เมื่อเวลา 22.00 น. ของวันนี้ (2 ส.ค. 62) พายุโซนร้อน “วิภา” บริเวณอ่าวตังเกี๋ยตอนบน มีศูนย์กลางห่างประมาณ 210 กิโลเมตรทางทิศตะวันออกของเมืองฮานอย ประเทศเวียดนาม หรือที่ละติจูด 21.0 องศาเหนือ ลองจิจูด 107.9 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 85 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกอย่างช้า ๆ คาดว่า จะเคลื่อนขึ้นฝั่งเมืองฮานอย ประเทศเวียดนามในวันพรุ่งนี้ (3 ส.ค. 62) หลังจากนั้นจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชัน และหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมประเทศลาวและตอนบนของภาคเหนือในช่วงวันที่ 4-5 สิงหาคม 2562 ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง โดยมีผลกระทบตามภาคต่างๆ ดังนี้
ในช่วงวันที่ 2-3 สิงหาคม 2562 มีฝนตกหนักบางแห่ง
ภาคเหนือ: จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ ตาก และกำแพงเพชร
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดเลย หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร และนครพนม
ภาคกลาง: จังหวัดราชบุรี กาญจนบุรี และอุทัยธานี
ภาคตะวันออก: จังหวัดระยอง จันทบุรี และตราด
ในช่วงวันที่ 4-5 สิงหาคม 2562 มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง
ภาคเหนือ: จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ ตาก และกำแพงเพชร
ภาคกลาง: จังหวัดราชบุรี กาญจนบุรี และอุทัยธานี
ภาคตะวันออก: จังหวัดระยอง จันทบุรี และตราด
ภาคใต้: จังหวัดระนอง พังงา และภูเก็ต
ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนที่ตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ในพื้นที่เสี่ยงภัยได้ สำหรับผู้ที่จะเดินทางไปเกาะไหหลำ ประเทศจีนตอนใต้ และประเทศเวียดนามตอนบน ควรตรวจสอบสภาพอากาศก่อนเดินทางด้วย อนึ่ง ร่องมรสุมพาดผ่านประเทศเมียนมา ลาว และเวียดนามตอนบนเข้าสู่พายุโซนร้อน “วิภา” ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ ทำให้ประเทศไทยยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง และมีฝนตกหนักบางแห่ง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 2-4 เมตร และอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 6 สิงหาคม 2562 จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์ กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือสายด่วนพยากรณ์อากาศ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง