เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ไทม์ ออฟ อิสราเอล รายงานว่า เครื่องบินของนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอลลงจอดที่ฐานทัพอากาศแอนดรูว์ ใกล้กรุงวอชิงตัน ดี.ซี.ในวันนี้ ก่อนที่เขาและรัฐมนตรีต่างประเทศจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์(ยูเออี)และบาห์เรนจะร่วมพิธีลงนามสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างเป็นทางการที่ทำเนียบขาวในวันพรุ่งนี้ นับเป็นชาติอาหรับที่ 3 และชาติที่ 4 ที่ลงนามในข้อตกลงเช่นนี้กับอิสราเอล ขณะที่นายอับดุลลาติฟ บินราชิด อัลซายานี รัฐมนตรีต่างประเทศบาห์เรนเดินทางถึงสหรัฐฯเมื่อค่ำวานนี้
สำหรับเนื้อหาในข้อตกลงยังไม่มีการเผยแพร่ให้สาธารณชนทราบ แต่ทั้งยูเออีและบาห์เรนตกลงจะสร้างความสัมพันธ์กับอิสราเอลในทุกๆด้าน โดยมีสหรัฐฯทำหน้าที่ผู้ไกล่เกลี่ย นับเป็นความสำเร็จทางการทูตที่หลายประเทศในกลุ่มอาหรับเริ่มปรับเปลี่ยนทัศนคติเชิงบวกต่ออิสราเอลมากขึ้น
ก่อนออกเดินทางมาสหรัฐฯ นายเนทันยาฮู ให้สัมภาษณ์สื่อท้องถิ่น กล่าวถึงการเดินทางเยือนสหรัฐฯในครั้งนี้ว่าจะเป็นความสำเร็จครั้งประวัติศาสตร์ ระบุว่าเขาทำข้อตกลงสันติภาพ 2 ฉบับในหนึ่งเดือน ซึ่งจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจของอิสราเอล โดยเฉพาะในช่วงที่โรคโควิด-19 แพร่ระบาดทั่วโลกดังเช่นในปัจจุบัน
ก่อนหน้านี้ 2 ชาติอาหรับคือ อียิปต์และจอร์แดนทำข้อตกลงสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับอิสราเอลในปี 2522 และในปี 2537 ตามลำดับ
Cr: Time of Israel, haaretz