ข่าวปลอม! อย่าแชร์ เรื่องลานีญา ทำให้อากาศหนาวกว่าปกติ
ตามที่มีข้อความเตือนภัยถึงเรื่องปรากฎการณ์ลานีญา อากาศจะหนาวกว่าค่าปกติในช่วงเดือนธ.ค. 2563-ม.ค. 2564 ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยกรมอุตุนิยมวิทยา กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมพบว่าข้อมูลดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ
กรณีการเตือนภัยเรื่องสภาพอากาศที่ระบุว่าเตรียมรับลมหนาวมากกว่าค่าปกติ ส่วนปี 2564 ฝนมากกว่าปกติ กรมอุตุนิยมวิทยา กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ชี้แจงว่า เป็นการนำเสนอข้อมูลที่เกินความจริง ปรากฎการณ์ลานีญา จะส่งผลต่อสภาพอากาศของประเทศไทย คาดว่า ในช่วงเดือนพ.ย.2563 ถึง เดือนม.ค.2564 ปริมาณฝนบริเวณประเทศไทยตอนบนจะมีค่าสูงกว่าค่าปกติเพียงร้อยละ 10 ส่วนบริเวณภาคใต้ปริมาณฝนจะสูงกว่าค่าปกติร้อยละ 20 ส่วนอุณหภูมิเฉลี่ยของประเทศไทยมีแนวโน้มใกล้เคียงกับค่าปกติ ไม่ได้ส่งผลให้เกิดอากาศหนาวกว่าค่าปกติ
ขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่งหรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากกรมอุตุนิยมวิทยา กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.tmd.go.th หรือโทร. 1182
ผลกระทบจากปรากฏการณ์เอลนีโญและลานีญา ทำให้เกิดผลกระทบโดยตรงต่อระบบนิเวศของโลก ความแปรปรวนของกระแสลมและการไหลเวียนของกระแสน้ำที่ผันผวน อาจส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของโลกอย่างรุนแรง เช่น การเกิดพายุ ภัยแล้ง ไฟป่า หรือน้ำท่วม ซึ่งเป็นภัยธรรมชาติที่ส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของทั้งคนและสัตว์ทะเลและมนุษย์ แม้ว่าประเทศไทยจะไม่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากปรากฏการณ์เอลนีโญและลานีญา แต่ในช่วงใดก็ตามที่เกิดปรากฏการณ์เอลนีโญขึ้น อุณหภูมิภายในประเทศไทยอาจเพิ่มสูงขึ้นกว่าระดับปกติ และอาจเกิดสภาพอากาศแปรปรวนในบางพื้นที่ เช่น ในบริเวณที่เคยมีฝนตกชุกอาจต้องเผชิญกับความแห้งแล้งฉับพลัน หรือในพื้นที่ที่ขาดแคลนน้ำฝนอาจเผชิญกับพายุฝนรุนแรง เป็นต้น
CR: ngthai.com/science/26980/elnino-lanina/
ชะลอห้ามรถบรรทุกวิ่งเข้า กทม. ออกไปไม่มีกำหนด
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ประชุมร่วมกับ กรมส่งเสริมสภาอุตสาหกรรมฯ , กรมควบคุมมลพิษ , สมาคมการขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย , สภาหอการค้าไทย กรุงเทพมหานคร , กองบัญชาการตำรวจนครบาล และกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 2 และ 7 เกี่ยวกับการออกข้อบังคับของเจ้าพนักงานจราจรฯ ห้ามไม่ให้รถบรรทุก 10 ล้อขึ้นไป วิ่งในพื้นที่กรุงเทพฯ เพื่อลดปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ PM 2.5 ที่กำหนดห้ามวิ่ง 1-28 ธ.ค.2563
จากการหารือร่วมกันที่ประชุมมีมติให้ชะลอการออกข้อบังคับของเจ้าพนักงานจราจรออกไปก่อน เนื่องจากข้อมูลแต่ละส่วนมีความไม่ตรงกัน และได้รับการร้องขอจากหน่วยงานด้านการขนส่ง การก่อสร้างตลอดภาคเศรษฐกิจต่างๆ ตั้งตัวไม่ทัน หวั่นจะส่งผลกระทบในวงกว้างหากมีการห้ามรถบรรทุกวิ่ง แต่ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกลับไปศึกษาวางทางแนวทางระยะยาวเกี่ยวกับการดำเนินการลดมลพิษฝุ่น PM 2.5 ระยะยาวต่อไป ว่าจะทำอย่างไรเพื่อแก้ปัญหาทั้งในแง่ของเครื่องยนต์ และการกระจายสินค้า หากจะมีการห้าม ก็ขอให้ห้ามถาวร ไม่ใช่มีการห้ามเป็นช่วงเวลา เพราะผู้ประกอบการด้านการขนส่งและอุตสาหกรรมปรับตัวไม่ทัน จึงได้ขอให้ชะลอไปก่อนในครั้งนี้
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า ที่ประชุมมีความเห็นร่วมกันว่า วันที่ 1 ธ.ค.2563 เป็นต้นไป จะเพิ่มความเข้มข้นมาตรการบังคับใช้กฎหมายกับรถที่มีมลพิษ รถที่มีควันดำต่างๆ โดยตำรวจนครบาลและตำรวจภูธรภาคต่างๆ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะร่วมกันตั้งจุดตรวจร่วมในพื้นที่กรุงเทพฯให้เข้มข้น และมีมาตรการเชิงรุกในการที่จะเข้าไปตรวจสถานที่จอดรถโดยสารและรถบรรทุก รวมถึงให้บริการจุดจอดสถานที่ต่างๆที่ต้องการตรวจสภาพรถ โดยการดำเนินตั้งจุดตรวจร่วมจะทำให้โปร่งใส มีกล้องบันทึกภาพ เพื่อให้ประชาชนมั่นใจ
เริ่มเปิดแล้ววันนี้ ! เดินเรือไฟฟ้าคลองผดุงกรุงเกษม สายแรกของไทย
เช้านี้ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ เปิดให้บริการเดินเรือไฟฟ้าคลองผดุงกรุงเกษมจากท่าเรือสถานีรถไฟหัวลำโพง ถึง ท่าเรือตลาดเทวราช ที่ท่าเรือสถานีรถไฟหัวลำโพง ถนนเลียบคลองผดุงกรุงเกษม เขตปทุมวัน
กรุงเทพมหานคร(กทม.) พัฒนาเส้นทางการเดินเรือโดยสารเพิ่มอีก 1 เส้นทางนั่นคือ การเดินเรือในคลองผดุงกรุงเกษม ที่แล่นจาก ท่าเรือสถานีรถไฟหัวลำโพง ไปยัง ท่าเรือตลาดเทเวศร์ รวม 11 ท่า เพื่อเชื่อมต่อ MRT รถไฟ เรือด่วนเจ้าพระยาและเรือคลองแสนแสบ เดินทางสะดวกและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยพลังสะอาด 100% ลดฝุ่น ลดควัน ลดเสียง สายแรกของไทย เริ่ม 27 พ.ย.2563 พร้อมให้บริการมากถึง 8 ลำ เวลาเร่งด่วนออกทุก15นาที ติด GPS กล้อง CCTV ไฟฟ้าส่องสว่างด้วยโซลาร์เซลล์ รองรับผู้โดยสารที่ใช้วีลแชร์ ให้บริการผู้โดยสารลำหนึ่งได้มากถึง 30 ที่นั่ง มีจุดให้บริการแขวนจักรยานวันจันทร์-ศุกร์ 6.00น.- 19.00 น.วันละ 39 เที่ยว ออกทุก 15 นาทีวันหยุดราชการ ให้บริการ 8.00น. ถึง 19.00น. วันละ 23 เที่ยว สามารถปรับการให้บริการให้สอดคล้องกับจำนวนผู้โดยสารแต่ละรอบ
CR:ฝ่ายประชาสัมพันธ์ กรุงเทพมหานคร,เพจไทยคู่ฟ้า
บ่ายนี้ นายกฯ จับมือ AstraZeneca ลงนามจองวัคซีน จัดการวิกฤตโควิด-19 ระยะยาว
ช่วงบ่าย 14.00 น.ที่ทำเนียบ นายกฯ เป็นประธานในพิธีลงนามในสัญญาการจัดหาวัคซีนโควิด - 19 โดยการจองล่วงหน้ากับบริษัท AstraZeneca จำกัด บริษัทผู้ผลิตชีวภัณฑ์ชั้นนำสัญชาติอังกฤษ-สวีเดน หลังจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) เมื่อวันที่ 17 พ.ย.2563 เห็นชอบโครงการจัดหาวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สำหรับประชาชนไทยโดยการจองล่วงหน้าและการจัดซื้อวัคซีน
นายกฯ ระบุว่า วิธีจัดการกับวิกฤตโควิด-19 ในระยะยาวคือ การมีวัคซีนป้องกัน และจะต้องกระจายไปยังประชาชนให้ได้อย่างทั่วถึง ประเทศใหญ่ๆ ในโลกต่างพยายามล็อกคิว เพื่อจะได้ใช้วัคซีนเป็นประเทศแรกๆ ทันทีที่วัคซีนได้รับการยืนยันประสิทธิภาพและความปลอดภัย แล้วผลิตเสร็จออกมา ประเทศไทยเราก็สมควรจะได้รับโอกาสนั้นด้วย คือการเข้าถึงวัคซีนอย่างรวดเร็วและเพียงพอ เพราะการได้วัคซีนมาใช้นั้น ยิ่งเร็วเท่าไหร่ ก็ยิ่งจะช่วยให้เศรษฐกิจสามารถฟื้นกลับมาเป็นปกติได้เร็วขึ้นด้วย นั่นคือเหตุผลที่ไทยต้องเลือกจับมือกับพันธมิตรที่มีศักยภาพที่น่าจะมีโอกาสทำสำเร็จได้จริงอย่างรวดเร็ว
นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการ กองโรคติดต่อทั่วไป
องค์การอนามัยโลก ระบุว่า กว่าร้อยละ 50 ของผู้ติดเชื้อเป็นผู้ที่ไม่แสดงอาการ และจำนวนผู้ติดเชื้อที่ได้รับรายงานนั้น มีความเป็นไปได้ว่าอาจน้อยกว่าจำนวนผู้ติดเชื้อจริงอยู่มาก เนื่องจากบางรายไม่แสดงอาการหรือไม่ได้เข้าสู่ระบบการรักษา ดังนั้น ขอความร่วมมือให้ทุกคนไม่ประมาท เฝ้าระวังสังเกตอาการป่วยของตนเองและคนรอบข้างอยู่เสมอ อาการสำคัญคือจมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส หลังจากเดินทางไปในที่ชุมชน สถานที่แออัด ให้สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาและรีบไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและรักษาทันที