กรมทางหลวงชนบท (ทช.) โดยสำนักบำรุงทาง รายงานประจำวันที่ 5 ก.ย.62 มีถนนทางหลวงชนบท ประสบอุทกภัย 20 จังหวัด ซึ่งได้รับผลกระทบ จำนวน 154 สายทาง รถสามารถสัญจรผ่านได้ 99 สายทาง และสายทางที่ยังมีระดับน้ำท่วมสูงไม่สามารถสัญจรผ่านได้ 55 สายทาง โดยมีรายละเอียด ดังนี้
- จังหวัดเชียงใหม่ 3 สายทาง (สามารถสัญจรผ่านได้)
- จังหวัดพิจิตร 9 สายทาง (สามารถสัญจรผ่านได้ )
- จังหวัดพิษณุโลก 2 สายทาง (สามารถสัญจรผ่านได้ )
- จังหวัดแม่ฮ่องสอน 3 สายทาง (สามารถสัญจรผ่านได้ )
- จังหวัดเพชรบูรณ์ 2 สายทาง (สามารถสัญจรผ่านได้ )
- จังหวัดสุโขทัย 1 สายทาง (สามารถสัญจรผ่านได้ )
- จังหวัดขอนแก่น 2 สายทาง (สามารถสัญจรผ่านได้ )
- จังหวัดร้อยเอ็ด 25 สายทาง (สามารถสัญจรผ่านได้ 16 สายทาง , ไม่สามารถสัญจรผ่านได้ 9 สายทาง )
- จังหวัดมหาสารคาม 8 สายทาง (สามารถสัญจรผ่านได้ 6 สายทาง, ไม่สามารถสัญจรผ่านได้ 2 สายทาง )
- จังหวัดอุบลราชธานี 26 สายทาง (สามารถสัญจรผ่านได้ 8 สายทาง, ไม่สามารถสัญจรผ่านได้ 18 สายทาง )
- จังหวัดอำนาจเจริญ 10 สายทาง (สามารถสัญจรผ่านได้ 1 สายทาง, ไม่สามารถสัญจรผ่านได้ 9 สายทาง )
- จังหวัดยโสธร 11 สายทาง (สามารถสัญจรผ่านได้ 1 สายทาง, ไม่สามารถสัญจรผ่านได้ 10 สายทาง )
- จังหวัดศรีสะเกษ 6 สายทาง (สามารถสัญจรผ่านได้)
- จังหวัดมุกดาหาร 10 สายทาง (สามารถสัญจรผ่านได้ 3 สายทาง,ไม่สามารถสัญจรผ่านได้ 7 สายทาง )
- จังหวัดกาฬสินธุ์ 9 สายทาง (สามารถสัญจรผ่านได้ )
- จังหวัดนครพนม 4 สายทาง (สามารถสัญจรผ่านได้ )
- จังหวัดสกลนคร 10 สายทาง (สามารถสัญจรผ่านได้ )
- จังหวัดสระแก้ว 10 สายทาง (สามารถสัญจรผ่านได้ )
- จังหวัดระนอง 2 สายทาง (สามารถสัญจรผ่านได้ )
- จังหวัดพังงา 1 สายทาง (สามารถสัญจรผ่านได้ )
ขณะนี้หน่วยงานในพื้นที่ได้ติดตั้งป้ายเตือน ป้ายแนะนำเส้นทางเลี่ยง พร้อมนำเครื่องจักรเข้าดำเนินการจัดการสิ่งกีดขวางบนถนนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบเพื่ออำนวยึความสะดวกเรียบร้อยแล้ว และในกรณีถนนขาดเมื่อน้ำลดจะรีบดำเนินการเชื่อมทางทันที เพื่อให้ประชาชนสัญจรได้โดยเร็วที่สุดต่อไป ทั้งนี้ ประชาชนสามารถแจ้งเหตุอุทกภัยได้ที่สายด่วนกรมทางหลวงชนบท 1146 ตลอด 24 ชั่วโมง