ความคึกคักชุมชนเมืองเก่าภูเก็ตในวันนี้ เป็นอีกจุดหนึ่งในจังหวัดภูเก็ตที่ผ่านการแก้ไขจุดเสี่ยงเพื่อเปลี่ยนภูมิทัศน์ให้เป็นถนนคนเดินในเมืองท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยสีสัน ความมีชีวิตชีวา ทั้งด้านวัฒนธรรม อาหาร การแต่งกาย ตลอดจนสถาปัตยกรรมของอาคารบ้านเรือนรูปแบบชิโน-โปรตุกีส ผสมผสานระหว่างตะวันออกและตะวันตกในแหลมมลายู ในยุคสมัยแห่งจักรวรรดินิยมของตะวันตก
น.ส.สมใจ สุวรรณศุภพนา นายกเทศมนตรีเทศบาลนครภูเก็ต กล่าวว่า ชุมชนแห่งนี้ซึ่งเป็นเขตเทศบาลนครภูเก็ต เริ่มปรับตั้งแต่ การนำสายไฟฟ้าลงสู่พื้นดิน และในระยะทาง 1.7 กิโลเมตรนี้พื้นถนนจะแคบกว่าเดิมเฉลี่ยอยู่ที่ 6-10 เมตร จากการทำพื้นที่ฟุตบาท 1.5 เมตร ตามแบบอารยสถาปัตย์ รวม 2 ฝั่งเป็น 3 เมตร เพราะการท่องเที่ยวในเมืองเก่าต้องเดิน พร้อมทั้งเพิ่มการซึมซับเสน่ห์และวัฒนธรรม และกระตุ้นการจับจ่ายของนักท่องเที่ยว
ขณะที่ในด้านความปลอดภัยจะให้ความสำคัญกับหลักวิศวกรรมจราจร แก้ไขจุดเสี่ยงควบคู่กันไปกับการติดตั้งป้ายแจ้งเตือน และการตรวจจับผู้ฝ่าฝืน
และเมื่อพื้นถนนแคบลง ผู้ขับขี่ต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมลดใช้ความเร็ว ทั้งยังมีการห้ามรถบรรทุกขนาดใหญ่เข้ามาวิ่งในตัวเมืองเก่า ทำให้สถิติผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุลดลงอย่างต่อเนื่อง จาก 16 รายในปี 2561 ลดลงเป็น 8 รายในปี 2562 และ 3 รายในช่วงที่ผ่านมาของปี 2563
ด้านนายดอน ลิ้มนันทพิสิฐ ประธานชุมชนย่านเมืองเก่าภูเก็ต เปิดเผยว่า เจตนาของการทำถนนคนเดินก็เพื่อให้คนในชุมชนมีกิจกรรมที่สร้างรายได้ในชุมชนจริงๆ และเป็นที่มาของเที่ยวบินรอบดึกวันอาทิตย์-รอบเช้าสุดวันจันทร์ เพราะถนนคนเดินได้รับมติเป็นเอกฉันท์ให้จัดเพียงวันอาทิตย์แค่ 1 วัน เริ่มเวลา 17.00-22.00 น. แต่ถนนเส้นนี้จะเริ่มทยอยเปิดตั้งแต่เวลา 14.00 น.
และที่นี่ก็เป็นจุดแรกของประเทศเช่นกันที่ถูกล็อกดาวน์จากโควิด-19
วันนี้ชุมชนเมืองเก่าเริ่มฟื้นขึ้น มีนักท่องเที่ยวตั้งแต่หลักพันถึงหมื่น ส่วนตัวจึงเห็นด้วยกับ “ภูเก็ตโมเดล” และเสนอรัฐบาลให้ทำอินโฟกราฟิกเพื่อประชาสัมพันธ์ข้อดีและข้อเสีย ซึ่งจะช่วยสร้างความเข้าใจได้ดีขึ้น
ส่วนผู้ประกอบการร้านค้าบนถนนคนเดินย่านเมืองเก่าแห่งอื่น ๆ เช่นร้านผ้ามัดย้อม ที่ไม่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 มากนักเพราะยังสามารถค้าขายผ่านออนไลน์ได้ ก็ยังสนับสนุน "ภูเก็ตโมเดล” เพราะภูเก็ตมีรายได้หลักมาจากชาวต่างชาติ และเชื่อมั่นว่าการเปิดเมืองจะมีความปลอดภัย
....