“ทำไมกระเป๋าเดินทางเสียหายแบบนี้ ก่อนหน้ายังใช้ได้อยู่เลย?!” เชื่อว่าหลายๆ ท่านคงเคยประสบปัญหาไม่ล้อของกระเป๋าเดินทางหลุด ก็ซิปชำรุด หรือแย่ไปกว่านั้นคือสูญหายที่สนามบิน ทั้งๆที่ก่อนหน้าจะส่งลงสายพานกระเป๋ายังใช้งานได้ดีอยู่ พาให้ไม่อยากใช้บริการขนส่งด้วยเครื่องบินอีกต่อไป แต่ช้าก่อน!! เพราะในวันนี้เรามีวิธีป้องกัน รวมถึงการเรียกค่าชดเชยความเสียหายหากกระเป๋าเดินทางชำรุด-สูญหาย มาฝากทุกท่านกัน
วิธีป้องกันตัวเองก่อนนำกระเป๋าเดินทางส่งลงสายพาน
ไม่ว่าอย่างไรตนเป็นที่พึ่งแห่งตนก็ใช้ได้กับทุกสถานการณ์ เช่นเดียวกับการป้องกันตัวเองก่อนส่งกระเป๋าเดินทางลงสายพานเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาชำรุด-สูญหาย โดยมีวิธีดังต่อไปนี้
- กระเป๋าเดินทางก่อนส่งลงสายพานจะมีแท็กบาร์โค้ดติดไว้ ให้เขียนชื่อ-นามสกุล ที่อยู่ปัจจุบัน และเบอร์โทรศัพท์ที่ติดต่อได้บนแท็ก รวมถึงด้านในของกระเป๋าเดินทางด้วย
- ก่อนที่เราจะเช็คอิน ให้ถ่ายรูปกระเป๋าเดินทาง เพราะหากในตอนเช็คเอ้าท์รับกระเป๋า เกิดชำรุด-สูญหาย จะได้นำรูปที่ถ่ายไว้เป็นหลักฐานได้
- ให้ตรวจสอบแท็กบาร์โค้ดหลังการชั่งน้ำหนักเช็คอินกระเป๋าเดินทาง ว่าเท่ากับจำนวนกระเป๋าเดินทาง
- ให้ทำสัญลักษณ์ไว้ที่กระเป๋าเดินทางป้องกันการหยิบผิดใบ (ในกรณีที่อาจเป็นกระเป๋ารุ่น ยี่ห้อเดียวกัน)
วิธีการเรียกค่าชดเชยความเสียหายหลังพบว่ากระเป๋าเดินทางชำรุด
ในส่วนการร้องเรียนเรียกค่าชดเชยความเสียหายหลังพบว่ากระเป๋าเดินทางชำรุด เช่น ซิปแตก ล้อของกระเป๋าหลุด กระเป๋าฉีกขาด ฯลฯ หรือสูญหายไปแล้ว ให้ทำตามดังนี้
- ขอเอกสารบันทึกความเสียหายจากจนท. สนามบิน หรือติดต่อที่เคาน์เตอร์สายการบินนั้นๆ เพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐาน
- ถ่ายภาพความเสียหายของกระเป๋าเดินทางให้คมชัด ทุกมุม
- ให้รีบติดต่อขอเคลมค่าเสียหายกับสายการบินนั้นๆ ทันที หรือหลังจากที่เดินทางเข้าที่พักเรียบร้อยแล้ว
อย่างไรก็ตามในกรณีที่กระเป๋าเดินทางสูญหายให้ติดต่อจนท. ตำรวจที่ประจำการอยู่ในสนามบินนั้นๆ แล้วลงบันทึกประจำวันเกี่ยวกับทรัพย์สินต่างๆ ในกระเป๋าเดินทางที่สูญหาย ควรบอกรายละเอียดสิ่งของให้ครบถ้วนด้วย เพื่อสะดวกในการตามหา ทั้งนี้ สามารถร้องเรียนหรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์พิทักษ์สิทธิผู้บริโภค มูลนิธิเพื่อผู้บริโภคโทร. 02-248-3737 หรือ E-mail : complaint@consumerthai.org
ข้อมูล : มูลนิธิผู้บริโภค