ตามที่ JS100 นำเสนอกรณี ผู้ใช้รถไฟฟ้าถูกแม่ค้าวางแผงขายของกีดขวางหน้าสถานี MRT ลาดพร้าว แถมถูกต่อว่าเมื่อพยายามจะเข็นจักรยานยนต์ออกจากจุดจอด ด้วยถ้อยคำหยาบคาย "กูบอกให้มึงเดินไปเรียกยาม"
เมื่อเวลา 19:00น. ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่สำรวจบริเวณสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT ลาดพร้าว ประตู 3 จุดที่มีการร้องเรียน พบแผงค้า ตั้งอยู่ตามภาพจริง มีจำนวน 10 แผง มีขายทั้งอาหาร เครื่องดื่ม ผักผลไม้ เสื้อผ้า และของทั่วไป ทอดยาวไปในแนวถนนลาดพร้าว ขาออก ก่อนถึงแยกรัชดาลาดพร้าว จึงสอบถามเจ้าหน้าที่ รปภ. ของสถานีรถไฟฟ้า และประชาชนในละแวกนั้น ให้ข้อมูลว่า มีการค้าขายมาไม่ต่ำกว่า 7 ปีแล้ว และมักมีปัญหากับผู้คนที่เดินสัญจร หรือคนที่พยายามนำรถจักรยานยนต์เข้าออกจุดจอดของสถานีอยู่บ่อยครั้ง ซึ่ง รปภ. ก็ทำได้แค่เข้าไปห้ามปรามและประนีประนอมกันไป ไม่สามารถเข้าไปห้ามการค้าขายได้ เพราะอยู่บนทางเท้าต้องเป็นเจ้าหน้าที่เทศกิจ อย่างไรก็ตามมีแหล่งข่าวระบุว่า ทำเลดังกล่าวมีคนคอยเก็นเงินอยู่เบื้องหลัง จึงทำให้สามารถค้าขายมาได้เรื่อยๆ
ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวได้สำรวจต่อไปยังจุดที่มีผู้ให้เบาะแสเพิ่มเติม คือที่ด้านหน้าสถานีรถไฟฟ้า MRT สุทธิสาร ประตู 3 โดยมาถึงเวลา 21:00น. พบว่าแม้แผงค้าจะปิดไปบ้างแล้ว แต่ภาพรวมก็ยังมีการตั้งวางแผงขายกันอย่างคึกคักจนแน่นทางเท้า ตลอดแนวถนนรัชดาภิเษก ขาเข้า จนถึงตึกเมืองไทยภัทร คาดว่าไม่น่าต่ำกว่า 30 เจ้า ทั้งที่เป็นแผงค้าและรถเข็น
แม้กรุงเทพมหานคร จะมีชื่อเสียงในเรื่องของวิถีชีวิตแบบ"สตรีทฟู้ด" แต่หวังว่าการค้าขายควรจะอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง รวมถึงไม่เป็นการไปละเมิดสิทธิของผู้อื่นด้วย