ฝุ่นพิษมากจากไหน? ไทยพบจุดความร้อนในเขตป่าอนุรักษ์เกือบ 80 %

21 มีนาคม 2566, 11:55น.


      จากสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ในประเทศไทยโดยเฉพาะทางแถบภาคเหนือตอนบนและล่างไปจนถึงภาคกลางของประเทศเมื่อหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ข้อมูลจากเว็บไซต์ IQAir ได้อัปเดตอันดับเมืองที่มีมลพิษมากที่สุดในโลกแบบ Real time พบกว่าจังหวัดเชียงใหม่และกรุงเทพมหานครโผล่ติดอันดับ 1 ใน 10 เมืองที่มีมลพิษมากที่สุดในโลก ซึ่งระดับ AQI ที่วัดได้อยู่ที่ 100 – 150 ขึ้นไป แถบค่าสีอยู่ระหว่างสีส้มและแดง ระดับความรุนแรงของมลพิษส่งผลกระทบต่อผู้ป่วยหรือผู้ร่างกายอ่อนแอ

สาเหตุของการเกิดฝุ่นพิษ

      จากข้อมูลของ รศ.ดร.วิษณุ อรรถวานิช อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ผู้เชี่ยวชาญนโยบายด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เกษตร สิ่งแวดล้อม ได้เปิดเผยถึงสาเหตุหลักของฝุ่นพิษว่า มีการเผาไหม้ในที่โล่งแจ้งเพิ่มขึ้น เช่น การเผานาข้าว ไร่อ้อย เผาหญ้า เผาป่าไม้ รวมถึงการเผาไหม้ของน้ำมันเชื้อเพลิงของรถยนต์ ฝุ่นพิษจากโรงงานอุตสาหกรรม เนื่องจากกำลังแรงลมช่วงนี้เริ่มอ่อนตัวลง ทำให้ไม่สามารถพัดระบายเอาฝุ่นพิษออกไปได้ ส่งผลให้เกิดฝุ่นกระจายอัดแน่นอยู่ทุกที่

      คนเมืองส่วนใหญ่มักเห็นการก่อสร้างตึก ก่อสร้างถนน การซ่อมแซมในหลายๆพื้นที่ รวมไปถึงการใช้รถใช้ถนนในทุกวัน ซึ่งเรื่องเล็กๆเหล่านี้ที่ดูเหมือนเป็นเรื่องปกติเห็นทุกวันจนชินตา เป็นหนึ่งในชนวนสาเหตุเล็กๆที่ทำให้เกิดฝุ่นพิษในตอนนี้ ส่วนสาเหตุฝุ่นพิษในต่างจังหวัดนั้นมากจากการเผาไหม้อย่างเช่น ไร่อ้อย ทุ่งนา ซังข้าว ป่าไม้ ที่รกร้างมีหญ้าสูง

เผาไร่อ้อยสร้างมลพิษ?

      อีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดฝุ่นพิษมาจากความเชื่อผิดๆจากการทำการเกษตรด้วยวิธีที่ไม่ถูกต้องอย่างการ เผาอ้อย ซึ่งเกษตรกรส่วนใหญ่เชื่อว่าการเผาอ้อยนั้นจะทำให้มีความหวานมากขึ้น ด้วยค่าแรงในการตัดอ้อยนั้นมีราคาสูงขึ้นทุกปี การใช้วิธีเผาจึงเป็นวิธีที่เกษตรกรหลายคนเลือกใช้เพราะมีต้นทุนน้อยกว่าใช้แรงงานคนหรือเครื่องจักรเพราะ อีกทั้งยังสามารถเก็บเกี่ยวอ้อยส่งโรงงานน้ำตาลได้เร็วกว่าเดิมมากขึ้น

      กรมควบคุมมลพิษเผยว่า ตั้งแต่ปี 2564-2566 พบจุดความร้อนในพื้นที่ปลูกอ้อย ประมาณ 3-4% ของเฉพาะพื้นที่ปลูกอ้อยทั้งหมดทั่วประเทศ จากการสำรวจของสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) กระทรวงอุตสาหกรรม ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2565 - 2 กุมภาพันธ์ 2566 นั้นพบว่ามีปริมาณอ้อยเข้าหีบกว่า 52 ล้านตัน ซึ่งในจำนวนนี้เป็นอ้อยที่ถูกลักลอบเผามากกว่า 15 ล้านตัน โดยจังหวัดที่พบการเผาอ้อยสูงสุด 5 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดนครราชสีมา 2.03 ล้านตัน,  จังหวัดอุดรธานี 1.25 ล้านตัน, จังหวัดกาฬสินธุ์ 1.21 ล้านตัน, จังหวัดเพชรบูรณ์ 1.09 ล้านตัน และจังหวัดสุพรรณบุรี 1.03 ล้านตัน

      อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าตอนนี้ประเทศไทยยังไม่สามารถควบคุมมลพิษให้เจือจางลงไปได้ ซึ่งทางออกของปัญหาในเวลานี้ที่สามารถทำได้คือ แนะนำประชาชนทุกคนให้สวมใส่หน้ากากกรองอากาศ เช็คสถานการณ์ตลอดเวลาทุกวัน เพื่อหลีกเลี่ยงพื้นที่ฝุ่นหนาแน่น ส่วนหน่วยงานของภาครัฐจะดำเนินการควบคุมกิจกรรมที่ก่อให้ฝุ่นละออง เช่น การควบคุมพื้นที่ก่อสร้าง เจ้าหน้าที่ต้องเข้มงวดให้มีการคลุมผ้า ฉีดน้ำ ใช้ไอพ่นน้ำเพื่อลดปริมาณฝุ่น ห้ามกิจกรรมการเผา รวมถึงควบคุมการจราจร ลดปริมาณรถยนต์และหันมาใช้รถโดยสารสาธารณะให้มากขึ้น



ที่มา : กรมควบคุมมลพิษ



X