ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 07.30 น.วันจันทร์ที่ 14 กันยายน 2563

14 กันยายน 2563, 07:54น.


กักตัว 42 นักเตะกลุ่มเสี่ยงทีมบุรีรัมย์ สัมผัสเพื่อนร่วมทีมที่ติดเชื้อโควิด-19




           การตรวจสอบบุคคลที่ใกล้ชิดนักฟุตบอลชาวอุซเบกิสถาน อายุ 29 ปี ตรวจพบโควิด-19 ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. รายงานว่า



1.กองระบาดวิทยา เก็บตัวอย่างในผู้ป่วยและผู้สัมผัสใกล้ชิด 44 คน ประกอบด้วย



-นักฟุตบอล 23 คน



-ทีมงาน 21 คน ให้ผลเป็นลบ 41 คน อีก 2 คน ผลสรุปไม่ชัดเจน อยู่ระหว่างส่งตรวจซ้ำ



2.สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) บุรีรัมย์ กล่าวว่า สำหรับตัวนักเตะที่เดินทางไป จ.สมุทรปราการ เพื่อเตรียมแข่งขันไทยลีก ที่ยกเลิกไปแล้วนั้น เมื่อวันที่ 12 ก.ย. สโมสร จัดรถบัสปรับอากาศไปรับกลับมาที่จ.บุรีรัมย์ โดยไม่ได้แวะที่ไหนและระหว่างเดินทางให้นักเตะทุกคนสวมหน้ากากอนามัยป้องกันตนเอง ซึ่งนักเตะทั้ง 42 คน ถือเป็นกลุ่มเสี่ยงสูง ถูกกักตัวไว้ที่State Quarantine ของ จ.บุรีรัมย์ โดยจะตรวจหาเชื้อตามมาตรฐาน หากคนไหนมีอาการผิดปกติจะส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลต่อไป



         สำหรับผู้ประกอบการ ร้านค้า ห้างสรรพสินค้า บ้านพักนักกีฬา กำชับให้ทำความสะอาดพื้นผิวตามมาตรการป้องกันควบคุมโรคที่ราชการกำหนดอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะจุดเสี่ยง เช่น ประตูห้องน้ำ โต๊ะอาหาร จากการประเมินยังไม่จำเป็นต้องสั่งปิดสถานประกอบการดังกล่าว ยืนยัน จ.บุรีรัมย์ มีมาตรการป้องกันควบคุมโรคเข้มข้น ขอให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวมั่นใจได้




ผลตรวจนักเตะขอนแก่น เอฟซี- ราชบุรี มิตรผล เป็นลบ



         สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ขอนแก่น สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 7 เก็บตัวอย่างนักฟุตบอล 51 คน เป็นนักฟุตบอลขอนแก่น เอฟซี  33 คน สตาฟฟ์ 14 คน นักศึกษาฝึกงาน 4 คน เนื่องจากได้ลงเตะนัดอุ่นเครื่องกับสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด




-ผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 15 คน



-ผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ 36 คน อยู่ระหว่างรอผล



3.สสจ.ราชบุรี สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 5 โรงพยาบาลราชบุรี และศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 5 สมุทรสงคราม เก็บตัวอย่างผู้สัมผัสของทีมราชบุรี มิตรผล เอฟซี 43 คน เนื่องจากได้ลงเตะนัดอุ่นเครื่องกับสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด



-ผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 11 คน



-ผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ 32 คน เป็นนักฟุตบอล 15 คน สตาฟฟ์ 15 คน คนขับรถ 2 คน ซึ่งไม่ได้สัมผัสผู้ป่วยยืนยันเลย อยู่ระหว่างรอผล



CR:facebook Ratchaburi Mitr Phol FC



สศช.เห็นชอบแผนแม่บท รับผลกระทบโควิด-19 สร้างอาชีพ-กระจายรายได้   



          ผลการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ(สศช.) นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เห็นชอบการจัดทำแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติในรูปแบบเฉพาะกิจเพื่อรองรับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ในช่วงระหว่างปี 2564-2565 กำหนดเป้าหมายหลักเพื่อให้คนมีงานทำสามารถยังชีพอยู่ได้ ดูแลกลุ่มเปราะบางอย่างทั่วถึง สร้างอาชีพและกระจายรายได้สู่ท้องถิ่นทำให้เศรษฐกิจประเทศฟื้นตัวเข้าสู่ภาวะปกติ และมีการวางรากฐานเพื่อรองรับการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจใหม่



          ร่างแผนแม่บทเฉพาะกิจฯ 3 มิติของการพัฒนา คือ การพร้อมรับ การปรับตัว และการเปลี่ยนแปลงเพื่อพร้อมเติบโตอย่างยั่งยืน แบ่งเป็น 4 ประเด็นหลักการพัฒนา ได้แก่ การเพิ่มความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานรากภายในประเทศ การยกระดับความสามารถของประเทศเพื่อรองรับการเจริญเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว การพัฒนาศักยภาพและคุณภาพชีวิตของคน ให้เป็นกำลังหลักในการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศ และการปรับปรุงและพัฒนาปัจจัยพื้นฐานเพื่อส่งเสริมการฟื้นฟูและพัฒนาประเทศ



          นายอนุชา กล่าวว่า คณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ สศช.มอบหมายให้สำนักงานฯ รับฟังความคิดเห็นเพื่อประกอบการจัดทำร่างแผนแม่บทเฉพาะกิจฯ ให้มีความครบถ้วนสมบูรณ์และนำเสนอต่อคณะกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ และคณะรัฐมนตรี(ครม.)พิจารณาตามขั้นตอนต่อไป นอกจากนี้ คณะกรรมการสศช. เห็นชอบโครงการเพื่อบรรลุเป้าหมายยุทธศาสตร์ชาติและแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ทั้งหมด 571 โครงการสามารถจำแนกเป็นโครงการสำคัญประจำปีงบประมาณ 2565 ตามร่างแผนแม่บทเฉพาะกิจฯ ซึ่งเป็นโครงการที่ต้องให้ความสำคัญเป็นพิเศษ รวม 250 โครงการ และโครงการสำคัญรองรับการพัฒนาประเทศ ที่สอดคล้องกับแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ รวม 321 โครงการ



          นอกจากนี้ มอบหมายสำนักงบประมาณพิจารณาจัดสรรงบประมาณรองรับโครงการสำคัญประจำปีงบประมาณ 2565 จำนวน 571 โครงการ ในลักษณะงบประมาณพิเศษ หรืองบประมาณแบบบูรณาการเพื่อการบรรลุเป้าหมายยุทธศาสตร์ชาติและแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ และมอบหมายสำนักงบประมาณใช้ร่างแผนแม่บทเฉพาะกิจภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติอันเป็นผลมาจากสถานการณ์โควิด-19 พ.ศ. 2564-2565เพื่อประกอบการพิจารณาการจัดสรรงบประมาณต่อไป




“วิชา”ส่งข้อมูลให้สภาทนายความพิจารณา ทนายคดี บอส ผิดจรรยาบรรณวิชาชีพหรือไม่



         นายวิชา มหาคุณ ประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย กรณีคำสั่งไม่ฟ้องคดีอาญาที่อยู่ในความสนใจของประชาชน กล่าวถึง กรณีสภาทนายความ ได้ส่งหนังสือถึงคณะกรรมการฯ ขอให้ส่งรายละเอียดของทนายความที่ไปเกี่ยวข้องในคดีนายวรยุทธ หรือบอส อยู่วิทยา มาพิจารณาว่าสิ่งที่ทนายความได้กระทำไปนั้น เป็นไปตามกรอบจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพและกฎหมายหรือไม่ว่า เรื่องนี้คณะกรรมการฯ ได้มีการประสานส่งข้อมูลผ่านนายกสภาทนายความตลอดเวลา เนื่องจาก นายถวัลย์ รุยาพร นายกสภาทนายความ เป็นหนึ่งในคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย ตามคำสั่งของนายกฯ ซึ่งจะมีรายละเอียดและข้อมูลที่เกี่ยวข้องในสำนวนการสอบสวนอย่างละเอียดอยู่แล้ว



ผู้ถูกกล่าวหา คดี #ตามหาลูกประยุทธ์ เตรียมพบตำรวจหลังถูกแจ้งจับ



         วันนี้ เวลา 10.45 น. ผู้ถูกกล่าวหาในคดีที่น.ส.ธัญญา และน.ส.นิฏฐา จันทร์โอชา บุตรสาว พล.อ.ประยุทธ์ มอบอำนาจให้ นายอภิวัฒน์ ขันทอง กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะทนายความประจำสำนักกฎหมาย อ.อัมพร ณ ตะกั่วทุ่งและเพื่อน เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับบุคคลและกลุ่มบุคคล นิติบุคคล และสื่อต่างๆ ที่เผยแพร่ข้อมูลทางโซเชียลมีเดียทำให้เกิดความเสียหายต่อชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นและถูกเกลียดชัง จะเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน สน.นางเลิ้ง โดยมี นายอภิวัฒน์ ทนายที่ได้รับมอบหมายให้แจ้งความดำเนินคดีไปรับฟังด้วย ทั้งนี้ น.ส.ธัญญา และน.ส.นิฏฐา ได้มอบหมายทนายความแจ้งความดำเนินคดีเมื่อวันที่ 2 ก.ย. โดยนำหลักฐานยื่นประกอบการแจ้งความเป็นบัญชีผู้ใช้โซเชียลมีเดีย กว่าร้อยบัญชี ที่มีการเผยแพร่ในช่วงที่มีการใช้แฮชแท็ก #"ตามหาลูกประยุทธ์" ตั้งแต่วันที่ 23 ส.ค. ซึ่งนำข้อมูลไปแชร์ในทวิตเตอร์ และโพสต์เฟซบุ๊ก 




 



 




 

ข่าวทั้งหมด

X