ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้เวลา 12.30น.วันพุธที่ 13 มกราคม 2564

จ.พิษณุโลก พบผู้ป่วยคนแรก ทำให้เป็นจังหวัดที่ 60 ที่พบผู้ติดเชื้อ

          วันนี้ พิษณุโลก เป็นจังหวัดที่ 60 ที่พบผู้ติดเชื้อจำนวน 1 คน หลังจากไม่พบผู้ติดเชื้อมา 279 วัน สำหรับผู้ติดเชื้อรายนี้ เป็นชาย ทำอาชีพพนักงานขับรถขนส่งสินค้าเอกชนแห่งหนึ่งใน จ.หนองบัวลำภู พบประวัติ กลับมาบ้านภรรยาที่ อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก ตั้งแต่วันที่ 30 ธ.ค. 2563 - 4 ม.ค. 2564 จากนั้นได้เดินทางกลับไปทำงานที่ จ.หนองบัวลำภู ต่อมาพบอาการป่วยผิดปกติ จึงเดินทางกลับบ้านภรรยาที่อำเภอเนินมะปราง อีกครั้งหนึ่ง และขอเข้าตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลเนินมะปราง จนกระทั่งพบเชื้อโควิด-19 ดังกล่าว

          นายพิศิษฐ์ กิจบุญอนันต์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก พร้อมด้วย นพ.ไกรสุข เพชระบูรณิน นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลก ได้ร่วมประชุม ศบค.ของจังหวัดพิษณุโลก ได้เตรียมพร้อมมาตรการป้องกันและปรึกษาเรื่องโรงพยาบาลสนามรองรับสถานการณ์ ซึ่งอาจจะเป็นค่ายทหาร และสถานที่กักกันแรงงานต่างด้าว และคนเร่ร่อน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดในครั้งนี้ รวมทั้งจะแถลงข่าวเพื่อเปิดรายละเอียดและไทม์ไลน์ของผู้ติดเชื้อล่าสุดช่วงบ่ายวันนี้    

โคราช ยังไม่ล็อกดาวน์ ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่ติดมาจากพื้นที่สีแดง

          นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครราชสีมา แถลงข่าวสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโควิด-19 ของจังหวัดนครราชสีมา ล่าสุด พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ระลอกใหม่เพิ่มอีก 1 คน รวมยอดผู้ป่วยสะสมแล้ว 10 คน รายล่าสุด เป็นหญิง อายุ 37 ปี อาชีพแม่บ้าน มีประวัติเดินทางกลับมาจากจังหวัดระยอง พื้นที่สีแดงเสี่ยงสูง รวมผู้ป่วยสะสม 10 คน ผู้ป่วยรายล่าสุดมีไทม์ไลน์

-วันที่ 2 ธ.ค.63 เดินทางจาก อ.ปากช่อง ด้วยรถยนต์ส่วนตัวเพียงคนเดียวไปหาแฟนที่พักอาศัยอยู่ห้องแถวใน ต.ทับมา อ.เมือง จ.ระยอง

-วันที่ 3-25 ธ.ค.63 ผู้ป่วยไปซื้อของในตลาดนัดในพื้นที่อาทิตย์ละครั้ง แต่จำวันไม่ได้ โดยตลาดมีการคัดกรอง และผู้ป่วยรายนี้ได้สวมหน้ากากผ้าหน้ากากอนามัยทุกครั้ง

-วันที่ 26 ธ.ค.63 เดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวไปซื้ออาหารสดที่ห้างสรรพสินค้าแม็คโคร ระยอง และแวะตลาดสดใน ต.ทับมา ช่วงเย็นทานอาหารปิ้งย่างกับแฟน และเพื่อนข้างห้อง โดยไม่ใช้ช้อนกลาง และจิ้มน้ำจิ้มถ้วยเดียวกัน

-วันที่ 27 ธ.ค.63 เดินทางกลับ อ.ปากช่อง ด้วยรถยนต์ส่วนตัวเดินทางเพียงคนเดียว ระหว่างทางแวะปั๊มที่ อ.แกลง จ.ระยอง 1 ครั้ง จากนั้นเวลา 13.30 น ถึง อ.ปากช่อง แวะพูดคุยกับญาติ และเพื่อนข้างบ้าน ไม่เกิน 5 นาที แต่สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ซึ่งผู้ป่วยได้รายงานตัวกับอาสาสมัครสาธารณสุขหมู่บ้าน (อสม.) ในพื้นที่มีการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย ซักประวัติ และร่วมทานอาหารเย็นที่บ้านของญาติ

-วันที่ 28 ธ.ค.63 เวลา 16.00 น. ผู้ป่วยและหลาน เดินทางด้วยรถจักรยานยนต์ไปซื้อของที่ตลาดนัดศาลเจ้า ต.กลางดง

-วันที่ 29 ธ.ค.63 เวลา 19.00-21.00 น. ผู้ป่วยร่วมงานเลี้ยงสังสรรค์ที่บ้านเพื่อนในหมู่บ้าน

-วันที่ 30 ธ.ค.63 อสม.แจ้งให้ผู้ป่วยกักตัว เนื่องจากเดินทางมาจากพื้นที่ควบคุมสูงสุด ผู้ป่วยจึงเริ่มกักตัวอยู่ที่บ้าน โดยให้เพื่อนบ้านนำอาหารมาส่งที่หน้าบ้าน และไม่ได้พูดคุยกับใคร

-วันที่ 31 ธ.ค.63 ผู้ป่วยกักตัวอยู่บ้าน และช่วงบ่ายลูกชายได้เดินทางมาหาเพื่อซื้ออาหารมาให้ผู้ป่วยในช่วงกักตัว โดยนอนแยกห้องกับผู้ป่วย และไม่ได้ทานอาหารร่วมกัน แต่ใช้ห้องน้ำร่วมกัน

-วันที่ 1-7 ม.ค.64 ผู้ป่วยกักตัวอยู่บ้าน และเริ่มมีอาการ ปวดศีรษะ ลิ้นไม่รับรส จมูกเริ่มไม่ได้กลิ่น

วันที่ 8-9 ม.ค.64 เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลปากช่อง

-วันที่ 10 ม.ค.64 ผลตรวจยืนยันพบเชื้อ ทั้งนี้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอปากช่องได้ลงพื้นที่สอบสวนโรค และค้นหากลุ่มเสี่ยง โดยมีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 20 คน และผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ 16 คน โดยทั้งหมดเข้าสู่กระบวนการกักตัว และตรวจหาเชื้อ แต่ขณะนี้ยังไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่มเติม

         นายวิเชียร กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ถึงขั้นล็อกดาวพื้นที่ ทั้งนี้ จ.นครราชสีมา ผู้ป่วยส่วนใหญ่ติดมาจากพื้นที่สีแดง โดยเรายังไม่ใช่เป็นพื้นที่สีแดง เรายังไม่มีการติดโควิด-19 ในพื้นที่ เรายังเป็นพื้นที่สีส้มที่เป็นพื้นที่ควบคุมต่อไป

ป.ป.ส.เปิดผลตรวจ ‘เคนมผง’ พบผสม ‘แวเลียม’

           หลังชุดปราบปรามยาเสพติด ตำรวจนครบาล 2 เข้าจับกุม หญิงอายุ 23 ปี พร้อมของกลางซึ่งเป็นยาตัวใหม่ที่เรียกว่า “เคนมผง” น้ำหนักประมาณ 7.35 กรัม ได้ในพื้นที่ เขตสายไหม โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานส่งวัตถุของกลางดังกล่าวเข้าตรวจพิสูจน์ที่สถาบันวิชาการและตรวจพิสูจน์ยาเสพติด สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด(ป.ป.ส.) น้ำหนักรวม 5.314 กรัม โดยลักษณะเป็นผงสีขาว บรรจุมาในซองซิปพลาสติก จำนวนทั้งสิ้น 6 ซอง

          นายวิชัย ไชยมงคล เลขาฯป.ป.ส. เปิดเผยว่า สถาบันวิชาการและตรวจพิสูจน์ยาเสพติด สำนักงาน ป.ป.ส.ได้ตรวจพิสูจน์วัตถุของกลางเสร็จแล้ว ปรากฏว่าของกลางที่เรียกว่า “เคนมผง” มีส่วนผสมของเคตามีนและไดอาซีแพม (Diazepam) หรือยาที่ทั่วไปรู้จักกันในทางการค้าว่า แวเลียม (Valium) จัดเป็นวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 4 ตามพระราชบัญญัติวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ.2559

          ไดอาซีแพม หรือ แวเลียม ออกฤทธิ์ที่สมองหรือระบบประสาทส่วนกลาง ในทางการแพทย์ใช้เป็นยากล่อมประสาทหรือสงบประสาท ทำให้จิตใจสงบ ใช้สำหรับรักษาอาการผิดปกติทางอารมณ์ เช่น ความเครียด ความวิตกกังวล ทำให้กล้ามเนื้อคลายตัว แก้อาการชัก เป็นต้น

         เลขาฯ ป.ป.ส. กล่าวว่า ผลข้างเคียงจากการใช้ไดอาซีแพม อาจทำให้มีอาการง่วงซึม เหนื่อยล้า กล้ามเนื้ออ่อนแรง ร่างกายสูญเสียความสมดุล ลมหายใจอ่อนแรง มึนงง เห็นภาพหลอน ซึมเศร้า กล้ามเนื้อกระตุก กลั้นปัสสาวะไม่อยู่ รวมถึงเกิดอาการชักได้ โดยความผิดในฐานผู้ขาย ต้องระวางโทษจำคุก 2-10 ปี และปรับตั้งแต่ 200,000 – 1,000,000 บาท และความผิดฐานครอบครองหรือใช้ประโยชน์ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

          ขณะที่ยาเค หรือ เคตามีน (Ketamine) เป็นวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท ประเภท 2 ตามพระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ. 2518 ใช้เป็นยาสลบก่อนทำการผ่าตัด สามารถระงับปวด ช่วยขยายหลอดลม ต่อต้านอาการซึมเศร้าได้ ทำให้ในระยะหลังมีการนำเคตามีนมาใช้ในทางที่ผิด เพื่อความบันเทิงร่วมกับยาเสพติดร้ายแรงชนิดอื่น เช่น ยาอี และโคเคน ผู้เสพจะรู้สึกมึนงง ความคิดสับสน ตาลาย หูแว่ว การรับรู้และการตอบสนองต่อสิ่งแวดล้อมจะเปลี่ยนแปลงไป หัวใจเต้นเร็ว ความดันโลหิตสูง อาจเกิดอาการประสาทหลอน การเสพในระยะเวลานาน จะทำให้ผู้เสพประสบกับสภาวะโรคจิต และกลายเป็นคนวิกลจริตได้

         ความผิดคดียาเสพติดในฐานผู้เสพ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ความผิดฐานผู้ขาย ต้องระวางโทษจำคุก 4-20 ปี และปรับตั้งแต่ 400,000 - 2,000,000 บาท และความผิดฐานครอบครองหรือใช้ประโยชน์ ต้องระวางโทษจำคุก 1-5 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000 - 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ