ข้อมูลจากธนาคารกลางแห่งญี่ปุ่น(BOJ)แสดงให้เห็นว่า ครัวเรือนญี่ปุ่นถือครองสินทรัพย์สูงเป็นประวัติการณ์ที่ 1,948 ล้านล้านเยน (18 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ)จนถึงสิ้นเดือนธันวาคมปีที่แล้ว เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.9 เมื่อเทียบจากปี 2562 โดยครึ่งหนึ่งของสินทรัพย์ดังกล่าวคือ สินทรัพย์จำนวน 1,056 ล้านล้านเยน อยู่ในรูปของเงินสดและเงินฝากธนาคาร ซึ่งเป็นสัญญาณที่แสดงให้เห็นว่าการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 กระตุ้นให้ประชาชนส่วนใหญ่ออมเงินมากกว่าใช้จ่ายเงิน
นอกจากนี้ การที่รัฐบาลประกาศมาตรการล็อกดาวน์เช่นภาวะฉุกเฉินทั่วประเทศในปีที่แล้ว ทำให้ผู้บริโภคส่วนใหญ่อยู่บ้าน ไม่ได้ไปซื้อของตามร้านค้าและไปเที่ยวนอกบ้าน ขณะเดียวกันสินทรัพย์ทางการเงินของบริษัทเอกชนเพิ่มร้อยละ 6.2 มาอยู่ที่ 1,275 ล้านล้านเยนในปีที่แล้ว ในจำนวนนี้ เกือบร้อยละ 25 ของสินทรัพย์อยู่ในรูปของเงินสดและเงินฝากธนาคาร
ข้อมูลนี้บ่งชี้ถึงปัญหาท้าทาย ซึ่งคณะผู้กำหนดนโยบายของญี่ปุ่นจะต้องเร่งหาทางแก้ไขคือ การจัดทำแผนกระตุ้นการใช้จ่ายของภาคครัวเรือน เพื่อป้องกันไม่ให้เศรษฐกิจญี่ปุ่นเข้าสู่ภาวะเงินฝืด แต่ความไม่มั่นใจเกี่ยวกับแนวโน้มในอนาคตว่าวิกฤตการระบาดของโรคโควิด-19 จะสิ้นสุดเมื่อใดทำให้บริษัทเอกชนส่วนใหญ่ชะลอการลงทุนใหม่ พร้อมทั้งไม่มีการปรับขึ้นค่าจ้างและไม่มีการปรับขึ้นสินค้าและค่าบริการในระยะนี้
ขณะเดียวกัน BOJ ถือครองพันธบัตรรัฐบาล ญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นร้อยละ 10.3 แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 545 ล้านล้านเยน ขณะที่นักลงทุนต่างชาติถือครองพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นร้อยละ 11.6 แตะที่ 163 ล้านล้านเยนในปีที่แล้ว
Cr: Reuters, The Star