*นายกฯย้ำวันลงมติถอดถอนต้องไม่มีความวุ่นวาย อย่านำเรื่องนิรโทษ รวมกับการปรองดอง*

การลงมติถอดถอนนายนิคม ไวยรัชพานิช อดีตประธานวุฒิสภา นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ อดีตประธานรัฐสภา และนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 23 ม.ค.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี  ยืนยันว่า จะต้องไม่มีความวุ่นวายเกิดขึ้น  กลุ่มที่ออกมาสร้างความวุ่นวาย แสดงว่าไม่ได้เกรงกลัวต่อกฏหมาย ส่วนกรณีที่จะมีคนนำเรื่องถอดถอนไปเชื่อมโยงกับการปรองดองของประเทศ นายกฯ ระบุว่า การปรองดองกับเรื่องกฏหมายไม่เกี่ยวข้องกัน ขออย่าเอาทุกคดีมาเชื่อมโยงกับการปรองดองทั้งหมด ส่วนการนิรโทษกรรม หากเป็นการทำผิดกฏหมายอาญาก็ไม่สามารถนิรโทษกรรมได้ ส่วนกรณีของพ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะเข้าข่ายการนิรโทษกรรมหรือไม่ ส่วนตัวไม่ทราบ เรื่องการถอดถอนนักการเมือง อยากให้มองว่าการทำหน้าที่ของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ทำหน้าที่แทนสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ซึ่งดำเนินการตามกฏหมาย ไม่ใช่เพื่อต้องการลงโทษใคร  ความคืบหน้าการประสานติดตามตัว นายเอกภพ เหลือรา หรือ ตั้ง อาชีวะ ที่อยู่ในประเทศนิวซีแลนด์  นายกฯระบุว่า  การที่นายเอกภพ อ้างถึงการใช้หลักสิทธิมนุษยชน และได้รับการช่วยเหลือจากสำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) จนทำให้สังคมออนไลน์ระบุว่ามียกเลิกการบริจาคเงินให้กับ UNHCR  ส่วนตัวอยากให้ประชาชนแยกแยะเรื่องนี้ และส่วนตัวคิดว่าทางการของนิวซีแสนด์ก็คงจะไม่พอใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น

ความคืบหน้าการดำเนินการในเขตเศรษฐกิจพิเศษ 5  แห่ง ที่จะเริ่มเปิดในปีนี้ ขณะนี้ก็กำลังกำหนดเขตพื้นที่ว่าจะใช้ในพื้นที่ใด และให้ใครเข้ามาใช้ประโยชน์ โดยบริษัทที่เข้ามาเปิดในพื้นที่ จะได้รับสิทธิประโยชน์จากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(BOI)  หรืออาจจะได้รับการยกเว้นภาษี  คาดว่าปีนี้จะเริ่มดำเนินการเป็นแห่งแรกในพื้นที่บางจุด เช่น ที่อำเภอแม่สอด จ.ตาก จะเริ่มสร้างศูนย์กระจายสินค้า และโกดังก่อน  ส่วนการตั้งโรงงานอาจไม่ทันในปีนี้ เนื่องจากต้องรอการพัฒนาระบบสาธารณูปโภค อาทิ ไฟฟ้า การก่อสร้างถนน เป็นต้น คาดว่าจะแล้วเสร็จสมบูรณ์ทั้งหมดภายในปี 2565 โดยจุดประสงค์หลัก คือ การจะทำให้การรับซื้อสินค้าจากต่างประเทศผ่านชายแดน สามารถส่งออกได้เลยโดยไม่ต้องเข้าไทย ส่วนเรื่องการดำเนินการจัดการที่ดิน อันดับแรกก็จะใช้พื้นที่ของรัฐ เพื่อชักจูงบริษัทห้างร้านเข้ามาร่วมลงทุน  ส่วนการที่เอกชนบางรายมีการถือครองที่ดินมาก รัฐจะขอควรร่วมมือกับเอกชน แบ่งมาดำเนินการเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ เนื่องจากจะดีกว่าการที่จะถูกเวนคืน ซึ่งอนาคตอาจจะโดนเก็บภาษีที่ดินอีกด้วย

วิรวินท์