ระดมสมอง เพื่อความปลอดภัยทางถนน ตั้งเป้าลดผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนถนนในไทย!

การสัมมนาวิชาการระดับชาติ เรื่องความปลอดภัยทางถนน ครั้งที่ 13 ภายใต้แนวคิด "ลงทุนเพื่อความปลอดภัยทางถนนที่ยั่งยืน" นายสุธี มากบุญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธาน กล่าวเปิดงานว่า การป้องกันและลดความสูญเสียจากการอุบัติเหตุเป็นสิ่งที่รัฐบาลตระหนัก ถือเป็นในนโยบายที่ได้ประกาศไว้ตามแผน "ทศวรรษแห่งการปฏิบัติการเพื่อความปลอดภัยทางถนน พ.ศ. 2554-2563" เพื่อลดอัตราการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุลงครึ่งหนึ่งภายในปี 2563 ซึ่งรัฐบาลจะเร่งพัฒนาและเพิ่มการลงทุนเพื่อความปลอดภัยทางถนนที่ยั่งยืน ในเรื่องที่เป็นหัวใจสำคัญ โดยเฉพาะมาตรการ 4 ห้าม 2 ต้อง คือ ห้ามขับเร็ว ห้ามดื่ม ห้ามเมาขับ ห้ามโทรขับ และต้องคาดเข็มขัดนิรภัย ต้องสวมหมวกนิรภัยขณะขับขี่รถจักรยานยนต์ เพื่อไปสู่เป้าหมายแห่งการสร้างถนนปลอดภัย ได้แก่ การสนับสนุนกลไกศูนย์อำนวยความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) ระดับจังหวัด อำเภอ เพื่อการจัดการปัญหาในพื้นที่ ,การปรับปรุงระเบียบงบประมาณของ ศปถ.อปท. ให้ใช้งบประมาณจัดการปัญหาอุบัติเหตุในพื้นที่ได้อย่างเต็มที่

 การให้กระทรวงแรงงาน เพิ่มบทบาทเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน (จป.) ความปลอดภัยทางถนนในทุกโรงงาน ตามแนวทาง Safety Thailand เพราะผู้ประกันตนร้อยละ40  เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน การเพิ่มประสิทธิภาพการบังคับใช้กฎหมาย เช่น การจัดการความเร็วในเขตเมือง, การจัดการปัญหาเมาล้วขับ, รวมทั้งเพิ่มบทลงโทษ เพิ่มการตรวจจับอย่างจริงจัง

การส่งเสริมความปลอดภัยใยกลุ่มเสี่ยงหลัก โดยเฉพาะรถจักรยานยนต์ รถจักรยาน และคนเดินถนน,ให้เด็กมีการเรียนรู้เรื่องความปลอดทางถนน ตั้งแต่ระดับอนุบาล จนถึงระดับอุดมศึกษา และการสนับสนุนให้มีกลไกการสอบสวนสาเหตุ การติดตามประเมินผลที่มีประสิทธิภาพ เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงของการเกิดอุบัติเหตุ นำไปสู่การป้องกันแก้ไข

ด้าน น.พ.ธนะพงศ์ จินวงษ์ ผู้จัดการศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนน สถานการณ์อุบัติเหตุทางถนน ถือเป็นปัญหาสำคัญของโลก โดยแต่ละปีมีผู้คนทั่วโลกเสียชีวิตกว่า 1.3 ล้านคน และอีกกว่า 50 ล้านคนได้รับบาดเจ็บ จนองค์การสหประชาชาติกำหนดให้ปี 2554-2563 เป็นทศวรรษแห่งการปฏิบัติการเพื่อความปลอดภัยทางถนน เพื่อให้ประเทศสมาชิกร่วมกันกำหนดมาตรการที่เหมาะสม เพื่อลดอัตราผู้เสียชีวิตลงครึ่งหนึ่ง

ประเทศไทยยังคงติดอันดับต้นๆ ที่มีอัตราการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ โดยตัวเลขเสียชีวิตจากข้อมูลใบมรณะบัตรเฉลี่ย 14,000 - 15,000 คน/ปี เฉลี่ยวันละ 40-50 คน และเมื่อตรวจสอบข้อมูล 3 ฐาน (มรณะบัตร ตำรวจ และประกันภัย) จึงพบว่ายอดเสียชีวิต เพิ่มขึ้นร้อยละ 33 หรือเฉลี่ย 20,000 ราย/ปี โดยมีมูลค่าความสูญเสียถึง 5 แสนบาท หรือ 6% GDP การสัมมนาในครั้งนี้ จึงต้องการเน้นย้ำความสำคัญในเรื่องการลงทุนผ่านเสาหลักต่างๆ และสอดคล้องกับทิศทางเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศ เพื่อเพิ่มความเข้มแข็งของระบบบริหารจัดการการบังคับใช้กฎหมาย ที่สำคัญคือมีแนวทางและแผนงานในการลงทุนเพื่อให้เกิดความปลอดภัยบนถนนที่ยั่งยืน