‘แอนโทนี บลิงเคน’ว่าที่รมว.ต่างประเทศสหรัฐฯคนใหม่ จะช่วยสานสัมพันธ์ที่ร้าวฉานกับจีนได้
ว่าที่รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯคนใหม่ วัย 58 ปี นายแอนโทนี บลิงเคน ในคณะรัฐมนตรีของนายโจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ น่าจะช่วยสานความสัมพันธ์ที่ร้าวฉานกับจีนได้ นายเจีย ชิงกัว ศาสตราจารย์ด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยปักกิ่ง ของจีน มองว่า นายบลิงเคน น่าจะเป็นเจ้าหน้าที่อเมริกันที่สามารถทำงานร่วมกับจีนเพื่อฟื้นเสถียรภาพความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศได้ ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามที่จะมาทำงานร่วมกับจีน แต่แน่ใจได้เลยว่าดีกว่านายไมค์ พอมเพโอ รัฐมนตรีต่างประเทศคนปัจจุบันของสหรัฐฯที่มีแนวทางสายเหยี่ยวและโจมตีจีนเป็นประจำ และสามารถคาดเดานโยบายได้มากกว่าในยุคของนายโดนัลด์ ทรัมป์
นายลู่ เซียง ผู้เชี่ยวชาญด้านความสัมพันธ์ของสหรัฐฯ จากบัณฑิตยสภาทางสังคมศาสตร์จีน ขานรับว่า เป็นข่าวดีสำหรับจีน หากนายบลิงเคนได้รับแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ และนายบลิงเคน เน้นการลงมือทำจริง
นายบลิงเคน เป็นที่ปรึกษาของนายไบเดน มายาวนาน ขณะที่ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยต่างประเทศเมื่อปี 2015-2017 นายบลิงเคน ได้พบนักการทูตระดับสูงของจีนหลายคน เช่น นายหยาง เจียฉี ที่ปัจจุบันเป็นสมาชิกกรมการเมืองพรรคคอมมิวนิสต์จีน ซึ่งคุมงานด้านการต่างประเทศ และนายหวัง อี้ มนตรีแห่งรัฐและรัฐมนตรีต่างประเทศ
CR:ABC NEWS
ดาวโจนส์ พุ่งกว่า 30,000 จุด จากปัจจัยการพัฒนาวัคซีน-การถ่ายโอนอำนาจให้ ‘ไบเดน’
สถานการณ์การเมืองในสหรัฐฯคลี่คลายในระดับหนึ่ง มีหลายปัจจัยที่ทำให้หุ้นวอลล์สตรีท ปิดตลาดปิดเพิ่มขึ้น ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์พุ่งเหนือ 30,000 จุดเป็นครั้งแรก ปัจจัยสำคัญที่ทำให้นักลงทุน คลายความวิตกกังวล คาดหมายว่า เศรษฐกิจฟื้นตัวในปีหน้า
-นายทรัมป์ ถ่ายโอนอำนาจให้นายไบเดน อย่างเป็นทางการ
-ความเชื่อมั่นของนักลงทุนยังได้แรงหนุนจากรายงานข่าวที่ระบุว่า นายไบเดน เตรียมเสนอชื่อนางเจเน็ต เยลเลน อดีตประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ที่จะมุ่งเน้นให้ความสำคัญกับความพยายามแก้ปัญหาความไม่เท่าเทียมทางเศรษฐกิจ
-การแถลงของบริษัทวิจัยวัคซีนว่าวัคซีนโควิด-19 จะพร้อมใช้งานก่อนสิ้นปี บริษัทแอสตราเซเนกา บริษัทอังกฤษ แถลงว่า วัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่พัฒนาร่วมกับมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด มีศักยภาพที่จะกลายเป็น “วัคซีนสำหรับโลก” เพราะนอกจากมีประสิทธิภาพในระดับน่าพอใจถึงร้อยละ 90 ยังมีราคาถูก สะดวกในการเก็บรักษาและในการแจกจ่าย รวมทั้งสามารถผลิตออกมาครั้งละมากๆ ได้รวดเร็วกว่า เมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์ของคู่แข่งรายสำคัญๆ
ปัจจัยดังกล่าวทำให้หุ้นสหรัฐฯและราคาน้ำมันในตลาดโลกปิดตลาดเพิ่มขึ้น แต่ทำให้ทองคำ ดิ่งลงหนัก
-ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 454.97 จุด หรือร้อยละ 1.54 ปิดที่ 30,046.24 จุด
-เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 57.82 จุด หรือร้อยละ 1.62 ปิดที่ 3,635.41 จุด
-แนสแดค เพิ่มขึ้น 156.15 จุด หรือร้อยละ 1.31 ปิดที่ 12,036.78 จุด
-สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนธ.ค.2563 เพิ่มขึ้น 1.85 ดอลลาร์สหรัฐฯ ปิดที่ 44.91 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล
-เบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนม.ค.2564 เพิ่มขึ้น 1.80 ดอลลาร์สหรัฐฯ ปิดที่ 47.86 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล
-ทองคำตลาดโคเม็กซ์ งวดส่งมอบเดือนธ.ค.2563 ลดลง 33.20 ดอลลาร์สหรัฐฯ ปิดที่ 1,804.60 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์ แตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่กลางเดือนก.ค.2563
รัสเซีย บอกวัคซีนโควิด ‘สปุตนิค วี ’ ได้ผล 95% เก็บรักษาในอุณหภูมิแค่ 2-8 องศา
สถาบันวิจัยกามาเลยาในกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย ยืนยันว่า ในการวิเคราะห์ครั้งที่ 2 วัคซีนต้านโควิด-19 “สปุตนิค วี” ที่สถาบันผลิตขึ้นได้ผลดีถึงร้อยละ 95 และพร้อมจำหน่าย วัคซีนสปุตนิค วี 2 โดส ในตลาดโลกในราคาที่ถูกแสนถูกเพียงไม่ถึง 10 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 300 บาทต่อโดสเท่านั้น แต่ประชาชนชาวรัสเซียจะได้รับวัคซีนดังกล่าวฟรี
กลุ่มทดลอง 39 คน ได้รับวัคซีนโดสแรกไปแล้ว 42 วัน วัคซีนแสดงให้เห็นว่ามีประสิทธิภาพสูงร้อยละ 91.4 ในช่วง 28 วัน ขณะที่ 42 วัน ต่อมา หลังจากที่มีการรับวัคซีนโดส 2 ประสิทธิภาพของวัคซีนเพิ่มสูงขึ้นถึง ร้อยละ 95 นอกจากนี้ วัคซีนสปุตนิค วี ยังสามารถเก็บรักษาไว้ที่อุณหภูมิระหว่าง 2-8 องศาเซลเซียส ถือว่าง่ายในการเก็บรักษามากกว่าวัคซีนที่คิดค้นขึ้นโดยบริษัทอื่นๆ ที่ต้องเก็บรักษาในอุณหภูมิติดลบ
จับตา! รมว.การต่างประเทศจีน เยือนญี่ปุ่น หวังสานสัมพันธ์ ในยุคที่ญี่ปุ่นจับมือสหรัฐฯ
นายหวัง อี้ เป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลจีน คนแรก ที่เดินทางเยือนกรุงโตเกียว ของญี่ปุ่น อย่างเป็นทางการ นับตั้งแต่นายกรัฐมนตรีโยชิฮิเดะ สึกะ รับตำแหน่งเมื่อ 2 เดือนที่แล้ว นายโทชิมิตสึ โมเตงิ รมว.การต่างประเทศญี่ปุ่น ให้การต้อนรับ นายหวัง อี้ ที่กรุงโตเกียว โดยเจ้าหน้าที่การทูตหมายเลขหนึ่งของรัฐบาลจีน มีกำหนดปฏิบัติภารกิจในญี่ปุ่นเป็นเวลา 2 วัน เพื่อหารือเรื่องการขยายความสัมพันธ์ทางการค้าในระดับทวิภาคี ระหว่างประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 และ 3 ของโลก และอันดับ 1 และ 2 ของทวีปเอเชีย
อย่างไรก็ตาม การเยือนกรุงโตเกียวของ รมว.การต่างประเทศจีน เกิดขึ้นท่ามกลางบรรยากาศตึงเครียดด้านความมั่นคง โดยเฉพาะอย่างยิ่งรัฐบาลญี่ปุ่นชุดปัจจุบันมีความมุ่งมั่นชัดเจนที่จะร่วมผลักดันแผนยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิก กับสหรัฐฯ
มีรายงานว่า หนึ่งในหัวข้อหารือที่สำคัญรวมถึงการจัดทำโครงการทราเวล บับเบิล หรือระเบียงการเดินทาง ในเบื้องต้นเน้นการจำกัดจำนวนและประเภทของการเดินทาง เพื่อให้ตรวจสอบง่าย ขณะเดียวกัน หวังว่าน่าจะได้เข้าพบนายกรัฐมนตรีสึกะ ซึ่งจะเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงคนแรกจากจีน ที่ได้เยี่ยมคารวะผู้นำคนใหม่ของญี่ปุ่น
เมื่อเดือน เม.ย. 2563 ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน มีกำหนดการเยือนกรุงโตเกียว ตามคำเชิญของนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ผู้นำญี่ปุ่นในเวลานั้น แต่ทั้งสองฝ่ายเห็นตรงกันว่าให้เลื่อนออกไปก่อน เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
‘อีลอน มัสก์’ โค่น ‘บิล เกตส์’ ขึ้นแท่นมหาเศรษฐีรวยสุดอันดับ 2 ของโลก
อีลอน มัสก์ นักธุรกิจและผู้ก่อตั้ง-ซีอีโอบริษัทเทสลา และสเปซเอ็กซ์ วัย 49 ปี ขึ้นแท่นมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก โค่นแชมป์เก่า บิล เกตส์ ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทไมโครซอฟท์
ความร่ำรวยของ อีลอน มัสก์ ที่พุ่งทะยานขึ้นมาครองอันดับ 2 ของโลก ทำให้มูลค่าทรัพย์สินของเขาเพิ่มขึ้นกว่า 1แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สวนกระแสโควิด-19 ระบาดที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลก เนื่องจากราคาหุ้นของบริษัทเทสลา ซึ่งเป็นบริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ได้พุ่งทะยานแบบก้าวกระโดด พุ่งทะยานขึ้นไปกว่าหุ้นละ 521 ดอลลาร์สหรัฐฯ หลังจากบริษัทเทสลาได้รับเลือกให้อยู่ในดัชนี S&P 500 ซึ่งเป็นดัชนีที่รวม 500 บริษัทที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ และแน่นอนว่า ทำให้ อีลอน มัสก์ ผู้ก่อตั้งเทสลา กลายเป็นมหาเศรษฐีอับดับ 2 ของโลก ตามหลังแค่เพียง เจฟฟ์ เบซอส ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของบริษัทแอมะซอนเท่านั้น
จากการจัดอันดับบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลก ของ Bloomberg และ Bloomberg Billionaires Index
1.เจฟฟ์ เบซอส มีทรัพย์สิน 182 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
2.อีลอน มัสก์ 127.9 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
3.บิล เกตส์ 127.7 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
4.แบร์นาร์ด อาร์โนลต์ นักธุรกิจชาวฝรั่งเศส 105 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
5.มาร์ก ซัคเคอร์เบิร์ก 102 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ