นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด19) หรือ ศบค. กล่าวถึง การผ่อนปรนให้ชาวต่างชาติเข้าประเทศไทย 11 กลุ่มหลัก ที่จะเดินทางไป-มา อาจจะเน้น Travel Bubble ให้น้อยลง เพื่อติดตามทุกคนในประเทศไทย คุมตัวเลขผู้ติดเชื้อในประเทศให้เป็น 0 ไว้ให้นานที่สุด โดย 11 กลุ่ม กำหนดแนวทางดูแล เช่น
-ผู้มีสัญชาติไทย สามารถกักกันได้ทั้งสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ และ กักตัวแบบเสียค่าใช้จ่ายที่โรงแรมหรูจับคู่กับโรงพยาบาลหรู มีโควตาได้ 500-600 คน แต่ได้ลดจำนวนลงแล้ว เพราะเที่ยวบินมีไม่มาก
-ผู้มีเหตุยกเว้น เช่น แขกของรัฐบาล ให้ใช้วิธีคุมไว้สังเกต
-บุุคคลในคณะทูต ใช้กักกันที่บ้านของตัวเอง หรือ อยู่ในสถานทูตนั้นอย่างน้อย 14 วัน
-ผู้ขนส่งสินค้าตามความจำเป็นตามแนวชายแดน ให้กลับออกไปได้เลย
-ผู้ควบคุมยานพาหนะ เช่น กัปตัน แอร์โฮสเตส ให้กักกันในโรงแรมเฉพาะใกล้สนามบิน ใช้กักกันแบบจ่ายเงินเอง แบบที่ทำกันอยู่แล้ว
-ผู้ที่ไม่มีสัญชาติไทย ซึ่งเป็นคู่สมรส และมีใบสำคัญถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักร หรือมีใบอนุญาตทำงาน ให้ใช้วิธี กักกันแบบจ่ายเงินแล้วอยู่เอง
-กลุ่มนักเรียน นักศึกษา ที่ไม่มีสัญชาติไทย ใช้กักกันแบบจ่ายเงินแล้วอยู่เอง
-ส่วนผู้ที่มีความจำเป็นต้องเข้ามารับการตรวจรักษาพยาบาลในไทย ใช้กักกันตัวที่บ้าน และ กักกันแบบจ่ายเงินเอง และผู้ที่มีข้อตกลงพิเศษ ใช้กักกันแบบจ่ายเองและคุมไว้สังเกตอาการ
ส่วนความพร้อมในการดูแลผู้ติดเชื้อโรคโควิด-19 ขณะนี้เตียงทั่วประเทศ ระดับไอซียู ในกรุงเทพฯ มี 571 เตียง ไม่ใช่ไอซียู 11,206 เตียง และโรงพยาบาลที่ปรับจากโรงแรมจับมือกับโรงพยาบาล (Hospitel) 10,349 เตียง และมีความพร้อมทางเวชภัณฑ์ ทั้งหน้ากากอนามัย ชุด PPE เครื่องช่วยหายใจ และยาหลักอย่างฟาวิพิราเวียร์ 319,000 เม็ด ใช้ได้ประมาณ 4,500 คน