นายโทนี่ แบลร์ และเซอร์จอห์น เมเจอร์ 2 อดีตนายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักรเรียกร้องให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรปฏิเสธความพยายาม "ที่น่าอับอาย" ของนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ผู้นำคนปัจจุบัน ในการนำเสนอร่างกฎหมายซึ่งเป็นข้อตกลงที่จะออกจากการเป็นสมาชิกของสหภาพยุโรปหรือที่เรียกว่าเบร็กซิทเข้าสู่ที่ประชุมเพื่อขอมติเห็นชอบในวันจันทร์นี้ (14 ก.ย.) แต่ข้อตกลงของนายกรัฐมนตรีจอห์นสันฉบับนี้มีการแก้ไขข้อตกลงบางส่วนเกี่ยวกับพรมแดนศุลกากรที่มีการลงนามโดยสหราชอาณาจักรและสหภาพยุโรปไปแล้วเมื่อต้นปีนี้ ซึ่งทำให้อดีตนายกรัฐมนตรีทั้ง 2 คนระบุว่าเป็นการกระทำที่ไร้ความรับผิดชอบ ผิดหลักการและเป็นอันตรายในทางปฏิบัติ ก่อให้เกิดคำถามทั้งเกิดผลกระทบต่อไอร์แลนด์ กระบวนการสันติภาพและการเจรจาข้อตกลงการค้า โดยย้ำว่าการเคารพต่อพันธกรณีในสนธิสัญญามีความสำคัญพอ ๆ กับกฎหมายในประเทศ จึงเรียกร้องให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรปฏิเสธการออกกฎหมาย
สำหรับส่วนของข้อตกลงที่มีการแก้ไขจะเกี่ยวข้องกับพิธีสารไอร์แลนด์เหนือ ซึ่งจะให้อำนาจรัฐมนตรีของสหราชอาณาจักรในการแก้ไขกฎระเบียบที่ไม่เป็นธรรมเกี่ยวกับการขนส่งสินค้าระหว่างสหราชอาณาจักรกับสาธารณรัฐไอร์แลนด์ โดยการตั้งจุดตรวจศุลกากรระหว่างไอร์แลนด์เหนือ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสหราชอาณาจักรกับสาธารณรัฐไอร์แลนด์ซึ่งเป็นประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป โดยด่านศุลกากรจะตั้งอยู่ระหว่างเกาะบริเตนใหญ่และเกาะไอร์แลนด์
เนื่องจากไอร์แลนด์เหนือเป็นพื้นที่เชื่อมต่อกับสาธารณรัฐไอร์แลนด์ จึงจะมีการตรวจตราสินค้าจากเกาะบริเตนใหญ่ก่อนเข้าไอร์แลนด์เหนือ หากพิจารณาแล้วเห็นว่าสินค้านั้นมีความเสี่ยงที่จะขนส่งต่อไปสาธารณรัฐไอร์แลนด์ก็จะมีการเรียกเก็บภาษี
และไอร์แลนด์เหนือจะใช้กฎควบคุมสินค้าแบบตลาดเดียวของสหภาพยุโรปต่อไป และจะทำให้ไอร์แลนด์เหนือมีอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มที่แตกต่างจากแคว้นอื่นในสหราชอาณาจักร
....