ศบค.ชี้แจงใช้ 3 แนวทางติดตามสกัดโควิด-19 ใช้วิธี แยกกักในคนป่วย
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมรับการเดินทางมาจากต่างประเทศ ตอนนี้มีหลากหลายกลุ่ม ต้องมาทำความเข้าใจ โดยหลักการคนเดินทางมาจากต่างประเทศ ให้สงสัยว่าอาจจะเป็นพาหะนำเชื้อมาประเทศไทย การจัดการในทางกฎหมายโดย พ.ร.บ.โรคติดต่อ บัญญัติวิธีการไว้ 3 อย่าง คือ
1. แยกกัก คือ ลงเครื่องมาป่วยเอาเข้า รพ.ทันที เรียกว่า Isolation
2. กักกัน (Quarantine) มี 4 ประเภท คือ
-1) กักกันที่บ้าน (Home Quarantine)
- 2) สถานกักกันที่รัฐจัดให้ (State Quarantine : SQ) หรือตามต่างจังหวัด (Local Quarantine :LQ ) และที่จ่ายเงินเอง (Alternative State Quarantine ASQ) และในระดับจังหวัด (Alternative Local Quarantine : ALQ)
- 3) องค์กรนั้นจัดขึ้นมาและให้พักในพื้นที่ตนเองจัดไว้ (Organization Quarantine : OQ) ซึ่งข้อกำหนดฉบับที่ 12 แบ่งคนออกมา 11 ประเภท มีกลุ่มหนึ่งที่มาเป็นโรงเรียน ครู นักเรียนต่างชาติ ผู้บริหารต่างๆ มาครั้งหนึ่งอาจหลายสิบหรือร้อยคน แต่มีหอพัก หรือ รพ.ประจำสถานศึกษาอยู่แล้ว เราก็อนุญาตให้พักในสถานที่ที่องค์กรจัดได้ แต่จะต้องผ่านมาตรฐานที่กรมควบคุมโรค กรมอนามัย และฝ่ายมั่นคงเข้าไปกำกับตรวจสอบ และยืนยันว่า จะไม่มีการออกไปข้างนอกให้เกิดการแพร่เชื้อ
- 4) Hospital Quarantine สำหรับคนที่เดินทางมารักษาหรือดูแลสุขภาพ โดยใช้ รพ.เป็นสถานที่กักกัน
3. คุมไว้สังเกตอาการ (Close Observation) คือ ไม่ต้องนอนใน รพ. ประเภทนักธุรกิจมาระยะสั้นๆ มาเซ็นสัญญานอน 2-3 วันกลับบ้าน ก็ไม่อยากมาอยู่ 14 วัน แต่ต้องมีระบบตรวจสอบตั้งแต่ก่อนมา ระหว่างมา และก่อนจะกลับ ว่าไม่มีเชื้อ ตรวจกันละเอียด และต้องมีแผนว่าจะไปไหนให้เราเห็น โดยรถยนต์ส่วนตัว จะไปดูไปตรงไหนต้องบอกเราทั้งหมด และต้องจ่ายเอง นอนโรงแรมไหน โรงแรมนั้นก็ต้องเป็น Alternative State Quarantine มีแพทย์ พยาบาลประกบ และจะไปที่ไหนจะไปเดี่ยวๆ ไม่ได้ ต้องมีบุคลากรทางการแพทย์ติดตามไปด้วย คือ เป็นการคุมไว้สังเกต อยู่ในสายตาของเราตลอด และต้องไม่เป็นความเสี่ยงกับเรา
3 ก.ค.สุวรรณภูมิ จับมือ สธ.เปิดตัว "แลป" ตรวจโควิด-19 ทราบผล 1 ชม.ที่คองคอร์ด G
นาวาอากาศโท สุธีรวัฒน์ สุวรรณวัฒน์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เปิดเผยว่า สำหรับการเดินทางของผู้โดยสารในประเทศที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิขณะนี้กระเตื้องขึ้นบ้างเล็กน้อย กลางเดือนที่ผ่านมาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มีผู้โดยสารเดินทางเฉลี่ยวันละ 4,000 คน จำนวน 58 เที่ยวบินต่อวัน ล่าสุด เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มีผู้โดยสารที่เดินทางสำหรับเที่ยวบินในประเทศ 8,045 คน มีเที่ยวบินรวม 177เที่ยวบิน
ส่วนการผ่อนคลายมาตรการการเดินทางเที่ยวบินระหว่างประเทศ หลังจากสํานักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย หรือ กพท.มีประกาศผ่อนคลายออกมามีผลเมื่อวันที่ 1 ก.ค. โดยเปิดช่องให้คนที่ไม่ได้ถือสัญชาติไทย แต่มีความประสงค์จะเดินทางให้ทำเรื่องขออนุญาตจากกระทรวงการต่างประเทศ การผ่อนคลายดังกล่าวไม่น่าจะทำให้มีผู้โดยสารเพิ่มขึ้นมากนัก
วันที่ 3 ก.ค.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จะร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานด้านความมั่นคงเปิดตัวห้องแลปคัดกรองโรคในพื้นที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริเวณอาคารเทียบเครื่องบิน(คองคอร์ด G) ซึ่งแลปดังกล่าวจะสามารถตรวจคัดกรองโควิด-19 ทราบผลการตรวจโรคภายใน 1 ชั่วโมง รองรับปริมาณการเดินทางที่เพิ่มขึ้น
ส่วน ร.ท.สัมพันธ์ ขุทรานนท์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานดอนเมือง ระบุว่า ภาพรวมการให้บริการของท่าอากาศยานดอนเมืองขณะนี้ สำหรับผู้โดยสารภายในประเทศมีผู้โดยสารใช้บริการประมาณวันละ 24,000 คน โดยมีเที่ยวบินให้บริการ 220 เที่ยวบินต่อวัน และเชื่อว่า ในช่วงวันหยุดยาวระหว่าง 4-7 กรกฎาคมนี้จะมีผู้ใช้บริการท่าอากาศยานดอนเมืองเฉลี่ยวันละ 30,000 คน
ส่วนประเด็นเรื่องการจัดทำแลป เพื่อทำการตรวจสอบคัดกรองหาเชื้อไวรัสโควิค-19 โดยทราบผลเร็วภายใน 1 ชั่วโมง ในพื้นที่ของท่าอากาศยานดอนเมือง ปัจจุบันมีแลปของกระทรวงสาธารณสุขตั้งอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงในย่านหลักสี่ โดยสามารถทำสวอปผู้โดยสารจากต่างประเทศจากท่าอากาศยานดอนเมืองไปยังแลปทำการตรวจและรู้ผลภายในเวลาไม่เกิน 2 ชั่วโมง เช่นเดียวกัน
ทองคำ ร่วงแรงกว่า 20 ดอลลาร์ ห่วงภาวะเศรษฐกิจ
การลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดตลาดเมื่อคืนนี้ หุ้นไฟเซอร์ อิงค์ เพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ 3 หลังผู้ผลิตยาแห่งนี้ระบุว่าวัคซีนโควิด-19 ที่กำลังพัฒนาร่วมกับ BioNTech บริษัทเทคโนโลยีชีวภาพจากเยอรมนี แสดงสัญญาณในทางบวกและพบว่าตอบสนองเป็นอย่างดีในการทดลองกับมนุษย์ในขั้นต้น ทำให้ ดาวโจนส์ ลดลง 77.91 จุด หรือร้อยละ 0.30 ปิดที่ 25,734.97 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 15.57 จุด หรือร้อยละ 0.50 ปิดที่ 3,115.86 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 95.86 จุด หรือร้อยละ 0.95 ปิดที่ 10,154.63 จุด
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนสิงหาคม เพิ่มขึ้น 55 เซ็นต์ ปิดที่ 39.82 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนกันยายน เพิ่มขึ้น 76 เซ็นต์ ปิดที่ 42.03 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ราคาทองคำ ดิ่งลงแรงกว่า 20 ดอลลาร์สหรัฐฯ ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจจากพิษโควิด-19 ราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ งวดส่งมอบเดือนสิงหาคม ลดลง 20.60 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,779.90 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์
ศาลอเมริกัน ปฎิเสธสั่งห้ามขายหนังสือหลาน
ผู้พิพากษาในนิวยอร์ก สหรัฐฯ ปฏิเสธที่จะออกคำสั่งห้ามการวางจำหน่ายหนังสือของ
เมื่อต้นสัปดาห์ นายโรเบิร์ต ทรัมป์ พี่ชายของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ยื่นคำร้องต่อศาลท้องถิ่นในเขตควีนส์ รัฐนิวยอร์ก เพื่อขอให้ศาลมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวระงับการเผยแพร่หนังสือ "Too Much and Never Enough" (มากเกินไปและไม่เคยพอ) ที่มีหัวข้อย่อยว่า "How My Family Created the World's Most Dangerous Man." (ครอบครัวของฉันสร้างคนอันตรายที่สุดในโลกได้อย่างไร) เนื่องจาก เห็นว่า แมรี ละเมิดข้อตกลงไม่เปิดเผยข้อมูลที่เธอเคยลงนามไว้เมื่อปี 2544 และได้ข้อมูลมาอย่างไม่ถูกต้อง
สำนักพิมพ์นี้กล่าวว่า แมรี ทรัมป์ ซึ่งเป็นนักจิตวิทยาคลินิก เป็นสมาชิกตระกูลทรัมป์เพียงคนเดียวที่เต็มใจจะเปิดเผยความจริงเกี่ยวกับเรื่องในครอบครัว