“Binge Eating Disorder” โรคการกินผิดปกติ ไม่สามารถควบคุมพฤติกรรมการกินของตนเองได้

17 มิถุนายน 2564, 15:24น.


หากคุณเป็นคนหนึ่งที่สังเกตได้ว่ามีพฤติกรรมการกินที่ผิดปกติ ไม่สามารถควบคุมพฤติกรรมการกินของตนเองได้ นั่นอาจเสี่ยงเข้าข่ายป่วยด้วยโรค “Binge Eating Disorder” ทว่าโรคนึ้มีอาการแท้จริงเป็นอย่างไร แล้วสามารถรักษาด้วยวิธีไหน ด้วยความห่วงใยจากกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุขจึงจะเป็นผู้ออกมาอธิบายสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง

            “Binge Eating Disorder” กลุ่มเสี่ยง และอาการของโรค


            Binge Eating Disorder (บิ้นจ์-อีทติ้ง) พบได้มากประมาณ 1 – 3% บ่อยสุดในช่วงอายุ 12 – 25 ปี โดยที่เพศหญิงเสี่ยงกว่าเพศชาย 1.5 – 6 เท่า ซึ่งมีหลายช่วงเวลาที่จะมีพฤติกรรมกินอาหารปริมาณมากกว่าคนทั่วไป รู้สึกควบคุมตัวเองไม่ได้เลยว่าควรหยุดกินหรือควรกินมากเท่าไหร่ ในช่วง binge มีอาการเหล่านี้ตั้งแต่ 3 อาการขึ้นไป คือ

            - กินเร็วกว่าปกติมาก

            - กินจนรู้สึกแน่นไม่สบายตัว

            - กินเยอะมาก ทั้งที่ไม่รู้สึกหิว

            - กินคนเดียวเพราะรู้สึกอายที่กินเยอะ

            - รู้สึกรังเกียจตัวเอง ซึมเศร้า รู้สึกผิดมาก หลังจากกิน

            วิธีการรักษา Binge Eating Disorder


            สำหรับวิธีการรักษานั้นควรรีบเข้ารับการปรึกษาจากจิตแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญหากสงสัยว่าตนเองเริ่มมีอาการ โดยจะรักษาจะใช้เป็นยาควบคู่ไปกับการทำจิตบำบัด เพื่อประสิทธิภาพในการรักษาที่ดีที่สุด


            Binge Eating Disorder นั้น จัดอยู่ในกลุ่มโรคการกินผิดปกติ ซึ่งมีโรคอะนอเร็กเซีย (Anorexia Nervosa) และโรคบูลิเมีย (Bulimia Nervosa) อยู่ในกลุ่มเดียวกัน แต่ Binge Eating Disorder นั้น จะไม่มีอาการชดเชยการกินเยอะ เช่น ล้วงคอให้อาเจียน กินยาถ่าย ออกกำลังกายอย่างหักโหม โดยพฤติกรรม binge จะเกิดขึ้นอย่างน้อย 1 ครั้ง/สัปดาห์ เป็นเวลา 3 เดือน และมีผลกระทบอย่างมากกับการใช้ชีวิตประจำวันของผู้ป่วย



 



ข้อมูล : กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข



 



 

X