ปลัดเกษตรฯ สั่งกรมชลฯ เก็บน้ำฝนจากพายุโมลาเบ ให้มากที่สุด ย้ำเป็นฝนระลอกสุดท้าย
นายทองเปลว กองจันทร์ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สั่งการกรมชลประทานทุกพื้นที่เก็บกักน้ำจากฝนที่ตก เพราะอิทธิพลของพายุโมลาเบ ที่อ่อนกำลังลงเป็นเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำ หลังจาก กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์ว่าเป็นพายุลูกสุดท้ายของปีที่จะเพิ่มน้ำให้จังหวัดตอนบนของประเทศ พายุโซนร้อนโมลาเบ อ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงในระยะต่อไป นายทองเปลว กล่าวว่า เป็นโอกาสดีที่จะทำให้ภาคเหนือมีฝนตกหนักถึงหนักมากในจังหวัดพะเยา น่าน แพร่ ลำพูน ลำปาง อุตรดิตถ์ พิษณุโลก สุโขทัย พิจิตร ตาก และเพชรบูรณ์ ต่อเนื่องถึงวันพรุ่งนี้ 30 ต.ค.2563 ซึ่งจะเพิ่มน้ำในอ่างเก็บน้ำและลำน้ำธรรมชาติ ส่งผลดีต่อลุ่มเจ้าพระยาที่ต้องอาศัยน้ำจาก 4 เขื่อนหลักทางภาคเหนือและภาคกลางตอนบน
นอกจากนี้ ยังต้องเร่งระบายน้ำ จากน้ำมูลลงสู่แม่น้ำโขง เพื่อรอรับน้ำจาก จ.นครราชสีมา ไหลมาถึง จ.อุบลราชธานี ในอีก 20 วัน เมื่อทำแบบจำลองการไหลและระบายน้ำระดับน้ำที่ไหลผ่าน จ.อุบลราชธานี ยังต่ำกว่าตลิ่ง มั่นใจว่าจะไม่ท่วม อ.วารินชำราบ แบบที่หลายฝ่ายกังวล
ภาคกลางของเวียดนาม เสียหายหนักจากพายุโมลาเบ เสียชีวิตและสูญหายจำนวนมาก
อิทธิพลของพายุโมลาเบ ที่พัดถล่มพื้นที่ทางตอนกลางของเวียดนาม สร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง ทำให้มีผู้เสียชีวิตอยู่ระหว่างการตรวจสอบตัวเลข และมีรายงานผู้สูญหายอีกประมาณ 50 คน นับรวมกลุ่มลูกเรือประมงที่นำเรือออกในช่วงที่ฝนตกหนัก คลื่นลมแรง หนึ่งในพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายมากที่สุด คือจังหวัดกว๋างนาม ซึ่งมีเมืองสำคัญคือเมืองฮอยอัน นอกจากอิทธิพลของพายุทำให้เกิดฝนตกหนักแล้ว ยังเกิดดินถล่มอย่างน้อย 2 จุด ของหวัดหวัดกว๋างนาม
ด้านกองทัพเวียดนาม ระดมกำลังทหารหลายร้อยนายลงพื้นที่เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย และเร่งค้นหาผู้สูญหาย
ปีนี้เป็นปีที่เวียดนามต้องเผชิญกับอุทกภัยอย่างหนักหน่วงที่สุดครั้งหนึ่ง โดยไต้ฝุ่นโมลาเบเป็นพายุลูกที่ 5 ซึ่งขึ้นฝั่งทางตอนกลางของประเทศ นอกจากนี้ ยังมีหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงอีกหลายระลอก ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตรวมกันมากกว่า 100 ราย ประชาชนหลายล้านคนต้องไร้ที่อยู่อาศัย และมีการประเมินมูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจมากกว่า 1,000 ล้านดอง หรือ ราว 1,348.13 ล้านบาท
เมืองนิวออร์ลีนส์ ของรัฐลุยเซียนา เตรียมพร้อมรับมือเฮอริเคนเซตา
พายุเฮอริเคนเซตา ซึ่งมีความรุนแรงระดับ 2 เคลื่อนตัวพัดถล่มพื้นที่ทางตอนใต้ของสหรัฐฯ ทำให้เกิดลมแรงและคลื่นพายุซัดฝั่งหรือสตอร์มเซิร์จ ขณะที่ประชาชนในเมืองนิวออร์ลีนส์ของรัฐลุยเซียนา เตรียมความพร้อมรับมือน้ำท่วมฉับพลันที่อาจเกิดขึ้นได้ นายกเทศมนตรีเมืองนิวออร์ลีนส์ขอความร่วมมือประชาชนเก็บตัวอยู่ในบ้าน เนื่องจาก สถานการณ์ขณะนี้ยังไม่ปลอดภัย แต่ทางการท้องถิ่นจะพยายามดูแลและช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่
โนลาเรดดี้ (NOLA Ready) โปรแกรมเตรียมพร้อมรับภัยพิบัติได้ประกาศเตือนผ่านทวิตเตอร์ว่า เสาไฟฟ้าและต้นไม้ในเมืองนิวออร์ลีนส์ หักโค่นในพื้นที่หลายแห่ง ขณะที่บริการการแพทย์ฉุกเฉินของเมืองนิวออร์ลีนส์ ระบุว่า มีผู้เสียชีวิตจากกระแสไฟฟ้ารั่ว 1 ราย จากเหตุเสาไฟฟ้าหักโค่นจมน้ำ
ด้านนายจอห์น เบล เอ็ดเวิร์ด ผู้ว่าการรัฐลุยเซียนา กล่าวว่า ขณะนี้มีประชาชนกว่า 500,000 คนที่ใช้ชีวิตท่ามกลางกระแสไฟฟ้าดับ
ทางการรัฐลุยเซียนา ประกาศเตือนให้ประชาชนอพยพออกจากพื้นที่ประสบภัย หรือกักตุนอาหาร น้ำดื่ม และยารักษาโรคเป็นเวลาอย่างน้อย 3 วัน รวมถึงมีการใช้คำสั่งห้ามออกนอกบ้านในยามวิกาลหรือเคอร์ฟิวในพื้นที่แนวชายฝั่งที่ได้รับผลกระทบจากพายุอย่างรุนแรง ทั้งนี้ เฮอริเคนเซตาพัดถล่มรัฐลุยเซียนาก่อนถึงวันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯเพียง 6 วัน
ทีมหาเสียง เร่งตรวจสอบ เว็บไซต์หาเสียงของ ‘ทรัมป์’ถูกแฮกเกอร์โจมตี
เว็บไซต์ทางการของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯถูกแฮกเกอร์โจมตี และแสดงภาพหน้าจอที่มีตราสัญลักษณ์ของกระทรวงยุติธรรม พร้อมข้อความที่ว่าเว็บไซต์นี้มีการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จจำนวนมาก ทั้งกล่าวหาว่ารัฐบาลสหรัฐฯมีส่วนเกี่ยวข้องกับต้นกำเนิดของโควิด-19 และการสมคบคิดกับต่างชาติในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ 3 พ.ย.2563
นอกจากนี้ แฮกเกอร์ ยังอ้างว่า สามารถเข้าถึงข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับประธานาธิบดีทรัมป์รวมถึงครอบครัว และเรียกค่าไถ่เป็นเงินดิจิทัลคริปโตเรนซี อย่างไรก็ตาม ทีมหาเสียงเลือกตั้งของประธานาธิบดีเปิดเผยว่าขณะนี้ได้กู้คืนเว็บไซต์แล้ว และมีกำลังตรวจสอบการละเมิดความปลอดภัย แต่ข้อมูลต่างๆ ในเว็บไซต์นี้ไม่มีการจัดเก็บข้อมูลละเอียดอ่อนใดๆ
ประกาศเคอร์ฟิว เมืองฟิลาเดลเฟีย รัฐเพนซิลเวเนีย จลาจลประท้วงตำรวจยิงชายผิวสี
ทางการเมืองฟิลาเดลเฟีย รัฐเพนซิลเวเนีย ออกประกาศเคอร์ฟิวในคืนวันพุธ (28 ต.ค.) ห้ามออกจากที่พักหลังจากเวลา 21.00 น. หลังจากที่การชุมนุมประท้วงจากเหตุตำรวจยิงนายวอลเตอร์ วอลเลซ จูเนียร์ อายุ 27 ปี ชายผิวสีเสียชีวิต เมื่อบ่ายวันจันทร์ (26 ต.ค.) นำไปสู่การก่อเหตุวุ่นวายและการปล้นธุรกิจร้านค้า 2 คืนต่อเนื่องกัน
ครอบครัววอลเลซ ระบุว่า ผู้เสียชีวิตมีอาการป่วยทางจิต ขณะที่ตำรวจ ระบุว่าเขาไม่ยอมวางอาวุธมีดทั้งพยายามทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ ทำให้ต้องยิงนายวอลเลซและเขาเสียชีวิตในระหว่างนำส่งโรงพยาบาล แต่เหตุการณ์นี้ทำให้เกิดความไม่พอใจเพราะเป็นอีกครั้งที่มีชายผิวสีเสียชีวิตจากการที่เจ้าหน้าที่ใช้ความรุนแรงเกินกว่าเหตุ
เหตุรุนแรงเมื่อวันจันทร์ทำให้มีตำรวจบาดเจ็บ 30 คน กองกำลังรักษาความปลอดภัยแห่งชาติจากส่วนกลางต้องเข้าสนับสนุนการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อรักษาความสงบในเมือง ส่วนการเดินขบวนที่เริ่มขึ้นอย่างสงบในบ่ายวันอังคารกลายเป็นการเผชิญหน้ากัน ในช่วงค่ำเมื่อเจ้าหน้าที่ผลักดันผู้ประท้วงออกจากถนน
เมื่อวันจันทร์ มีผู้ถูกจับกุม 91 คนและในวันอังคารมีผู้ถูกจับกุมอีก 81 คนโดย 53 คนถูกตั้งข้อหาลักทรัพย์ และมีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บอีก 23 คน