ทันสถานการณ์โลก 06.30 น.วันศุกร์ที่ 30 ตุลาคม 2563

30 ตุลาคม 2563, 06:09น.


ฝรั่งเศส เตรียมประกาศมาตรการใหม่ จัดการกลุ่มก่อการร้าย 



          ฝรั่งเศส ประชุมสภากลาโหม เพื่อหามาตรการดำเนินการกับเหตุการณ์รุนแรงที่เกิดขึ้นสามครั้งในเดือนนี้ เหตุการณ์ช่วงบ่ายวานนี้ตามเวลาในประเทศไทย คนร้ายชาย 1 คน ใช้อาวุธมีดไล่ฟันแทงประชาชนไม่เลือกหน้า ในโบสถ์นอร์ทเทอ-ดาม ในเมืองนีซ ริมฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ทางตะวันออกเฉียงใต้ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย ได้รับบาดเจ็บหลายคน ทำให้ตำรวจต้องยิงคนร้ายได้รับบาดเจ็บถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล เจ้าหน้าที่เชื่อเป็นการโจมตีก่อการร้าย



          ในช่วงเวลาที่เกิดเหตุโจมตีที่เมืองนีซ ไม่กี่ชั่วโมง ตำรวจได้วิสามัญคนร้ายคนหนึ่งที่ใช้ปืน เตรียมกราดยิงผู้คนในเมืองอาวีญง ทางใต้ของฝรั่งเศส ซึ่งขณะเกิดเหตุเขาได้ร้องว่า อัลเลาะห์ อัคบาห์ หรือ พระเจ้ายิ่งใหญ่



          ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส เดินทางลงพื้นที่ที่เมืองนีซ และให้คำมั่นว่ารัฐบาลจะใช้มาตรการใหม่ในการต่อสู้กับการก่อการร้าย ในการประชุมสภากลาโหมจะมีการประกาศใช้มาตรการใหม่ รัฐบาลจะส่งกำลังทหารเข้าประจำการในสถานที่สำคัญ เช่น โรงเรียน และโบสถ์



          ด้านนายเจอราลด์ ดาร์มาแนง รัฐมนตรีมหาดไทยฝรั่งเศส ประชุมฉุกเฉินทันที ขณะที่หน่วยต่อต้านการก่อการร้ายแห่งชาติ จะสอบสวนคดีนี้อย่างเป็นทางการ



CR:BBC



ชาวอเมริกัน แห่โหวตเลือกตั้งล่วงหน้า ทะลุ 77 ล้านคน



          ชาวอเมริกัน ลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้าอย่างคึกคัก มีการใช้สิทธิแล้วมากกว่า 77.4 ล้านคน ในจำนวนดังกล่าว  50.8 ล้านคน ลงคะแนนเสียงล่วงหน้าทางไปรษณีย์ ส่วนอีก 26.5 ล้านคน เดินทางไปหย่อนบัตรเลือกตั้งที่คูหา มากกว่าสถิติการใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าเมื่อปี 2559 ที่อยู่ที่ 58 ล้านคน และมีการคาดการณ์กันว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะมีผู้ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐฯ ในจำนวน 77.4 ล้านคน 




เตรียมประท้วงทันที! หาก ‘ทรัมป์’ แทรกแซงผลการเลือกตั้ง



          กลุ่มเคลื่อนไหวหลายสิบกลุ่มที่อ้างว่าเป็นตัวแทนชาวอเมริกันหลายล้านคนจากทั้งพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครต เตรียมตัวชุมนุมตามท้องถนนในสัปดาห์หน้า หากนายโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน มีท่าทีจะแทรกแซงการนับคะแนนหรือบิดเบือนผลคะแนนหลังวันเลือกตั้ง 3 พ.ย.2563



            พันธมิตร Protect the Results ที่ประกอบด้วยกลุ่มต่าง ๆ กว่า 130 กลุ่ม เตรียมจัดงานประมาณ 400 งาน ผู้เข้าร่วมเตรียมพร้อมเคลื่อนไหวอย่างเร็วที่สุดในบ่ายวันที่ 4 พ.ย.2563 ตามเวลาสหรัฐฯ และรอการแจ้งข่าวผ่านข้อความสั้นทางโทรศัพท์เคลื่อนที่



           ด้านรองโฆษกทำเนียบขาว ตอบข้อถามเรื่องแผนการของกลุ่มเคลื่อนไหวว่านายทรัมป์จะยอมรับผลคะแนนการเลือกตั้งที่เสรีและเป็นธรรม



          รอยเตอร์ ชี้ว่า การที่นายทรัมป์ กล่าวเมื่อไม่กี่วันก่อนว่า ควรประกาศผลการเลือกตั้งได้ในวันเลือกตั้งว่าเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ เพราะต้องใช้เวลานับบัตรลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้าที่ปีนี้มากเป็นประวัติการณ์




คู่ชิงผู้นำสหรัฐฯ ลุยหาเสียงที่รัฐฟลอริดา รัฐสมรภูมิที่ต้องชนะ




           การหาเสียงในช่วงโค้งสุดท้าย นายทรัมป์ ตะลุยหาเสียงหนักวันละ 3 จุดในรัฐต่างๆ เนื่องจากคะแนนนิยมเป็นรองในโพลสำรวจทั่วประเทศ ขณะที่ นายโจ ไบเดน จากพรรคเดโมแครต ดูสบายๆ กว่า เช่น ใช้เวลา 2 วันในสัปดาห์นี้ หาเสียงอยู่ใกล้บ้านเกิดที่รัฐเดลาแวร์



          รัฐฟลอริดา เป็นสมรภูมิสำคัญในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เนื่องจากไม่มีความแน่นอนว่าเอนเอียงไปทางพรรคไหน ทำให้ นายทรัมป์ ลงพื้นที่เมืองแทมปา เน้นจัดปราศรัยหาเสียงกลางแจ้งเพื่อเรียกคนให้เข้าร่วมจำนวนมากๆ เป็นที่น่าสังเกตว่า ในการหาเสียงหลายครั้งก่อนหน้านี้ กลุ่มคนที่สนับสนุนนายทรัมป์นับพันคนเบียดเสียดฟังการปราศรัยและจำนวนมากไม่สวมหน้ากากอนามัยป้องกัน ตรงข้ามกับนายไบเดน ที่หาเสียงแบบไดรฟ์อิน ในเมืองเดียวกันในช่วงค่ำ โดยผู้เข้าฟังการปราศรัยส่วนใหญ่จะอยู่ในรถ



           โพลล่าสุดของรอยเตอร์/อิปซอส ระบุว่า ผู้ตอบแบบสอบถามในรัฐนี้ร้อยละ 49 จะเลือกนายไบเดน และ ร้อยละ 47 เล็งโหวตให้นายทรัมป์  ผู้มีสิทธิออกเสียงร้อยละ 48 ต่อร้อยละ 42 บอกว่านายไบเดน จัดการโรคโควิด-19 ได้ดีกว่านายทรัมป์   



ตัวเลขจีดีพี ไตรมาส 3 ของสหรัฐฯ ขยายตัว 33.1% ดีที่สุดในประวัติศาสตร์



          กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 สำหรับตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ประจำไตรมาส 3 ว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯขยายตัวร้อยละ 33.1 ซึ่งเป็นการขยายตัวสูงเป็นประวัติการณ์ในรอบกว่า 70 ปี  ตัวเลขดังกล่าวถือเป็นการฟื้นตัวอย่างน่าตกตะลึง หลังจากเศรษฐกิจของสหรัฐฯหดตัวอย่างหนักพอๆกัน เมื่อไตรมาสก่อนหน้านี้และดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ระดับร้อยละ 32 เนื่องจากรัฐบาลเริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ ทำให้มีการเปิดเศรษฐกิจ และเริ่มมีการจ้างงาน หลังจากที่ได้ปิดเศรษฐกิจก่อนหน้านี้เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้การลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐฯขานรับทันที



-ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 139.16 จุด หรือร้อยละ 0.52 ปิดที่ 26,659.11 จุด



-เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 39.08 จุด หรือร้อยละ 1.19 ปิดที่ 3,310.11 จุด



-แนสแดค เพิ่มขึ้น 180.73 จุด หรือร้อยละ 1.64 ปิดที่ 11,185.59 จุด



‘ทรัมป์’ ทวีตทันที ตัวเลขจีดีพีที่พุ่งขึ้นเกิดคาด หมัดเด็ดน็อก ‘ไบเดน’




           ผู้มีสิทธิลงคะแนนเสียงในสหรัฐฯ ระบุว่า เศรษฐกิจเป็นหนึ่งในประเด็นสำคัญที่สุดสำหรับการตัดสินใจของพวกเขาในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯครั้งนี้ ประกอบกับตัวเลขเศรษฐกิจไตรมาสที่ 3 ดีเกินคาด และมีการประกาศก่อนที่จะมีการเลือกตั้งผู้นำสหรัฐฯ 5 วัน ทำให้นายทรัมป์ ทวีตข้อความขานรับเศรษฐกิจสหรัฐฯที่มีการขยายตัวมากเป็นประวัติการณ์เป็นตัวเลขสูงที่สุดและดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐฯ และปีหน้าจะดีกว่านี้ พร้อมทั้งโจมตีนโยบายของนายโจ ไบเดน คู่แข่งจากพรรคเดโมแครต ว่าการขึ้นภาษีจะทำให้อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจลดลง



            มีการวิเคราะห์ว่า อาจเป็นปัจจัยที่เอื้อประโยชน์ต่อนายทรัมป์ ในการครองทำเนียบขาวอีกสมัยหนึ่ง แม้ว่าผลการสำรวจของทุกสำนักต่างระบุตรงกันว่านายทรัมป์ จะแพ้นายไบเดน 




           นอกจากนี้ จำนวนผู้ยื่นข้อสวัสดิการคนว่างงานรายใหม่รายสัปดาห์ในสหรัฐฯ ลดลงเหลือ 751,000 คน ในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 24 ต.ค.2563 ดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดหมายไว้เช่นกัน



            ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ขยายตัวสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ทำให้นักลงทุน เมินสินทรัพย์เสี่ยงต่ำทำให้ราคาทองคำปิดตลาดในวันพฤหัสบดี 29 ต.ค.2563 ลดลงพอสมควร ราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือน ธ.ค.2563 ลดลง 11.20 ดอลลาร์สหรัฐฯ ปิดที่ 1,868.00 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์



น้ำมันลดลง หลายประเทศกลับมาล็อกดาวน์ โควิด-19 ระบาดรอบ2



การระบาดของโควิด-19 รอบสอง ทำให้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นทั่วยุโรป



-ฝรั่งเศส ออกมาตรการให้ประชาชนอยู่แต่ในที่พักอาศัย ยกเว้นแต่กิจกรรมที่มีความจำเป็น เริ่มตั้งแต่วันศุกร์ 30 ต.ค.2563เป็นต้นไป



-เยอรมนี จะปิดบาร์  ร้านอาหารและโรงภาพยนตร์ ตั้งแต่วันที่ 2 พ.ย.2563 ไปจนถึงสิ้นเดือนพ.ย.2563

มาตรการล็อกดาวน์ ทำให้การเคลื่อนไหวทำกิจกรรมด้านเศรษฐกิจลดลง ทำให้ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับลดลง



-สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนธ.ค.2563 ลดลง 1.22 ดอลลาร์สหรัฐฯ ปิดที่ 36.17 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล




-เบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือน ธ.ค.2563 ลดลง 1.47 ดอลลาร์สหรัฐฯ ปิดที่ 37.65 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล

 

ข่าวทั้งหมด

X