หนุนชาวฮ่องกง! ไต้หวัน เปิดสำนักงานช่วยเหลือผู้ที่หลบหนีจากฮ่องกง
หลังจากที่จีนบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่ในฮ่องกงและตำรวจฮ่องกงบังคับใช้กฎหมายฉบับนี้จับผู้ที่ออกมาชุมนุมคัดค้านทันที ในส่วนไต้หวัน ช่วยชาวฮ่องกง ด้วยการเปิดสำนักงานเพื่อช่วยเหลือผู้ที่หลบหนีจากฮ่องกง นายเฉิน หมิงทง ผู้นำฝ่ายนโยบายจีนของไต้หวัน กล่าวว่า สำนักงานแห่งนี้เป็นการแสดงให้เห็นว่าไต้หวันสนับสนุนประชาธิปไตยและเสรีภาพในฮ่องกง กลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านรัฐบาลฮ่องกงได้รับการสนับสนุนจากไต้หวัน ตั้งแต่เริ่มการประท้วงต่อต้านรัฐบาลเมื่อปลายปีที่แล้ว ทำให้มีชาวฮ่องกงประมาณ 200 คนหนีไปไต้หวัน นางไช่ อิงเหวิน ประธานาธิบดีไต้หวัน เป็นผู้นำรัฐบาลคนแรกที่ให้คำมั่นว่าจะช่วยเหลือชาวฮ่องกงที่ต้องลี้ภัยออกนอกประเทศ เนื่องจาก ต้องการหนีการควบคุมของจีน
ม็อบฮ่องกงนับพัน ชุมนุมต้านกฎหมายฉบับใหม่ ถูกจับไปกว่า 300 คน
สถานการณ์การชุมนุมประท้วงในฮ่องกง คนนับพันออกมาชุมนุม ต่อต้านการบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่ ตำรวจฮ่องกง ต้องใช้สเปรย์พริกไทย แก๊สน้ำตา สลายการชุมนุมและควบคุมตัวผู้ชุมนุมกว่า 300 คนในย่านคอสเวย์เบย์ มี 9 คน ถูกตั้งข้อหาฐานต้องสงสัยฝ่าฝืนกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติ ชุมนุมโดยผิดกฎหมาย และขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ ตำรวจ ระบุว่า สามารถตั้งข้อกล่าวหาพวกที่ถูกจับกุมภายใต้กฎหมายใหม่ว่า มีธง สติกเกอร์ และใบปลิวที่เรียกร้องเอกราชอยู่ในครอบครอง การสนับสนุนให้ฮ่องกงเป็นเอกราช เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมได้ เพราะละเมิดกฎหมายฉบับนี้
ส่วนประเทศที่ไม่เห็นด้วยกับกฎหมายฉบับนี้ กว่า 20 ประเทศ รวมถึงสหรัฐฯ อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนี และญี่ปุ่น ยื่นเรื่องต่อคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ขอให้จีน ทบทวนกฎหมายฉบับนี้
นายเจ้า ลี่เจียน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน แถลงว่า มี 53 ประเทศได้ออกคำแถลงร่วมกันถึงคณะมนตรีชุดเดียวกันนี้ สนับสนุนนโยบายของจีนในเรื่องฮ่องกง
อิตาลี ยึดยาบ้าของกลุ่มไอเอสในซีเรีย ทำสถิติโลกมากถึง 14 ตัน
ตำรวจอิตาลี ยึดยาบ้า ที่ผลิตโดยกลุ่มรัฐอิสลามหรือไอเอส (IS) ในซีเรียได้มากถึง 14 ตัน มากที่สุดในโลกเท่าที่เคยมีการยึดได้ ตำรวจ แถลงว่า ยึดยาบ้า 84 ล้านเม็ด มีมูลค่าราว 1,000 ล้านยูโร หรือราว 34,770 ล้านบาท เป็นปฏิบัติการยึดยาบ้าได้มากที่สุดในโลก ทางการ สืบทราบมาว่า เงินส่วนใหญ่ที่กลุ่มไอเอสใช้สนับสนุนการก่อการร้ายมาจากการค้ายาเสพติดที่ผลิตในซีเรีย ซึ่งได้กลายเป็นแหล่งผลิตยาบ้าใหญ่ที่สุดในโลกในช่วงหลายปีมานี้
จากการตรวจสอบ ตำรวจ พบยาบ้าจำนวนมหาศาลนี้ซุกซ่อนอยู่ในตู้คอนเทนเนอร์ 3 ตู้ที่ท่าเรือเมืองซาแลร์โน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ ไม่ห่างจากเมืองเนเปิลส์ มีชื่อตรายาบ้าว่า แคปตากอน (Captagon) เดิมผลิตเพื่อใช้ทางการแพทย์ แต่ถูกดัดแปลงให้เป็นยาเสพติด ใช้อย่างกว้างขวางในกลุ่มนักรบไอเอส จนมีฉายาว่า ยาจิฮัด
ถูกพิษโควิด-19 ! แอร์โรเม็กซิโก เข้าสู่กระบวนการฟื้นฟู
แอร์โรเม็กซิโก หนึ่งในสายการบินขนาดใหญ่สุดของลาตินอเมริกา ประกาศยื่นคำร้องขอเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูปรับโครงสร้างทางการเงิน ตามมาตรา 11 ของกฎหมายล้มละลายในสหรัฐฯ หลังจากบริษัทได้รับผลกระทบ อย่างไม่เคยปรากฎมาก่อน จากการระบาดของไวรัสโควิด-19 หลังจากเมื่อเดือน พ.ค. 2 สายการบินขนาดใหญ่สุดของภูมิภาคคือ สายการบินลาตัม ของชิลี-บราซิล และสายการบินอาเวียนกา ของโคลอมเบีย ได้ยื่นขอล้มละลายในสหรัฐฯ
นายแอนเดรส โคเนซา ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ของแอร์โรเม็กซิโก กล่าวในแถลงการณ์ว่า บริษัทพยายามดำเนินการตามขั้นตอนที่จำเป็น เพื่อให้บริษัทแข็งแกร่ง และมีความยืดหยุ่นมากขึ้น
มาตรา 11 เป็นกระบวนการทางกฎหมาย ที่จะทำให้บริษัทต่างๆ สามารถปรับโครงสร้างทางการเงินและปฏิบัติการภายใต้การควบคุมดูแลของศาลสหรัฐฯ โดยศาลจะคุ้มครองบริษัทจากการเรียกร้องของเจ้าหนี้และบริษัทสามารถดำเนินกิจการต่อไปได้
ข้อมูลของสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ หรือ ไออาตา ระบุว่า มาตรการล็อกดาวน์ของประเทศต่างๆ ทั่วลาตินอเมริกา ทำให้ถึงสิ้นเดือน พ.ค. ลดลงถึงร้อยละ 93 จากประมาณ 200,000 เที่ยวบินต่อวัน ตัวเลขรายได้ที่สูญเสียรวมกันประมาณ 18,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ ประมาณ 557,460 ล้านบาท ไออาตา ประเมินว่า สายการบินทั่วลาตินอเมริกา อาจต้องใช้เวลานานถึง 3 ปี ถึงจะกลับมาดำเนินธุรกิจการบินตามปกติ
เจ้าบ่าวในอินเดีย ติดโควิด-19 ก่อนแต่งงาน ทำให้ต้องกักตัวคนอีก 400คน
เกิดเหตุผู้ติดเชื้อโรคโควิด -19 เป็นกลุ่มก้อนในรัฐพิหาร หนึ่งในรัฐที่ยากจนที่สุดของประเทศอินเดีย เหตุเกิดจากเจ้าบ่าวหนุ่มวัย 26 ปี ที่ทำงานเป็นวิศวกรซอฟท์แวร์ อยู่ที่เมืองหลวงกรุงนิวเดลี เดินทางกลับบ้านเกิดในรัฐพิหารเพื่อเข้าพิธีแต่งงาน ญาติ เปิดเผยว่า ชายคนนี้เป็นโรคโควิด-19 และรักษาตัวในโรงพยาบาล ญาตินำตัวออกจากโรงพยาบาลเพื่อมาแต่งงาน และเสียชีวิตหลังจากแต่งงาน 2 วัน
นพ.ราช คิชอร์ เชาธารี หัวหน้าเจ้าหน้าที่การแพทย์เมืองปัตนะ เมืองเอกของรัฐพิหาร เปิดเผยว่า แพทย์ ยังไม่สามารถระบุได้แน่ชัดว่า ชายคนนี้ เป็นต้นตอแพร่เชื้อโควิด-19 หรือไม่ เพราะญาติ ทำพิธีเผาศพก่อนที่แพทย์จะทำการตรวจพิสูจน์ นายเชาธารี กล่าวว่า ประชาชนอีกประมาณ 400 คน ที่เข้าร่วมงานแต่งงานและงานศพ จะถูกกักตัวเพื่อตรวจซ้ำและเฝ้าดูอาการ แต่ในการตรวจเบื้องต้น พบว่า มีประชาชน 111 คน ติดเชื้อโควิด-19 แล้ว แต่การตรวจร่างกายญาติ และเจ้าสาว ไม่พบการติดเชื้อ
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่กำลังดำเนินการสอบสวนการฝ่าฝืนกฎการรักษาระยะห่างทางสังคม รวมทั้งกฎการร่วมชุมนุมในกิจกรรมสาธารณะ งานแต่งงาน เจ้าหน้าที่อนุญาตให้แขกเข้าร่วมงานได้ไม่เกิน 50 คน และงานศพอนุญาตให้คนเข้าร่วมงานได้ไม่เกิน 20 คน
รัฐพิหาร มีประชากรประมาณ 120 ล้านคน มีผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ล่าสุดเกือบ 600,000 คน และเสียชีวิต 62 ราย
ส่วนสถานการณ์ระบาดทั่วอินเดีย ที่มีประชากร 1,380 ล้านคน มากเป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากจีน สถาบันจอห์น ฮอปกิ้นส์ รายงานเมื่อเวลา 05.25 น. มีผู้ป่วยติดเชื้อสะสม 585,481คน สูงสุดเป็นอันดับ 4 ของโลก รองจากสหรัฐฯ บราซิล และรัสเซีย มีผู้เสียชีวิตรวม 17,400 ราย
นักโทษกว่า 1,000 คน ติดโควิด-19 ในคุกที่รัฐแคลิฟอร์เนีย
ทางการรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐฯ เปิดเผยว่า นักโทษกว่า 1,000 คนในเรือนจำซานเควนติน ซึ่งเป็นทัณฑสถานที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในรัฐแคลิฟอร์เนีย ป่วยติดเชื้อโรคโควิด-19 นายเกวิน นิวซัม ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย กล่าวว่า เรือนจำซานเควนติน สามารถควบคุมการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสได้เป็นอย่างดี จนถึงช่วงต้นเดือนมิถุนายน มีการส่งตัวนักโทษจากทัณฑสถานอื่นๆ ที่เกิดการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสอย่างหนัก เช่น ทัณฑสถานชาย California Institution for Men (CIM) ในเมืองชิโน่ มาที่เรือนจำซานเควนตินเป็นต้นเหตุให้เกิดการแพร่เชื้อไวรัสระบาดหนักขึ้น
นายแมตต์ วิลลิส ผู้อำนวยการสาธารณสุขเทศมณฑลมาริน ซึ่งเป็นที่ตั้งของเมืองซานเควนติน กล่าวว่า กลุ่มนักโทษดังกล่าวไม่ได้รับการตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา ก่อนถูกส่งตัวเข้ามาในเรือนจำซานเควนติน
ทัณฑสถานชาย CIM ถือเป็นจุดศูนย์กลางของการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 มีนักโทษกว่า 500 คนในทัณฑสถานแห่งนี้มีผลการทดสอบเป็นบวก และมีนักโทษเสียชีวิต 7 ราย
แคลิฟอร์เนียเป็นรัฐที่มีจำนวนประชากรมากที่สุดในสหรัฐฯ และยังเป็นอีกรัฐหนึ่งที่มีการแพร่ระบาดอย่างรุนแรงของเชื้อไวรัสโคโรนา มียอดผู้ติดเชื้อสะสมมากกว่า 200,000 คน และมีผู้เสียชีวิตเกือบ 6,000 ราย