ทุกท่านทราบหรือไม่ ว่าวันที่ 21 มิถุนายน 2562 ที่กำลังจะถึงนี้คือวันอะไร? แหม.. ก็ต้องวันศุกร์หรรษา วันศุกร์ที่รถแสนจะติดน่ะสิ พูดอีกก็ถูกอีก แต่เดี๋ยวก่อน จริงๆ แล้ววันที่ 21 มิถุนานี้ ก็เป็นอีก 1 วันที่เกิดปรากฎการณ์ที่สำคัญในรอบปี! นั่นก็คือ “วันครีษมายัน” แล้วเจ้าวันครีษมายันที่ว่ามีความพิเศษอย่างไรนะ วันนี้เราจะพาไปทำความรู้จักกับวันครีษมายันกัน ตามมาเลย
ในวันที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2562 นี้ ทางสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) (สดร.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ยกให้เป็น “วันครีษมายัน” (ครีด-สะ-มา-ยัน) หรือวันที่เวลากลางวันยาวนานที่สุดในรอบปี เรียกได้ว่าเวลากลางคืนสั้นแต่เวลากลางวันยาว โดยประเทศไทยในวันที่ 21 มิถุนายน ดวงอาทิตย์จะขึ้นจากขอบฟ้าทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือเวลาประมาณ 05:51 น. และตกลับขอบฟ้าทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือเวลาประมาณ 18:47 น. ถือว่าเจ้าดวงอาทิตย์จะโดดเด่นส่องแสงสว่างอยู่บนท้องฟ้าเป็นเวลารวมกว่า 12 ชั่วโมง 56 นาที (เวลา ณ กรุงเทพมหานคร) ได้กลับบ้านแบบสว่างๆ ในเย็นวันศุกร์ก็คราวนี้แหละ
ทั้งนี้ ในรอบ 1 ปี ได้เกิดปรากฏการณ์สำคัญที่เกี่ยวข้องกับการขึ้น-ตกของดวงอาทิตย์ ทั้งหมด 4 ปรากฏการณ์ด้วยกัน เริ่มจาก
วันที่ 21 มี.ค. 62 ที่ผ่านมา คือ วันวสันตวิษุวัต (วะ-สัน-ตะ-วิ-สุ-วัด) ที่เวลากลางวันจะเท่ากับกลางคืนพอดี (ประเทศทางซีกโลกเหนือย่างเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิ ส่วนซีกโลกใต้เข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วง)
วันที่ 21 มิ.ย. 62 คือ วันครีษมายัน (ครีด-สะ-มา-ยัน) ที่เวลากลางวันยาวที่สุด และเวลากลางคืนสั้นที่สุดในรอบปี หรือวันที่เรากำลังพูดถึงอยู่นั่นเอง (ประเทศทางซีกโลกเหนือเริ่มต้นฤดูร้อน ส่วนซีกโลกใต้เริ่มต้นฤดูหนาว)
วันที่ 23 ก.ย. 62 คือ วันศารทวิษุวัต (สาด-ทะ-วิ-สุ-วัด) ที่เวลากลางวันจะเท่ากับกลางคืนพอดี (ประเทศทางซีกโลกเหนือเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วง ส่วนซีกโลกใต้เข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิ)
และสุดท้าย วันที่ 22 ธ.ค. 62 คือ วันเหมายัน (เห-มา-ยัน) ที่เวลากลางวันสั้นที่สุด และกลางคืนยาวที่สุดในรอบปี หรือที่คนไทยเรียกว่า “ตะวันอ้อมข้าว” (ประเทศทางซีกโลกเหนือเริ่มต้นฤดูหนาว ส่วนซีกโลกใต้เริ่มต้นฤดูร้อน)
ข้อมูล : สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ
รูปภาพ : สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ, scientificamerican, bonobology