วันที่ 21 กรกฎาคม 2566 นายศรัทธา ทองคำ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นประธานในพิธีมอบขาเทียมพระราชทานแก่คนพิการขาขาดในจังหวัดนครศรีธรรมราชและพื้นที่ใกล้เคียง ตามโครงการออกหน่วยทำขาเทียมพระราชทานเคลื่อนที่ ครั้งที่ 163 โดยมีศาสตราจารย์คลินิก นายแพทย์นิเวศน์ นันทจิต เลขาธิการมูลนิธิขาเทียม ในสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี กล่าวขอบคุณผู้สนับสนุนโครงการฯ พร้อมด้วย คุณเกรียงฤทธิ์ สุขเจริญสิน กรรมการมูลนิธิฯ ร่วมในพิธี และร้อยเอก นายแพทย์ภูรีวรรธน์ โชคเกิด รองเลขาธิการมูลนิธิฯ กล่าวรายงาน ซึ่งโครงการออกหน่วยทำขาเทียมพระราชทานครั้งนี้ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 16-21 กรกฎาคม 2566 ณ หอประชุมเมืองเทศบาลนครนครศรีธรรมราช (ทุ่งท่าลาด) จังหวัดนครศรีธรรมราช
นอกจากนี้ ยังมี รองอธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน หัวหน้าสำนักงานเลขานุการ ศูนย์อำนวยการจิตอาสาพระราชทาน ภาค 4 ประธานแม่บ้านสาธารณสุขจังหวัดสกลนคร รองนายกเทศมนตรีเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ผู้อำนวยการโรงพยาบาลหัวไทร พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครศรีธรรมราช ประชาสัมพันธ์จังหวัดนครศรีธรรมราช เกษตรจังหวัดนครศรีธรรมราช ประมงจังหวัดนครศรีธรรมราช ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 12 สงขลา ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 19 เชียงใหม่ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 22 นครศรีธรรมราช ประธานมูลนิธิคุณธรรมสงเคคาะห์ เต็กก่าจีคุงเกาะ นครศรีธรรมราช รองประธานมูลนิธิมหากุศลใต้เต็กเซี่ยงตึ๊ง รองกรรมการผู้จัดการอาวุโสบริษัท ซี.พี.ฟู้ดสโตร์ จำกัด ผู้แทนเพจแก้วเสียงธรรม หัวหน้าส่วนราชการ บุคลากรด้านสาธารณสุข และคณะบุคคลจากหลายภาคส่วนร่วมในพิธี
โครงการออกหน่วยทำขาเทียมพระราชทานเคลื่อนที่ของมูลนิธิขาเทียมฯ เป็นอีกโครงการหนึ่งที่มูลนิธิฯ ได้ดำเนินการเป็นประจำทุกปี โดยออกหน่วยให้บริการทำขาเทียมในพื้นที่ห่างไกลทั่วประเทศปีละ 5 ครั้ง เพื่อสนองพระราชปณิธานของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ในการช่วยเหลือคนพิการขาขาดที่ยากไร้ทุกเชื้อชาติและศาสนาให้ได้รับขาเทียมที่ดี มีคุณภาพ โดยไม่คิดมูลค่า เพื่อให้คนพิการมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ไม่เป็นภาระต่อตนเองหรือครอบครัว และสามารถสร้างประโยชน์ให้สังคมได้ ในการออกหน่วยทำขาเทียมพระราชทานเคลื่อนที่ ครั้งที่ 163 นี้ มูลนิธิฯ ร่วมกับจังหวัดนครศรีธรรมราชได้จัดขึ้น โดยมีคนพิการได้รับมอบขาเทียมพระราชทานทั้งประเภทเหนือเข่าและประเภทใต้เข่าจำนวน 115 ราย รวมจำนวนทั้งสิ้น 116 ขา และซ่อมแซมขาเทียมที่ชำรุดจำนวน 2 ขา ซึ่งครั้งนี้มีคนพิการเข้ารับบริการจำนวน 157 ราย และมีคนพิการที่สภาพตอขาไม่พร้อมต่อการทำขาเทียมจำนวน 40 ราย