นายกฯ ย้ำปลดล็อกด้วยความระมัดระวัง
พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะประธานคณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาการผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการในการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เน้นย้ำว่าการปลดล็อกที่ผ่านมาประชาชนได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ทำให้มีการผ่อนคลายได้มากที่สุดแต่ด้วยความระมัดระวัง อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควบคุมการแพร่ระบาดให้มีประสิทธิภาพ รองรับการมีวิถีชีวิตใหม่ของประชาชน
วันนี้มีการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ ที่มี นายกฯ เป็นประธาน คาดว่าที่ประชุมจะหารือเรื่องต่างๆ
-คาดว่าจะผ่อนคลายในกิจการและกิจกรรมเกือบทั้งหมดหรือจะมีการผ่อนปรนมาตรการสำหรับกิจการหรือกิจกรรม ในระยะ 4 ประมาณร้อยละ 95
-คาดว่าจะมีการยกเลิกเคอร์ฟิว
รองอธิบดีกรมควบคุมโรค แนะรูปแบบจัดคอนเสิร์ต อยากให้จัดกลางแจ้ง
นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึง การจัดคอนเสิร์ตที่จะเปิดให้จัดกิจกรรมได้ในเฟส 4 ว่าจะต้องยึด 4 หลักคือ
1.การรักษาระยะห่างระหว่างบุคคล เช่น การยืนเบียดกัน การส่งเสียงระหว่างชม อาจจะกำหนดว่ามีอะไรที่ทำได้หรือไม่ได้
2.การสวมหน้ากากอนามัย หรืออุปกรณ์ป้องกันโรค
3.การปรับปรุงระบบระบายอากาศ
4.วิธีการจัดการผู้เข้าร่วมกิจกรรม เช่น การคัดกรองอาการป่วย โดยขึ้นอยู่กับว่าจะดำเนินการอย่างไรได้บ้าง
รูปแบบที่เหมาะสม คือ การจัดคอนเสิร์ตในรูปแบบที่มีการนั่งชม หรือการจัดกิจกรรมกลางแจ้ง
'หมอยง'ชี้ควรเปิดโรงเรียนก่อนโรงเรียนกวดวิชา
นพ.ธนรักษ์ และ ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยา คลินิกภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เห็นตรงกันเรื่องการเปิดโรงเรียนก่อนเปิดโรงเรียนกวดวิชา เฟซบุ๊ก Yong Poovorawan ระบุว่า
-ควรเปิดโรงเรียน ก่อนเปิดโรงเรียนกวดวิชา สภาพความเป็นจริง การผ่อนปรนการศึกษามีความสำคัญ นักเรียนประถมในต่างจังหวัด โดยเฉพาะในชนบท มีนักเรียนน้อยมากพร้อมที่จะเปิดได้ ให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขคอยดูแล
-โรงเรียนใหญ่ในเมือง ควรจะต้องมีมาตรการเคร่งครัด กำหนดระยะห่างของนักเรียนหรือลดจำนวนนักเรียน ส่วนเด็กโตหรือหนุ่มสาวจะมีโอกาสแพร่กระจายโรคได้มากกว่า เพราะเดินทางไปได้ไกล สัมผัสคนได้มากกว่าเด็กเล็กมาก
-ส่วนโรงเรียนกวดวิชา จะมีเด็กหนาแน่นมาก และสถานที่ตั้งส่วนใหญ่ จะอยู่ในที่ชุมชนหนาแน่น เช่น ในห้าง บริเวณพื้นที่รวมกันหนาแน่น ห้องเรียนก็จะมีนักเรียนจำนวนมาก เมื่อผ่อนปรนตามความเสี่ยงแล้ว โรงเรียนกวดวิชาจะมีความเสี่ยงมากกว่าโรงเรียนธรรมดา
-การกำหนดระยะห่างของโรงเรียน และดูแลสุขอนามัย มีความจำเป็นมากระเบียบวินัยต้องเคร่งครัด เด็กโตหรือหรือนักศึกษา จะต้องฝึกให้เรียนออนไลน์ได้ แล้วสลับกันไปเรียนภาคปฏิบัติเรียนที่บ้าน ทำการบ้านที่โรงเรียน จะเหมาะสมในยุคโควิด -19
CR:Facebook Yong Poovorawan
รองนายกฯ อนุทิน เผย "ทราเวล บับเบิล" เล็งจับคู่แลกเปลี่ยนท่องเที่ยวกับจีน
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข กล่าวถึง การหารือเรื่องทราเวล บับเบิล (Travel Bubble) หรือการจับคู่ประเทศที่สามารถบริหารสถานการณ์โรคโควิด-19 ได้ดีเพื่อแลกเปลี่ยนนักท่องเที่ยวกัน เบื้องต้น น่าจะเป็นประเทศจีน ซึ่งเป็นตลาดนักท่องเที่ยวขนาดใหญ่ของโลก ส่วนประเทศอื่นๆ ล่าสุดได้พูดคุยกับทางสถานทูตนิวซีแลนด์ประจำประเทศไทยเกี่ยวกับเรื่องทราเวลบับเบิลเช่นกัน
สำหรับนักเดินทางและนักท่องเที่ยวที่ไทยจะทำทราเวลบับเบิลด้วย
-จะอนุญาตให้กลุ่มนักธุรกิจที่จำเป็นต้องเดินทางมาทำงานในไทย ต้องมีเอกสารรับรองจากสำนักงานใหญ่หรือหน่วยงานที่เชิญมา
-กลุ่มผู้ป่วยที่ต้องเดินทางเข้ามารักษาพยาบาลตามนัดหมาย ต้องมีใบรับรองแพทย์โรคโควิด-19 อายุไม่เกิน 72 ชั่วโมง และระหว่างอยู่ในไทยต้องสามารถติดตามตัวได้
นอกจากนี้ เตรียมหารือกับ ศบค.เกี่ยวกับประเด็นตั้งจุดตรวจภายในสนามบินของไทยเพื่อตรวจหาโรคโควิด-19 จากกลุ่มนักเดินทางชาวต่างชาติซ้ำอีกครั้ง เพื่อเพิ่มความมั่นใจก่อนอนุญาตให้เดินทางเข้าไทย
คาดชงแพ็คเกจท่องเที่ยวเข้าครม.อังคาร 16 มิ.ย.
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวถึงเรื่องแพ็คเกจมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศ ที่วางกรอบระยะเวลาดำเนินการ 4 เดือน ตั้งแต่ ก.ค.-ต.ค.2563 คาดว่า จะเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาในวันอังคารที่ 16 มิ.ย.นี้ เพราะเป็นชุดมาตรการที่ต้องใช้งบประมาณในการกระตุ้น ก่อนหน้านี้ได้หารือกับ นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เกี่ยวกับความคืบหน้าเรื่องนี้
-แพ็คเกจเที่ยวปันสุข ส่งเสริมให้คนไทยท่องเที่ยวข้ามจังหวัด ให้เงินสนับสนุนค่าใช้จ่ายท่องเที่ยวคนละ 3,000 บาทต่อคน จำนวน 4,000,000 คน คิดเป็นงบประมาณที่ต้องใช้ 12,000 ล้านบาท ครอบคลุมค่าใช้จ่ายในโรงแรม เช่น ค่าห้องพัก ค่าอาหาร และค่าสปา ในโรงแรม โดยแจกบัตรกำนัลหรือ Voucher ผ่านแอพเป๋าตุงของธนาคารกรุงไทย เมื่อมีการเช็คอินห้องพักรัฐบาลจะโอนเงินคืนให้กับประชาชนผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์เพื่อใช้จ่ายในโรงแรม แต่กระทรวงการคลัง ให้ความเห็นว่าควรแบ่งสัดส่วนให้คนไทยที่ได้สิทธิ์ไปใช้จ่ายในธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับภาคท่องเที่ยวด้วย ไม่ใช่เฉพาะธุรกิจโรงแรมเพียงกลุ่มเดียว เช่น ร้านอาหารนอกโรงแรม โดยจะหารือกันเพิ่มเติมว่าจะครอบคลุมไปถึงค่ารถเช่า ค่าตั๋วเครื่องบิน และค่าอื่นๆ ด้วยหรือไม่ โดยให้เป็นค่าใช้จ่ายในหมวดท่องเที่ยวจริงๆเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการท่องเที่ยว ที่ได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19 อย่างหนักมาตั้งแต่ต้นปี
-แพ็คเกจกำลังใจ ตอบแทนบุคลากรที่ปฏิบัติงานแนวหน้าในการรับมือกับสถานการณ์โรคโควิด-19 เช่น อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) จำนวน 1,200,000 คน ด้วยการสนับสนุนงบประมาณสำหรับการศึกษาดูงานและอบรมสัมมนา เดินทางผ่านบริษัทนำเที่ยวในประเทศ น่าจะใช้งบ 2,400 ล้านบาท หรือรัฐบาลจะจ่ายเงินให้ 2,000 บาทต่อคน รวมทั้ง 2 แพ็คเกจใช้งบฯรวม 1.44 หมื่นล้านบาท