของกลางเยียวยาสหกรณ์เครดิตคลองจั่น/ตลาดจับตาผลประชุมเฟด

13 ธันวาคม 2560, 20:03น.


+++นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึง กรณีที่นายสมชัย ศรีสุทธิยากร คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ยื่นหนังสือถึงประธานกกต. ขอให้พิจารณาเรื่องการคัดเลือกกกต.ชุดใหม่จากที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาอาจขัดมาตรา 12 วรรคสาม ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง ที่กำหนดให้ในการสรรหาหรือคัดเลือกใช้วิธีการลงคะแนนโดยเปิดเผย และให้กรรมการสรรหาแต่ละคนบันทึกเหตุผลในการเลือกไว้ด้วย ว่ากระบวนการก็อาจจะหยุดชะงัก แต่คงไม่รอ ต้องปล่อยให้กระบวนการต่างๆ เดินหน้าไป แล้วไปแก้ไขทีหลัง เพราะที่มีการร้องมา ก็ยังไม่รู้ว่า ถูกหรือผิดเพราะเป็นเรื่องของศาลฎีกา รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เมื่อเรื่องไปถึงผู้ที่ต้องวินิจฉัย ซึ่งวันนี้ก็คือประธาน กกต. ในฐานะผู้รักษาการตามกฎหมาย และประธานสนช. เนื่องจาก สนช. ต้องให้ความเห็นชอบรายชื่อทั้งหมด รวมถึงการนำความขึ้นกราบบังคมทูลฯ ซึ่งบุคคลเหล่านี้จะต้องเป็นผู้พิจารณา และไม่ใช่หน้าที่ของตัวเองที่จะเข้าไปดูตรงนี้



+++นายเดชา คำสิทธิ เลขานุการศาลฎีกา กล่าวว่า ศาลฎีกา ยังไม่ได้ชี้เเจงในประเด็นใด เนื่องจากเป็นเพียงความเห็นของนายสมชัย  ในส่วนของศาลฎีกา ดำเนินการตามกฎหมาย มีกระบวนการคัดเลือกในที่ประชุมใหญ่และมีการส่งรายชื่อไปเเล้ว



+++ความคืบหน้าการปฏิรูปประเทศด้านกฎหมาย นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธานคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านกฎหมาย เปิดเผยว่า อยู่ระหว่างนำแผนปฏิรูปไปรับฟังความเห็นจากฝ่ายต่าง ๆ และเตรียมสรุปผลเพื่อส่งให้คณะกรรมการปฏิรูปชุดใหญ่ในวันที่ 22 ธ.ค.นี้ จากนั้นนำแผนไปรับฟังความเห็นและเสนอต่อคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติและคณะรัฐมนตรีต่อไป ยืนยันว่า การปฏิรูปกฎหมายครั้งนี้ไม่ได้เป็นแค่แผนปฏิรูป แต่จะแนบร่างกฎหมายหลายเรื่องที่จะต้องปรับปรุงใหม่ ภายใต้ร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการจัดทำร่างกฎหมาย ที่คณะกรรมการพัฒนากฎหมายกำลังพิจารณาอยู่ และเร็ว ๆ นี้จะเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อตราขึ้นมาบังคับใช้ ดังนั้นการปฏิรูปครั้งนี้ไม่ใช่แค่เรื่องของแผนปฏิรูป แต่จะต้องลงมือทำ เพราะเมื่อคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติเห็นชอบแผนแล้ว หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องดำเนินการตาม หากไม่ดำเนินการก็จะมีความผิดวินัยร้ายแรง โดยหัวหน้าหน่วยงานต้องรับผิดชอบ



+++นายขจรศักดิ์ พุทธานุภาพ อัยการพิเศษฝ่ายการสอบสวน 3 สำนักงานการสอบสวน สำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยภายหลังเข้าร่วมประชุมกับพนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) และตัวแทนสมาชิกสหกรณ์เครดิตยูเนียนคลองจั่น เพื่อพิจารณาคำร้องขอให้ดีเอสไอถอนอายัด และคืนทรัพย์สินของสหกรณ์คลองจั่น ซึ่งผู้เสียหายชนะคดีแพ่งเมื่อเดือนพ.ย.2559 โดยมีทรัพย์สิน 299 รายการ ประกอบด้วยที่ดินจากทั่วประเทศ เงินสด รถยนต์ มูลค่าทรัพย์สิน 3,800 ล้านบาท  ซึ่งมีชื่อของนายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสมาชิกสหกรณ์คลองจั่นเป็นผู้ครอบครองว่า ก่อนหน้านี้ดีเอสไอได้ประสานไปยังสำนักป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.) แล้ว แต่ปปง.ได้ส่งเรื่องกลับคืนมาให้ดีเอสไอโดยระบุว่า ทรัพย์ในคดีเพ่งที่กลุ่มสมาชิกสหกรณ์ระบุนั้นเป็นทรัพย์ที่เกี่ยวพันกับคดีอาญาในคดีฟอกเงิน จึงถือเป็นทรัพย์ในคดีอาญาไม่สามารถถอนอายัดหรือคืนทรัพย์ได้



+++นายขจรศักดิ์ กล่าวว่า ในวันนี้พนักงานสอบสวน ได้เชิญตัวแทนปปง.เข้าร่วมหารือในเรื่องดังกล่าว  แต่ปปง.ไม่ได้ส่งเจ้าหน้าที่มาร่วมประชุม ดังนั้น สัปดาห์หน้าพนักงานสอบสวนจะทำหนังสือหารือไปยังปปง.อีกครั้งว่าจะสามารถใช้ช่องทางตาม พ.ร.บ.กฎหมายฟอกเงินเพื่อนำทรัพย์สินของสหกรณ์มาเยียวยาผู้เสียหายได้หรือไม่  เพราะปปง.มีกฎหมายเฉพาะที่สามารถดำเนินการได้เร็วกว่าโดยที่ไม่ต้องรอคำพิพากษาของศาลจนถึงที่สุด สำหรับคดีนี้พนักงานสอบสวนในคดีไม่มีอำนาจตามกฎหมายที่จะคืนของกลางเพื่อเยียวยาสมาชิกสหกรณ์  เนื่องจากจะต้องผ่านกระบวนการพิจารณาทางอาญาก่อน  เพราะการยึดอายัดทรัพย์เป็นการกระทำผิดกฎหมายฐานฟอกเงิน ต้องรอให้ศาลพิจารณาคดีจนถึงที่สุดก่อนจึงจะสามารถคืนของกลางได้



+++การลงพื้นที่จ.กาฬสินธุ์ ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ พร้อมคณะ นายกฯ เปิดเผยว่า ได้รับการต้อนรับอย่างยอดเยี่ยม ได้เห็นรอยยิ้มและนับเป็นวันหนึ่งที่มีความสุขมาก ปีนี้มีชาวต่างประเทศมาเที่ยวประเทศไทยถึง 34 ล้านคน เชื่อว่าเห็นบ้านเมืองสงบเรียบร้อย ไม่มีประท้วง ไม่มีข้อขัดแย้ง บ้านเมืองมีเสถียรภาพ มีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน จ.กาฬสินธุ์เป็นจังหวัดนำร่องในการพัฒนาที่จะนำไปสู่จังหวัดที่หลุดพ้นจากความยากจน และเมื่อได้รับการอนุมัติงบประมาณตามโครงการ ต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จด้วย ตั้งแต่เรื่องของอุโมงค์ผันน้ำ เงินงบประมาณ 305 ล้านบาท การอนุมัติงบก่อสร้างเส้นทางคมนาคม 4 ช่องการจราจร จำนวน 3 โครงการ จำนวนงบประมาณ 1,400 ล้านบาท นอกจากนี้ยังอนุมัติงบประมาณการจัดซื้อเครื่องสาวไหมจำนวน 5 เครื่องๆละ 5 ล้านบาท และยังอนุมัติงบประมาณในการปรับปรุงต่อเติมศูนย์การเรียนรู้ รวมทั้งการสานต่อการก่อสร้างเส้นทางสายไหมในประเทศไทยเพื่อให้เกิดความเชื่อมโยงกับต่างประเทศ เพื่อให้เกิดลู่ทางการลงทุน



+++พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า รัฐบาลจะขอความร่วมมือให้ประชาชนที่มีบ้านอยู่ไกลออกไปจากชุมชน ย้ายมาอยู่ใกล้ชุมชนได้หรือไม่ เพราะหากอยู่บ้านเดี่ยวโดดๆก็จะมีปัญหา ในเรื่องของการกระจายข่าว จะเรียกประชุมหมู่บ้านแต่ละครั้ง ก็ลำบาก จะเป็นไปได้หรือไม่ ที่จะให้มาใกล้ชุมชน แต่ที่ดินทำกินสำหรับประกอบเกษตรกรรม ก็อยู่ที่เดิมได้ โดยอาจจะหารถจักรยานยนต์สำหรับใช้เพื่อขับไปทำไร่ทำนา ทั้งนี้ เราต้องการสร้างสังคมชนบทให้เข้มแข็ง เพราะถ้าไม่ทำแบบนี้ก็ไปไม่ได้ นอกจากนี้ ยังต้องตรวจสอบว่าวิทยุชุมชน หอกระจายข่าวที่มีอยู่เดิม ยังใช้ได้หรือไม่ และได้กระจายสาระที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนหรือไม่



+++จากนั้นพล.อ.ประยุทธ์ ถามประชาชนว่า ในการเลือกตั้งจะเลือกใคร โดยได้รับคำตอบว่า จะเลือกพล.อ.ประยุทธ์ นายกฯจึงตอบกลับไปว่า จะเลือกได้ยังไง ก็ลงเลือกตั้งไม่ได้ แต่วันหน้าเลือกให้ดีก็แล้วกัน พร้อมย้ำว่า ใครจะวิจารณ์ตัวเองก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่ขอความเป็นธรรมให้ได้ชี้แจงบ้าง และเดินหน้าการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี การปลดล็อคพรรคการเมือง จะทำตามเวลาที่สมควร



+++ระหว่างการพูด พล.อ.ประยุทธ์ มีการไอเป็นระยะ รวมทั้งมีเสียงที่แหบแห้ง จึงบอกกับชาวบ้านที่มาต้อนรับว่า ช่วงนี้เป็นหวัดนิดหน่อย แต่ต้องมาให้ได้ ก่อนเดินทางมา 3 วัน ฉีดยามา 3 เข็ม กลัวไม่ได้มาเจอกับพี่น้อง หลายคนอยากให้มา ตัวเองก็อยากมา ก็เป็นแรงส่งให้มาให้ได้ ผมสู้ตายในการที่จะมาแก้ปัญหากับทุกคน



+++นายเอนก คำชุ่ม ทนายความของญาตินายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง นักธุรกิจที่เสียชีวิตระหว่างโดยสารรถไปกับพ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เพื่อนสนิทซึ่งเป็นผู้ขับรถ และเกิดอุบัติเหตุพุ่งชนรั้วและต้นไม้เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2558 โดย พ.ต.ท.บรรยินไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่นายชูวงษ์เสียชีวิต  ซึ่งญาติติดใจการเสียชีวิตของนายชูวงษ์ว่า อาจเกิดจากการฆาตกรรมหรือเสียชีวิตก่อนที่จะเกิดอุบัติเหตุ และฟ้องร้องต่อศาลให้พิจารณาในเรื่องดังกล่าว โดยก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองพิสูจน์หลักฐานและกองปราบปรามได้จำลองการเกิดเหตุเพื่อหาข้อเท็จจริงทางคดีหลายครั้ง



+++ล่าสุดวันนี้ศาลพระโขนง นัดฟังคำสั่งไต่สวนมูลฟ้องคดีฆาตกรรมชูวงษ์ โดยศาลพิจารณาแล้วมีคำสั่งประทับรับฟ้องพ.ต.ท.บรรยิน ฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ปกปิด ซ่อนเร้น, และมุ่งเน้นเอาทรัพย์ผู้อื่น มูลเหตุจูงใจจากหุ้นมูลค่าหลายร้อยล้านบาทไว้พิจารณาต่อ เนื่องจากคดีดังกล่าวมีมูลตามข้อเท็จจริง  เพราะศาลเชื่อตามพยานหลักฐานที่ยื่นต่อศาลว่า นายชูวงษ์ ถูกทำให้เสียชีวิตก่อนเกิดเหตุ ทั้งนี้รายละเอียดของการเสียชีวิตและประเด็นต่างๆยังไม่สามารถเปิดเผยได้ในขณะนี้เนื่องจากเกรงว่าจะมีผลต่อรูปคดี โดยศาลได้นัดพร้อมคู่ความวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2561 ขณะที่ ญาติของนายชูวงษ์ก็พอใจกับคำสั่งดังกล่าวเนื่องจากต้องการให้การเสียชีวิตของนายชูวงษ์มีความชัดเจนมากขึ้น และหากเป็นการฆาตกรรม ก็จะได้ลงโทษผู้กระทำความผิดต่อไป



+++การลงทุนในตลาดหุ้นไทย ปิดตลาดที่ 1,706.93 จุด เพิ่มขึ้น 4.76 จุด มูลค่าการซื้อขาย 43,738.48 ล้านบาท หุ้นไทยแกว่งตัว Sideway เนื่องจากนักลงทุนต่างชาติมีการปรับพอร์ตในช่วงปลายปีทำให้มูลค่าการซื้อขายเบาบาง โดยวันนี้มีแรงขายหุ้นในกลุ่มสื่อสาร ธนาคาร และอสังหาริมทรัพย์ แต่ก็มีแรงซื้อหุ้นในกลุ่มพลังงาน ทั้งนี้ มองแนวโน้มตลาดหุ้นไทยยังขึ้นต่อจากปัจจัยกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยว ปัจจัยต่างประเทศตลาดยังจับตาผลการประชุมนโยบายการเงินหรือเฟดในเช้าวันที่ 14 ธ.ค.นี้ และดูทิศทางการปรับขึ้นดอกเบี้ยในปี 2561 แต่เชื่อว่าจะมีผลต่อเงินทุนไหลออกบ้างจะมากหรือไม่ต้องรอดูข้อมูลที่จะประกาศอีกครั้ง



+++การลงทุนในตลาดหุ้นฮั่งเส่ง ฮ่องกง เพิ่มขึ้น 428.22 จุด  ปิดวันนี้ที่ 29,222.10 จุด

+++การลงทุนในตลาดหุ้นนิเคอิ โตเกียวญี่ปุ่น ปิดร่วงลง 108.10 จุด  ปิดที่ 22,758.07 จุด



+++บีบีซี รายงานว่า การแถลงต่อที่ประชุมสุดยอดขององค์การความร่วมมืออิสลาม(โอไอซี)ในเมืองอิสตันบูล ตุรกีในวันนี้ ประธานาธิบดีเรเซป เทย์ยิป แอร์โดกัน ของตุรกี เรียกร้องให้ผู้นำกลุ่มประเทศมุสลิมให้การรับรองว่านครเยรูซาเล็ม เป็นเมืองหลวงของรัฐปาเลสไตน์ แต่ถูกอิสราเอลเข้ายึดครองโดยไม่ชอบด้วยกฏหมาย ทุกประเทศมุสลิมควรจะแสดงจุดยืนร่วมกันว่าคำประกาศของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯเรื่องการรับรองสถานะนครเยรูซาเล็มเป็นเมืองหลวงของอิสราเอลเมื่อสัปดาห์ก่อนไม่มีผลบังคับตามหลักกฏหมายระหว่างประเทศ ผู้นำตุรกี ประณามอิสราเอลว่าเป็นรัฐก่อการร้ายกรณีการผนวกดินแดนปาเลสไตน์เป็นอาณาเขตไปโดยพลการ



+++ด้านนายมาห์มูด อับบาส ผู้นำปาเลสไตน์ ระบุว่า สหรัฐฯทำลายความน่าเชื่อถือของตัวเองจึงไม่ควรจะเข้าไปมีบทบาทในการสร้างสันติภาพอิสราเอล-ปาเลสไตน์อีกต่อไป ที่ประชุมไม่ควรจะยอมรับบทบาทของสหรัฐฯในกระบวนการสร้างสันติภาพในภูมิภาคนี้อีกต่อไปเนื่องจากชัดเจนแล้วว่าสหรัฐฯมีจุดยืนเอนเอียงเข้าข้างอิสราเอล



แฟ้มภาพ 



 



 



 

ข่าวทั้งหมด

X