ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 12.30 น. วันศุกร์ที่ 30 ตุลาคม 2563

30 ตุลาคม 2563, 12:39น.


เอกชนไทย หวั่นปัญหาขาดแรงงานทำงานในภาคอุตสาหกรรม 



          นายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์แรงงานและพัฒนาฝีมือแรงงาน กล่าวถึงข้อเสนอหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เกี่ยวกับการพัฒนาและแก้ไขปัญหาแรงงานของประเทศไทย มีความห่วงใยในสถานการณ์แรงงานของไทยในปัจจุบันมาก หลังจากปัญหาโควิด-19 เกิดขึ้นมา ทำให้แรงงานต่างด้าวจากกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านกลับประเทศตนเองนับเป็นจำนวนหลายแสนคน แต่หลังจากไทยดูแลและป้องกันปัญหาโควิด-19 ได้ดี แต่ภาคอุตสาหกรรมของไทยต่างๆประสบปัญหาหลายด้านรวมถึงด้านแรงงานที่แรงงานต่างด้าวกลับประเทศไปแล้วแต่ไม่สามารถกลับเข้าประเทศไทยได้ เนื่องจากผลกระทบโควิด-19 จากประเทศเพื่อนบ้านต่างๆที่มีการระบาดโควิด-19 เพิ่มขึ้น ทำให้ไทยไม่สามารถเปิดประเทศรับแรงงานต่างด้าวให้กลับมาภาคอุตสาหกรรมต่างๆของไทยได้ จึงเกิดปัญหาขาดแรงงานต่างด้าวในอุตสาหกรรมในไทยอย่างหนักในตอนนี้



          แม้ว่าหลายหน่วยงานจะผ่อนปรนและเปิดโอกาสให้แรงงานไทยที่ว่างงานอยู่ได้หันมาทำงานในภาคอุตสาหกรรมให้มากยิ่งขึ้น แต่ในหลายอุตสาหกรรมของไทย แรงงานไทยที่ว่างงานอยู่ยังไม่สนใจที่จะเข้ามาทำงานมากเท่าที่ควร โดยภาคอุตสาหกรรมที่ต้องการแรงงานมาก เช่น กลุ่มอาหารแปรรูป กลุ่มถุงมือยาง กลุ่มสินค้าอาหารและเกษตร จึงอยากให้ทุกหน่วยงานที่จะหาทางกระตุ้นให้แรงงานไทยที่ว่างงานอยู่ให้เข้ามาทำงานในกลุ่มอุตสาหกรรมไทยเหล่านี้ให้มากยิ่งขึ้น และสิ่งที่วิตกหากอนาคตภาคอุตสาหกรรมไทยหันมาเปลี่ยนใช้เครื่องมือแทนคนทั้งหมดต่อไปแรงงานไทยจะยิ่งตกงานเพิ่มมากขึ้น เพราะเห็นว่าอุตสาหกรรมไม่จำเป็นต้องใช้แรงงานคนอีกต่อไป



         หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ได้นำเสนอรัฐบาลเกี่ยวกับมาตรการช่วยเหลือด้านแรงงานจากสถานการณ์โควิด-19 ไปก่อนหน้านี้ ประกอบด้วย



1.การเพิ่มสิทธิประโยชน์การว่างงาน เนื่องจากเหตุสุดวิสัย รับเงินกรณีว่างงานร้อยละ 62 (ไม่เกิน 90 วัน) และเลื่อนเวลาส่งเงินสมทบของนายจ้างและผู้ประกันตน มาตรา 33 และ 39



2.การขยายเวลาการลดอัตราเงินสมทบของนายจ้างและลูกจ้าง จากร้อยละ 5 เหลือร้อยละ 2 เพิ่มเติมอีก 3เดือนตั้งแต่เดือนก.ย.–พ.ย.2563 การขยายมาตรการผ่อนปรนให้แรงงานต่างด้าว MOU ที่มีวาระการจ้างงานครบราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวและสามารถทำงานได้ถึง 31 มี.ค.2565



แฟ้มภาพ



ชาวญี่ปุ่น เดินทางออกไป 9 ประเทศได้ มีไทยรวมด้วย



          นายโตชิมิตสึ โมเตกิ รัฐมนตรีต่างประเทศของญี่ปุ่น ประกาศลดระดับคำเตือนการเดินทางไปยัง 9 ประเทศ หลังจากที่อัตราการติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศเหล่านั้นชะลอตัวลง ทำให้ญี่ปุ่นได้ลดระดับการเตือนการเดินทางไปยังประเทศที่มีผู้ติดเชื้อโควิด-19  จากระดับ 4 มาที่ระดับ 2 โดยประเทศเหล่านั้นได้แก่ ไทย ,ออสเตรเลีย, เกาหลีใต้, สิงคโปร์, ไต้หวัน, จีน, นิวซีแลนด์, บรูไน และเวียดนาม สำนักข่าวเกียวโด รายงานว่า ก่อนหน้านี้ ญี่ปุ่น ได้เตือนประชาชนเลี่ยงการเดินทางไปทุกประเทศ



6 พ.ย.สิงคโปร์ อนุญาตให้นักท่องเที่ยวจากจีน เดินทางเข้าได้ไม่ต้องกักตัว



           หน่วยงานกำกับดูแลด้านการบินพลเรือนของสิงคโปร์ ระบุในแถลงการณ์ว่า นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากจีนแผ่นดินใหญ่ จะต้องผ่านการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่สนามบินชางงี และหากผลการตรวจเป็นลบ พวกเขาจะได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้าสิงคโปร์ได้โดยไม่ต้องผ่านกระบวนการกักตัว หลังจากที่เมื่อเดือนพ.ค.ทั้งสองประเทศตกลงกันที่จะเปิดช่องทางพิเศษ อนุญาตให้ชาวจีนจาก 6 มณฑลที่เดินทางเพื่อวัตถุประสงค์ทางธุรกิจได้รับการยกเว้นสามารถเดินทางเข้าสิงคโปร์ได้



          นอกจากนี้ เมื่อช่วงกลางเดือน ต.ค. สิงคโปร์ ตกลงกับฮ่องกง ให้ประชาชนที่เดินทางภายใต้ข้อตกลงดังกล่าวไม่ต้องถูกกักตัว เพียงแต่จำเป็นต้องตรวจหาเชื้อโควิด-19 ก่อนที่จะขึ้นเครื่องบิน นอกจากนี้ ยังไม่มีการจำกัดเกี่ยวกับวัตถุประสงค์ของการเดินทางระหว่างกันด้วย



          สิงคโปร์ และ ญี่ปุ่น ทำข้อตกลงกันเพื่อผ่อนคลายมาตรการคุมเข้มด้านการเดินทาง ซึ่งรัฐบาลของทั้งสองประเทศได้ประกาศใช้เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยผลบังคับใช้มาตั้งแต่เดือนก.ย.



วันเดียวสหรัฐฯ ติดเชื้อมากกว่า 90,000 คน มากที่สุดตั้งแต่พบผู้ติดเชื้อคนแรก



          ศูนย์ข้อมูลโรคติดเชื้อจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ของมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ ที่เมืองบัลติมอร์ ในรัฐแมริแลนด์ สหรัฐฯ รายงานสถิติเกี่ยวกับโรคโควิด-19 ในรอบ 24 ชั่วโมง จนถึงเวลา 20.30 น. ตามเวลาท้องถิ่นของวันพฤหัสบดี หรือเวลา 07.30 น. วันศุกร์ตามเวลาในประเทศไทย ยืนยันผู้ป่วยรายใหม่ในสหรัฐฯ  91,295 คน เป็นสถิติสูงสุดนับตั้งแต่สหรัฐฯพบผู้ติดเชื้อคนแรก เมื่อวันที่ 20 ม.ค.2563และเป็นครั้งแรกด้วยที่สหรัฐฯมีผู้ป่วยเพิ่มในวันเดียวมากกว่า 90,000 คน สถิติดังกล่าวเพิ่มจำนวนผู้ป่วยสะสมจากโรคโควิด-19 ในสหรัฐฯเป็นอย่างน้อย 8,940,170 คน และเสียชีวิตแล้ว 228,625 ราย เพิ่มขึ้น 1,021 ราย



          รัฐนิวยอร์ก มีผู้เสียชีวิตสะสมมากที่สุด คือ อย่างน้อย 33,444 ราย ตามด้วยรัฐเทกซัส 18,276 ราย รัฐแคลิฟอร์เนีย 17,553 ราย รัฐฟลอริดา 16,648 ราย และรัฐนิวเจอร์ซีย์ 16,332 ราย ขณะที่ อันดับรัฐซึ่งมีผู้ป่วยสะสมมากที่สุดนำโดยรัฐแคลิฟอร์เนีย 621,673 คน รองลงมาคือรัฐเทกซัส 918,520 คน รัฐฟลอริดา 794,624 คน และรัฐนิวยอร์ก 503,176 คน



พรรครีพับลิกันในรัฐวิสคอนซิน ถูกแฮกเกอร์ ขโมยเงิน 2,300,000 ดอลลาร์



          พรรครีพับลิกันวิสคอนซิน เปิดเผยว่า ถูกแฮกเกอร์ขโมยเงิน 2,300,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 72 ล้านบาท โดยขณะนี้คณะทำงานหาเสียงเลือกตั้งของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯได้ติดต่อเอฟบีไอและเจ้าหน้าที่เข้ามาสอบสวนแล้ว นายแอนดรูว์ ฮิตต์ ประธานคณะทำงาน เปิดเผยว่า แฮกเกอร์เจาะระบบเข้าไปแก้ไขใบแจ้งหนี้ของคณะทำงาน เพื่อให้มีการโอนเงินให้แก่แฮกเกอร์ แทนที่จะเป็นผู้ขาย



          ทั้งนี้ รัฐวิสคอนซิน เป็นรัฐที่มีความสำคัญในการเลือกตั้งประธานาธิบดีที่กำลังจะมาถึง โดยในการเลือกตั้งเมื่อปี 2559 ประธานาธิบดีทรัมป์ชนะไปอย่างหวุดหวิด แต่พรรครีพับลิกันระบุว่าแฮกเกอร์ไม่ได้เข้าถึงข้อมูลอื่นของพรรค โดยเจ้าหน้าที่ของรัฐมีการแจ้งเตือนเกี่ยวกับการโจมตีทางอินเทอร์เน็ตในการประชุมระดับชาติของพรรคเมื่อเดือนสิงหาคม



 



 



 



 



 

ข่าวทั้งหมด

X