ในทุกปีประเทศไทยได้รณรงค์ให้ผู้ใช้รถยนต์ส่วนบุคคล หันมาใช้บริการรถสาธารณะ และรถจักรยานในวัน Car Free Day เพื่อลดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ลดมลภาวะทางอากาศ รวมถึงลดปัญหาการจราจร แต่ปัจจุบันสถิติการใช้รถใช้ถนนกลับเพิ่มขึ้น โดยข้อมูลจากกรมการขนส่งทางบก สถิติรถจดทะเบียนใหม่ทั่วประเทศเฉพาะช่วง 6 เดือนแรกของปี 2562 ตั้งแต่เดือนมกราคม – มิถุนายน 2562 พบว่ามีผู้นำรถใหม่ป้ายแดงมาดำเนินการจดทะเบียน รวมทั้งสิ้น 1,615,524 คัน
ด้วยเหตุผลหลายประการที่หลายคน ยังใช้รถยนต์ส่วนบุคคลอยู่โดยให้เหตุผลว่า การบริการของรถสาธารณะต้องเพียงพอต่อผู้โดยสาร ส่วนใหญ่เป็นรถร้อน เมื่อเจอสภาพอากาศร้อนและในวันฝนตกอากาศชื้นทำให้ไม่อยากใช้บริการ ค่าโดยสารต้องไม่แพงเกินไป ความปลอดภัยของรถที่ต้องขึ้นไปยืน และบางครั้งหิ้วสัมภาระหลายอย่างจึงไม่สะดวกต่อการใช้รถสาธารณะ
การเข้าถึงเส้นทางครอบคลุมทุกพื้นที่ ทุกเวลานั้นก็สำคัญไม่ใช่เพียงแค่เฉพาะพื้นที่เขตเมือง ที่มีรถเข้าถึงทุกเส้นทาง สำหรับคนทำงานที่อยู่นอกเมืองที่เดินทางเข้ามาทำงาน ต้องใช้รถหลายต่อไม่ว่าจะวินจักรยานยนต์ รถไฟฟ้า และแท็กซี่ ค่าใช้จ่ายสูงกว่าใช้รถส่วนบุคคลหลายเท่า
นอกจากนี้หากมีการปรับปรุงจำนวนของรถสาธารณะและเส้นทางที่ครอบคลุมแล้ว เรื่องเวลาก็สำคัญ ปัจจุบันเราทำงานแข่งกับเวลา เพื่อการตอบสนองต่อยุคปัจจุบัน บางคนเสนอความคิดเห็นว่าควรมีเลนสำหรับรถบัส และรถจักรยาน เพื่อสะดวกต่อการเดินทาง ทั้งยังสามารถกำหนดเวลาของรถได้
อย่างไรก็ตามได้มีการรณรงค์กันมาทุกปีของวัน Car Free Day สำหรับประเทศไทยนั้น ยังคงต้องมีการปรับปรุงอีกหลายด้าน ในเรื่องของรถสาธารณะและเส้นทางการให้บริการ รวมถึงค่าใช้จ่ายที่เหมาะสม ให้สอดคล้องต่อรายได้
ทำให้ปัจจุบันยังคงมีคนใช้รถส่วนบุคคลอยู่และมีแนวโน้มจะเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากมองว่าการใช้จ่ายและความสะดวกสบายที่มากกว่าการใช้บริการรถสาธารณะ