!-- AdAsia Headcode -->

6 เทคนิคขั้นเทพ! ที่ผู้บริหารทวิตเตอร์เอเชียแปซิฟิก บินจากสิงคโปร์มาร่วมแลกเปลี่ยนกับ JS100 ถึงไทย

12 สิงหาคม 2562, 07:25น.


     เมื่อวันที่ 8 ส.ค. 2562 ที่ผ่านมา JS100 ได้ต้อนรับผู้บริหารทวิตเตอร์จากสำนักงานใหญ่ของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ที่ประเทศสิงคโปร์ นำโดย Ms.Kathleen Reen, Senior director of public policy, government, and philanthropy for Asia pacific และ Ms.Monrawee Ampolpittayanant, Head of public policy, government, and philanthropy for Southeast Asia เดินทางมาร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนข้อมูลการทำงานกับผู้บริหาร จส.100 และทีมออนไลน์บัญชีทวิตเตอร์ @js100radio ในฐานะผู้นำด้านการรายงานสภาพการจราจร ข้อมูลข่าวสารเหตุการณ์ Real time ตลอดจนการช่วยเหลือด้าน Lost & Found ซึ่งกำลังจะครบรอบ 10 ปี ในเดือนกันยายน 2562 นี้




     ในการพูดคุยครั้งนี้ JS100 ได้บรรยายสรุปแนวทางการทำงาน ที่ได้รับข้อมูลจาก Mention หลายเหตุการณ์สามารถตรวจสอบความถูกต้องได้ทันทีเนื่องจากมีผู้แจ้งจำนวนมากย้ำมาในจุดเดียวกัน ขณะเดียวกันแอดมินมีหน้าที่กลั่นกรอง หาสาเหตุ และประสานการช่วยเหลือกับเจ้าหน้าที่ พร้อมทวีตข้อมูลแบบ Real time เพื่อแจ้งข่าวสารส่งถึงผู้ติดตามทั้ง 2.9 ล้านคน นอกจากนี้ทางฝ่ายผู้บริหารทวิตเตอร์ได้แนะนำแนวทางการเพิ่มศักยภาพให้ดียิ่งขึ้นอีก ในโอกาสนี้ผู้เขียนขอแชร์ไอเดียดีๆ ที่ผู้ใช้งานทั่วไปสามารถนำไปปรับใช้ได้เช่นกัน ดังนี้


1. Followers เยอะเป็นสิ่งที่ดี แต่หัวใจของทวิตเตอร์คือต้องสื่อสารให้ทั่วถึงทุกคนด้วย




     สิ่งที่ผู้บริหารทวิตเตอร์ชื่นชม @js100radio คือมีการเคลื่อนไหวของทวีตอย่างต่อเนื่อง รายงานข้อมูลแบบ Real Time ทำให้มีผู้ติดตามจำนวนมากและมีความน่าเชื่อถือ แต่จะดียิ่งขึ้นถ้าการทวีตอะไรออกไป สามารถส่งถึงคนอื่นๆที่ไม่ได้ติดตามอยู่ด้วยได้ เช่น การใช้ Hashtag ,การเกาะ Trend จะเพิ่มการเข้าถึงให้ทวีตมากขึ้น ซึ่งคุณเองก็ทำได้ไม่ยากเช่นก้น


2. เทคนิคการใช้ Hashtag




     ผู้บริหารทวิตเตอร์บอกว่าการใช้ Hashtag นั้นไม่ได้มีกฎเกณฑ์ตายตัว ให้คิดว่า"เรื่องที่จะทวีตนั้นเป็นเรื่องอะไร และผู้อื่นนั้นจะค้นหา Keyword นั้นได้ง่ายที่สุดว่าอะไร" ข้อแนะนำ คือ ควรมีแท็กประเด็นของเรื่องนั้น เช่น น้ำท่วม ไฟไหม้ แผ่นดินไหว และประกอบไปด้วยแท็กที่เป็นวงจำกัด เช่น สถานที่ จะทำให้มีโอกาสที่คนอื่นๆจะเห็นทวีตของเรามากขึ้น หรือทวีตของเราอาจจะไปจัดอยู่ในเรื่องเดียวกันกับที่คนอื่นทวีตเช่นกัน 


3. ดู Trends ให้เป็น




     หากคุณจะเริ่มทวีตสิ่งใด มักจะเห็นข้อความคำถามนำว่า "กำลังเกิดอะไรขึ้น" สะท้อนให้เห็นว่า ทวิตเตอร์มุ่งเน้นการบอกสิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัว มากกว่าเรื่องของตนเอง (ต่างกับเฟซบุ๊กที่เขียนว่า คุณกำลังทำอะไร) ดังนั้นหากเราต้องการที่จะรู้ว่ารอบตัวเรากำลังเกิดอะไรขึ้น และกำลังพูดถึงอะไร ให้ไปดูได้ที่หน้าการสำรวจ(Trends) ซึ่งจะเรียงตามลำดับความนิยมจากการใช้ Hashtag นั่นเอง หากสนใจอันไหนให้กดเข้าไปไล่อ่านได้ และทวีตเกาะกระแสนั้นได้ เช่น หากเป็นช่วง #เปิดเทอม ก็สามารถทวีตเตือนการจราจรได้


4. ใช้งาน Thread และ Conversation ให้เป็น




     เป็นฟีเจอร์ที่ทยอยเพิ่มมาเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้งาน โดยเธรด(Thread) หมายถึงการทวีตในเรื่องเดียวกันจำนวนหลายทวีต สามารถทำแต่ละทวีตติดต่อกันได้ เพื่อให้ผู้ติดตามสามารถอ่านได้ต่อเนื่อง ,ส่วนการสนทนา(Conversation) หมายถึงการที่อ่านทวีตกดตอบกลับ(Reply) เพื่อคุย หรือแสดงความคิดเห็นในเรื่องราวของทวีต ซึ่งทั้งสองฟีเจอร์นี้เป็นลูกเล่นที่ทำให้การใช้งานทวิตเตอร์สมบูรณ์ขึ้น


5. ทวีตของทุกคน ล้วนแต่เป็นข้อมูลดิบชั้นดี แต่อย่าลืมที่จะ Retweet หน่วยงานที่รายงานข้อเท็จจริง




     ผู้บริหารทวิตเตอร์ยกตัวอย่างบัญชีต่างประเทศที่คล้ายคลึงกับ @js100radio (แต่ดูเหมือนว่า ความถี่ในการรายงานข้อมูล และจำนวน Mention จะไม่เท่า JS100 ^^) ยกตัวอย่างเช่น หากเกิดปัญหารถไฟฟ้าขัดข้อง จะมีผู้ส่ง Mention เข้ามาพร้อมกันจำนวนมาก และมาจากหลายสถานี เกิดการกลั่นกรองข้อมูลโดยอัตโนมัติ ขณะเดียวกันทวิตเตอร์ของหน่วยงานแทบจะไม่มีข้อมูลแบบ Real time ที่เป็นประโยชน์กับผู้ใช้บริการ ต้องใช้เวลาอีกพอสมควรกว่าจะทวีตข้อความแจ้งเหตุ อย่างเช่น อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นบนมอเตอร์เวย์ เจ้าหน้าที่ก็อาจต้องใช้เวลาตรวจสอบและประสานทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยให้ไปถึงจุดเกิดเหตุก่อนการรายงาน แต่นั่นก็ถือเป็นข้อมูลแบบ Official จึงแนะนำให้มีการ Retweet บัญชีของหน่วยงานด้วย จะยิ่งทำให้เกิดความสมบูรณ์ของเนื้อหา ส่วนคุณภาพและประโยชน์ที่ได้รับ ผู้ติดตามของคุณจะคนตัดสินเอง จงอย่าดูถูกพวกเขา!


6. แนะให้ผู้ติดตาม เปิดการแจ้งเตือน Push notification




     แม้ว่าหลายคนจะชอบปิดการแจ้งเตือน เพราะกลัวจะรำคาญกับการรับข้อมูลที่มากเกินไป แต่รู้หรือไม่ว่า การเปิด Push notification จะทำให้เหล่าผู้ติดตามไม่ตกข่าว ไม่ต้องเสียเวลาเข้าไปรถติด ก่อนที่จะมาค้นหาสาเหตุว่ารถติดเพราะอะไร วิธีการง่ายๆเพียง ไปที่โปรไฟล์ของตนเอง > เลือกการตั้งค่า > การแจ้งเตือน > เปิดการแจ้งเตือนแบบพุช , จากนั้นหากต้องการให้แจ้งเตือนบัญชีใดเป็นพิเศษ ให้ไปที่หน้าบัญชีนั้น แล้วเลือกเครื่องหมายกระดิ่ง เป็นอันเสร็จสิ้น ในช่วงแรกอาจจะรู้สึกเตือนเยอะไปบ้าง แต่ระบบจะมี Algorithm ในการคัดกรองข้อมูลให้หากใช้ไปสักระยะ 




     อย่างไรก็ตามผู้บริหารทวิตเตอร์ สรุปทิ้งท้ายไว้ว่า ผู้ใช้งานบัญชีในประเทศไทยต่างมีความเคลื่อนไหวบัญชีอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มที่ติดตามข่าวสาร และกลุ่มที่ชื่นชอบในสายบันเทิงที่มักติดตามดารา นักร้อง และนักแสดง นับเป็นสิ่งที่ดีที่จะสามารถติดตามเรื่องราวที่อยู่ในความสนใจหรือกำลังเป็นกระแสขณะนั้นได้
X