ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 19.30 น.วันพฤหัสบดีที่ 11 มิถุนายน 2563

11 มิถุนายน 2563, 19:09น.


ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 19.30 น.วันพฤหัสบดีที่ 11 มิถุนายน 2563



"ศบค.ชุดเล็ก"ไฟเขียวยกเลิก"เคอร์ฟิว"



          มีรายงานว่าในการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) หรือศบค.ชุดเล็ก ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธานการประชุมวันนี้ โดยที่ประชุมได้เห็นชอบแนวทางการผ่อนปรนในระยะที่ 4 ในกลุ่มกิจการธุรกิจสีแดง ตามที่ พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะประธานคณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดต่อ"โควิดฯ"เสนอ



          ตามรายงานระบุว่า นายกรัฐมนตรีเห็นชอบให้มีการยกเลิก “เคอร์ฟิว” เพราะต้องการลดผลกระทบที่มีต่อประชาชน จากที่ผ่านมาประชาชนได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี จนสามารถควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ได้



          นอกจากนี้นายกรัฐมนตรี ยังมอบหมายให้นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีไปศึกษาข้อกฎหมาย เพื่อเตรียมออกมาตรการในการควบคุมและกักตัวกลุ่มบุคคลที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ ให้สามารถควบคุมการแพร่เชื้อให้ได้ พร้อมกับจะต้องหามาตรการคุ้มครองกรณีที่อาจเกิดการฟ้องร้องจากกรณีการปิดน่านฟ้าสนามบินหากมีการยกเลิกพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน



          นายกรัฐมนตรี ได้ระบุถึงการปลดล็อกเฟส 4 ครั้งนี้ว่าจะเป็นการผ่อนคลายกิจการ กิจกรรมเกือบทั้งหมด จึงต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควบคุมการแพร่ระบาดให้มีประสิทธิภาพ เพื่อรองรับกับการมีชีวิตวิถีใหม่ของประชาชน



          สำหรับการประกาศยกเลิกเคอร์ฟิว มีรายงานว่าจะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ (12 มิ.ย.) หลังการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ ทั้งนี้ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของนายกรัฐมนตรีว่าจะแจ้งข่าวดีนี้ให้ประชาชนรับทราบ ผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจหรือไม่



ไม่ลงมติ สภาฯตั้งกมธ.สอบงบฯโควิด-19 ส.ส.รัฐบาล-ฝ่ายค้าน เห็นตรงกัน



         เมื่อเวลา 18.10 น.วันนี้ (11 มิ.ย.) หลังจากสมาชิกอภิปรายครบ โดยใช้เวลาในการอภิปรายนานกว่า 8 ชั่วโมง ที่ประชุมได้มีมติตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญติดตามและตรวจสอบการใช้งบประมาณตามพ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อเยียวยาและฟื้นฟูผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 วงเงิน 1 ล้านล้านบาท ตามญัตติด่วนที่สมาชิกซีกรัฐบาล และฝ่ายค้าน ร่วมกันเสนอจำนวน 8 ญัตติ โดยไม่ลงมติ ตามข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ข้อที่ 88 เนื่องจากเสียงส่วนใหญ่อภิปรายสนับสนุนอย่างท้วมท้น ก่อนที่ที่ประชุมจะตั้งกมธ.วิสามัญฯ 49 คน โดยมีกรอบระยะเวลาในการพิจารณา 120 วัน



สธ.เผยผลสำรวจคนไทยให้เปิดประเทศเดินทางเข้าออกได้ในเดือนต.ค.



          ภญ.วลัยพร พัชรนฤมล ผู้อำนวยการกองการต่างประเทศ และสำนักงานพัฒนานโยบายสุขภาพระหว่างประเทศ (IHPP) สธ. ในประเด็นการเข้าประเทศทั้งด่านบก น้ำ อากาศ พบว่า น้อยกว่าร้อยละ1 ที่คิดว่าควรให้คนไทยและชาวต่างชาติเดินทางเข้าไทยได้โดยไม่ต้องคัดกรองกักตัว 14 วัน สะท้อนว่า  คนไทยยังคิดว่า ใครเข้ามาควรคัดกรองเข้มข้นและกักตัว 14 วัน และมากกว่าร้อยละ 60 เห็นว่าไม่ควรอนุญาตต่างชาติเข้าประเทศใน พ.ค.-มิ.ย. ส่วนความต้องการให้เปิดเส้นทางการบินระหว่างประเทศหรือไม่ พบว่าในเดือน มิ.ย.-ก.ย.ยังไม่ให้เปิดแต่ช่วง ต.ค.มีครึ่งหนึ่งเห็นด้วยให้เปิดเดินทางระหว่างประเทศ



          นพ.อนุพงศ์ สุจริยากุล ผู้ทรงคุณวุฒิ กรมควบคุมโรค กล่าวว่า การสำรวจในพื้นที่ 25 จังหวัด 4 ครั้ง  ครั้งละ 3,500 คน ช่วง 7 ก.พ. - 19 เม.ย. และปรับมาเป็นสำรวจทางออนไลน์ 8 ครั้ง ตั้งแต่ 12 เม.ย. - 6 มิ.ย. ซึ่งครอบคลุม ในช่วงที่มีการผ่อนปรนระยะที่ 1, 2 และ 3 โดยพบว่าเมื่อถามถึงการสวมหน้ากากอนามัย เวลามีไข้ ไอ เจ็บคอหรือไม่ พบว่า สวมหน้ากากอนามัยอยู่ที่ร้อยละ90 ขึ้นไป แต่มีช่วงหนึ่งคือ การสำรวจออนไลน์ครั้งที่ 2-4 ยอดสวมหน้ากากอนามัยลดลงเหลือร้อยละ82.9ร้อยละ76.1ร้อยละ 74.6 ซึ่งเป็นช่วงผ่อนคลายครั้งที่ 1 แต่กลับมามากกว่าร้อยละ 90 ในช่วงผ่อนคลายระยะที่ 2 และ 3 ส่วนเวลาไม่มีไข้ ไอ เจ็บคอ สวมหน้ากากอนามัยหรือไม่ พบว่า สัดส่วนร้อยละน้อยกว่าการสวมอนามัยเมื่อมีอาการ



          ส่วนการจะเลิกสวมหน้ากากอนามัยเมื่อไร พบว่า ประชาชนจะสวมหน้ากากอนามัยต่อเนื่องร้อยละ 53.5 หมายความว่าแม้โรคน้อยลงก็จะสวมหน้ากากอนามัยต่อไป รองลงมาคือ เมื่อไม่มีรายงานผู้ป่วยโควิด-19ในประเทศร้อยละ 44.4 ขณะที่การล้างมือด้วยสบู่และน้ำเวลาใด พบว่าให้ความร่วมมือล้างมือก่อนและหลังรับประทานอาหารมากที่สุด ระดับร้อยละ 80-90

          นพ.อนุพงศ์กล่าวว่า หากพิจารณาเฉพาะการสำรวจออนไลน์ครั้งที่ 8 วันที่ 1-6 มิ.ย.ซึ่งเป็นช่วงการผ่อนปรนระยะที่ 3 จำนวน 1,287 ตัวอย่าง พบว่าการสวมหน้ากากอนามัย สวมเกินร้อยละ 90  ในทุกกลุ่มอายุ ยกเว้นช่วงอายุ 15-24 ปี ที่สวมเพียงร้อยละ 79  



ญี่ปุ่นเตรียมเจรจา 4 ประเทศ เดินเข้าระหว่างประเทศได้



          สำนักข่าวเกียวโด และโยมิอูริ เดลี่ สื่อญี่ปุ่น รายงานว่า ทางการญี่ปุ่น เตรียมผ่อนคลายมาตรการป้องกันโควิด-19 ด้านการเดินทางระหว่างประเทศด้วยการเปิดให้มีการเดินทางเพื่อธุรกิจทั้งเที่ยวไปและกลับจากประเทศไทย ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และเวียดนามในช่วงต้นฤดูร้อนนี้ (มิ.ย.-ส.ค.) โดยนักธุรกิจจากทั้ง 4 ประเทศจำนวนประมาณ 250 คนต่อวันจะได้รับอนุญาตให้เข้าประเทศ เนื่องจากทั้ง 4 ประเทศนี้สามารถควบคุมสถานการณ์โรคระบาดได้ แต่นักธุรกิจที่จะเดินทางมาญี่ปุ่นจะต้องยื่นเอกสารก่อนการเดินทาง เพื่อยืนยันว่าไม่ติดเชื้อและจะต้องเข้ารับการทดสอบ PCR ก่อน

          ทั้งนี้ ญี่ปุ่นขึ้นบัญชีห้ามพลเมืองจากมากกว่า 100 ประเทศเข้าประเทศ และจะมีการเจรจากับทั้ง 4 ประเทศอย่างเป็นทางการ และเตรียมผ่อนคลายมาตรการจำกัดการเดินทางเป็นระยะต่อไป



ค่าเงินบาทแข็งกดดันหุ้นส่งออก ปิดตลาดหุ้นไทยลบ 22.00 จุด



          ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย วันนี้ ปิดตลาดปรับตัวลดลงหลังจากธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯจะหดตัวลง ร้อยละ 6.5 ในปีนี้ รวมทั้งมีแรงขายทำกำไรในหุ้นธนาคารหลังจากที่ปรับตัวขึ้นมา 2 วันก่อนหน้านี้ และค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นกดดันหุ้นกลุ่มส่งออก ส่งผลให้ปิดตลาด 1,396.77จุด ลดลง 22.00 จุด มูลค่าซื้อขาย 82,892.56ล้านบาท



          หลังจากนี้นักลงทุนต้องติดตามหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า สายการบิน ที่อาจได้รับผลดีจากค่าเงินบาทแข็ง ล่าสุดมีรายงานว่าสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) นัดหารือกับสายการบินสัญชาติ ไทย และตัวแทนของสายการบินต่างประเทศ ในวันที่ 16 มิ.ย.นี้ เพื่อเตรียมความพร้อมทำการบินระหว่างประเทศ รวมถึงเตรียมฟังข่าวดีเกี่ยวกับการทดเลิกยกเลิกเคอร์ฟิวและมาตรการคลายล็อกดาวน์ในระยะที่ 4 ซึ่งจะนำเข้าการพิจารณาในที่ประชุมใหญ่ ศบค.วันพรุ่งนี้ คาดว่าจะอนุญาตให้ธุรกิจสปา, ศูนย์ประชุม, การจัดคอนเสิร์ต กลับมาดำเนินงานได้ปกติ



          ดัชนีนิกเกอิ ตลาดหุ้นโตเกียวปิดร่วงลงอย่างหนักในวันนี้ โดยถูกกดดันจากการที่เงินเยนแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ และปัจจัย เฟดส่งสัญญาณตรึงอัตราดอกเบี้ยใกล้ระดับร้อยละ0 ต่อไปจนถึงสิ้นปี 2565 นอกจากนี้ นักลงทุนยังเทขายหุ้นออกมาเพื่อทำกำไรท่ามกลางความระมัดระวังเกี่ยวกับภาวะตลาดที่ร้อนแรงเกินไป ดัชนีนิกเกอิ ปิดร่วงลง 652.04 จุด แตะที่ 22,472.91 จุด



          ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดวันนี้ปรับตัวลดลง 569.58 จุด ที่ 24,480.15 จุด



ดิสนีย์แลนด์แคลิฟอร์เนีย สหรัฐฯ เตรียมเปิดให้บริการ17ก.ค.



         ดิสนีย์แลนด์ในแคลิฟอร์เนีย สหรัฐฯ ประกาศแผนการทำงานเพื่อที่จะกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งในวันที่ 17 กรกฎาคมนี้พร้อมด้วยมาตรการรักษาระยะห่างทางสังคมเพื่อป้องกันโรคโควิด-19 โดยให้งดขบวนพาเหรดและห้ามเด็กๆ กอดมิกกี้เม้าส์ หรือทำไฮไฟว์กับโดนัลด์ดั๊ก โดยทั้งแผนการทำงานและมาตรการต่างๆ ยังต้องรอความเห็นชอบจากทางการรัฐแคลิฟอร์เนียอีกครั้ง



          สวนสนุกดิสนีย์แลนด์ในแคลิฟอร์เนีย มีนักท่องเที่ยวมากเป็นอันดับ 2 ของโลก ด้วยจำนวนนับหมื่นคนในแต่ละวัน แต่ต้องปิดทำการมาตั้งแต่กลางเดือนมีนาคม เนื่องจากสถานการณ์ของโรคโควิด-19 แผนการทำงานเพื่อกลับมาเปิดบริการอีกครั้ง ยึดแนวทางเดียวกับการทำงานของเซี่ยงไฮ้ดิสนีย์แลนด์ ที่กลับมาเปิดให้บริการเมื่อเดือนที่แล้ว ส่วนแผนการเปิดให้บริการของดิสนีย์เวิลด์ในรัฐฟลอริดา ในช่วงกลางเดือนกรกฎาคม ได้รับความเห็นชอบจากทางการรัฐฟลอริดาแล้ว



การบินไทย เตรียมเลื่อนเปิดบินระหว่างประเทศ เป็น 1 ส.ค.



         การเลื่อนเปิดทำการบินเส้นทางระหว่างประเทศของสายการบินไทยออกไปอีก 1 เดือน ไปเป็นช่วงวันที่ 1 สิงหาคม 2563 นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค กรรมการบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เป็นแผนที่ฝ่ายการพาณิชย์ของการบินไทยศึกษาและคาดการณ์ไว้ล่วงหน้าว่า หากมีการผ่อนปรนจะดำเนินการอย่างไร แต่ยังไม่มีการยืนยันว่าจะสามารถทำตามแผนได้หรือไม่ เนื่องจากต้องขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย โดยเฉพาะสถานการณ์การควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระดับโลก ไม่ใช่เฉพาะในประเทศไทย, เงื่อนไขการเดินทางของแต่ละประเทศ และจำนวนผู้โดยสารที่จะมาใช้บริการ



          ขณะนี้มองว่าสถานการณ์ยังไม่เอื้ออำนวยต่อธุรกิจการบิน และหากเปิดบินอาจไม่คุ้ม พร้อมยืนยันการบินไทยพร้อมบิน แต่ต้องมีผู้โดยสารที่เพียงพอ และต้องคำนึงถึงความปลอดภัยและคุ้มค่า โดยจะต้องมีการศึกษารายละเอียดในเรื่องดังกล่าวอีกครั้ง



ศาลไม่ให้ประกันตัว พ่อ-ลูก โกงที่ธรณีสงฆ์ จันทบุรี ส่งขังเรือนจำพิเศษกรุงเทพ



          หลังพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม ควบคุมตัว นายบุญช่วย อายุ 80 ปี และ นายกิตติพงษ์ เจริญสถาพร อายุ 43 ปี พ่อและลูก ผู้ต้องหาในคดี สร้างหลักฐานเท็จยื่นต่อศาลคดีนำที่ดินธรณีสงฆ์ 3,800 ไร่ ของมูลนิธิอภิธรรมมหาธาตุวิทยาลัยในอำเภอเขาคิชฌกูฎ และอำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรีเป็นของตัวเอง ไปขออำนาจศาลอาญา รัชดาฯ ฝากขัง ผัดแรก  โดยทนายความ 2 ผู้ต้องหาได้ยื่นหลักทรัพย์เงินสดคนละ 1 ล้านบาท เพื่อขอปล่อยชั่วคราวระหว่างฝากขัง 



          ซึ่งศาลพิเคราะห์แล้ว เห็นว่าพฤติการณ์แห่งคดีเป็นเรื่องร้ายแรงต่อพระพุทธศาสนา และมูลค่าความเสียหายในคดีสูง ประกอบกับพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกัน หากปล่อยชั่วคราวเกรงว่าผู้ต้องหาจะไปยุ่งเหยิงพยานหลักฐานและอาจหลบหนีได้ ในชั้นนี้จึงไม่อนุญาต ให้ปล่อยชั่วคราว ยกคำร้อง โดยเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จะได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งสองไปคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครต่อไป

ข่าวทั้งหมด

X