ตามที่ได้เกิดสถานการณ์ฝนตกหนัก น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่มตั้งแต่คืนวันที่ ๑๖ สิงหาคม ที่ผ่านมานั้น กองทัพบก ได้จัดกำลังพลและยุทโธปกรณ์เข้าให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยโดยทันที โดยมีการปฏิบัติที่สำคัญดังนี้ ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพภาคที่ ๒ (กรมทหารราบที่ ๓) และศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพภาคที่ ๒ (กรมทหารราบที่ ๗, มณฑลทหารบกที่ ๓๓, มณฑลทหารบกที่ ๓๔ และกองพันทหารราบที่ ๔ กรมทหารราบที่๑๗) จัดกำลังพลพร้อมยานพาหนะ ช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยการขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง เปิดเส้นทางถนนจากเหตุดินถล่มทับ อำนวยความสะดวกด้านการจราจร ให้บริการทางการแพทย์ ขนย้ายผลผลิตทางการเกษตร
สำหรับสถานการณ์ภัยแล้ง ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพบก ได้ดำเนินการแจกจ่ายน้ำให้กับประชาชนผู้ประสบภัย ในพื้นที่ ๔๒ จังหวัดตามโครงการ “ราษฎร์ รัฐ ร่วมใจ ช่วยภัยแล้ง” ตั้งแต่เดือน มีนาคม ๖๒ ถึงปัจจุบัน รวมจำนวน ๙,๔๗๕,๕๐๐ ลิตร ล่าสุด ยังส่งกำลังพลเข้าสนับสนุนการเตรียมสารเคมี และสนับสนุนอากาศยาน ในปฏิบัติการ บินโปรยสารเพื่อทำฝนหลวงร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในหลายพื้นที่ ได้แก่พื้นที่ มณฑลทหารบกที่ ๑๗ จัดกำลังพลเตรียมสารเคมีในพื้นที่ อำเภอเมือง, อำเภอด่านช้าง และอำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี, มณฑลทหารบกที่ ๒๕ จัดกำลังพลเตรียมสารเคมีใน จังหวัดสุรินทร์ , มณฑลทหารบกที่ ๒๖ จัดกำลังพล เตรียมสารเคมีทำภารกิจฝนหลวงในพื้นที่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (ตอนล่าง) และมณฑลทหารบกที่ ๓๑ จัดกำลังพล เตรียมสารเคมีทำภารกิจฝนหลวง ในพื้นที่ อ่างเก็บน้ำคลองโพธิ์ อำเภอแม่เปิน จังหวัดนครสวรรค์ และเขื่อนทับเสลา อำเภอลานสัก จังหวัดอุทัยธานี นอกจากนี้กองทัพบกยังได้มอบให้ กรมการขนส่งทหารบก ส่งเครื่องบินลำเลียง CASA212 ไปสนับสนุนปฏิบัติการบินโปรยสารเคมีทำฝนหลวงเหนือเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.ลพบุรี ตั้งแต่ ๑๙ สิงหาคม ซึ่งปัจจุบันยังคงปฏิบัติการบินต่อเนื่อง
ส่วนการเข้าคลี่คลาย สถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันบริเวณป่าพรุควนเคร็ง จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพบก ได้จัดกำลังพล พร้อมยุทโธปกรณ์ สนับสนุน การดับไฟป่า ร่วมกับส่วนราชการในพื้นที่ มาตั้งแต่ปลายเดือน กรกฎาคม ๖๒ ล่าสุด มีการปฏิบัติที่สำคัญดังนี้ กองพลทหารราบที่ ๕ (กองพันทหารสื่อสารที่ ๕) จัดกำลังพลร่วมกับส่วนราชการดำเนินการค้นหาไฟป่าซึ่งไหม้อยู่ชั้นใต้ดิน บริเวณ หมู่ ๖ และ หมู่ ๘ ตำบลควนพัง อำเภอร่อนพิบูลย์ , จัดกำลังพลจิตอาสาร่วมกับส่วนราชการและประชาชนในพื้นที่ หมู่ ๑๑ และเครือข่ายไฟป่า ดำเนินการเก็บสายส่งน้ำ ขนาด ๖ นิ้ว ระยะทางประมาณ ๑.๕ กิโลเมตร ในพื้นที่ บ้านไสขนุน หมู่ ๑๑ ตำบลเคร็ง อำเภอชะอวด นอกจากนี้ศูนย์การบินทหารบก สนับสนุนอากาศยานเฮลิคอปเตอร์ทั่วไปแบบ-๑๗ จำนวน ๓ ลำ พร้อมเจ้าหน้าที่ประจำอากาศยาน ในการปฏิบัติภารกิจทิ้งน้ำเพื่อดับไฟป่า ในจุดที่ชุดเดินเท้าเข้าไม่ถึงพื้นที่ อำเภอชะอวด ตั้งแต่วันที่ ๕ สิงหาคม จนถึงปัจจุบัน รวมจำนวน ๑๘๙ เที่ยวบิน ปริมาณน้ำทั้งสิ้น ๖๖๑,๕๐๐ ลิตร สำหรับโรงครัวพระราชทาน ได้ดำเนินการประกอบเลี้ยง ให้กับกำลังพลและเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานทั้งนี้ มีจัดตั้งศูนย์ให้บริการทางการแพทย์ ให้บริการแก่ประชาชนผู้ประสบภัยและเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานด้วย ปัจจุบันสามารถควบคุมสถานการณ์ได้แล้วเกือบ ๑๐๐เปอร์เซ็นต์ ทั้งนี้ กองทัพภาคที่ ๔ ยังคงให้การสนับสนุนกำลังพลและยุทโธปกรณ์ พร้อมทั้งเฝ้าระวังในพื้นที่ตลอดเวลา