รมต.กระทรวงดิจิทัลฯ ชู"กรมอุตุ"ยุคใหม่! ใช้เทคโนโลยีพยากรณ์อากาศ เพิ่มความแม่นยำขึ้นเป็นร้อยละ 88

06 กันยายน 2562, 19:25น.


   นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เข้าเยี่ยมชมการปฏิบัติงานของกรมอุตุนิยมวิทยา ก่อนแถลงว่า ปัจจุบันกรมอุตุฯมีพัฒนาการในการพยากรณ์อากาศขึ้นมามากจากในอดีต มีการนำเทคโนโลยีดิจิทัลที่ทันสมัยมาใช้ในการตรวจอากาศ และประมวลผลด้วยคอมพิวเตอร์สมรรถนะสูง เพิ่มประสิทธิภาพความละเอียดในระดับพื้นที่ พร้อมทั้งยังพัฒนาระบบ Internet of Things (IoT) การบริหารจัดการข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) และปัญญาประดิษฐ์ (AI) เข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการพยากรณ์อากาศ โดยศูนย์ปฏิบัติการพยากรณ์อากาศมีจำนวน 120 แห่งทั่วประเทศ มีความแม่นยำของการพยากรณ์ได้ร้อยละ 88 (จากเดิมอยู่ที่ประมาณร้อยละ 60) อนาคตทางหน่วยงานจะของบประมาณเพิ่มเติมในการตั้งศูนย์พยากรณ์อากาศทั่วประเทศเพื่อความแม่นยำของระบบให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นภายในระยะเวลา 2 ปี




   ทั้งนี้ รัฐมนตรีกระทรวงดิจิทัลฯ ได้มอบหมายนโยบายให้กรมอุตุนิยมวิทยาเผยแพร่ข้อมูลให้ทั้งข่ายภาครัฐและเอกชนในการนำข้อมูลพยากรณ์อากาศไปใช้ โดยเฉพาะกลุ่มเกษตรกร พ่อค้าแม่ค้าตลาดนัด ที่จำเป็นต้องใช้ข้อมูลเหล่านี้ในการทำธุรกิจและดำเนินชีวิต นอกจากนี้ยังมีภารกิจที่ความสำคัญยิ่งในด้านการเตือนภัยพิบัติ และการเก็บข้อมูลสติถิ ปริมาณน้ำฝน ที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในการวางแผนบริหารจัดการน้ำและป้องกันภัยธรรมชาติในสภาวะต่างๆ ได้อย่างเหมาะสม 








  สำหรับสภาพอากาศของประเทศไทยนั้นต่างกับประเทศอื่นๆ เนื่องจากประเทศไทยมีลมพัดผ่านจากตะวันตกเฉียงใต้พัดเข้ามาในฤดูฝน และมีลมตะวันออกเฉียงเหนือพัดเข้ามาในฤดูฝน ซึ่งต่างจากประเทศอื่น เช่น ประเทศจีน ญี่ปุ่น เกาหลี ที่มีลมผ่านทางเดียวคือลมจากตะวันตกพัดไปทางตะวันออกตลอดทั้งปี ขณะที่สภาพแวดล้อมในประเทศไทย ปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงไป อาทิ การตัดต้นไม้บนภูเขา หรือการระเบิดภูเขา จะเห็นได้ว่าบางครั้งมีกลุ่มเมฆสีเทาลอยมาเหมือนกับว่าฝนกำลังจะตก แต่เมื่อเวลาผ่านไปสักพักกลับไม่ตก ทำให้การพยากรณ์อากาศเป็นไปได้ค่อนข้างยาก









 ชมคลิป

X