“หมอธีระ” เตือนสติติดตามข่าวให้ดี ย้ำว่า โรคโควิด-19 ติดง่าย-แพร่เร็ว
รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊กส่วนตัว "Thira Woratanarat" ระบุว่า เรื่องการสื่อสารเป็นเรื่องสำคัญต้องไตร่ตรอง วางแผน ออกแบบถ้อยคำที่จะสื่อสารเป็นอย่างดี มีการนำเสนอข้อมูลเมื่อวันก่อนว่า คนติดเชื้อแบบไม่มีอาการจะมีโอกาสแพร่เชื้อน้อยมาก เป็นถ้อยคำที่ส่งผลกระทบต่อคนจำนวนมาก อาจทำให้เชื่อและปฏิบัติกันผิดๆ ได้ ส่วนตัวแล้ว ไม่เชื่อในถ้อยแถลงขององค์กรดังกล่าว เพราะอ้างอิงข้อมูลที่จำกัดมากและมีโอกาสคลาดเคลื่อนสูง ยืนยันว่า โรคโควิด-19 ติดง่าย แพร่เร็ว
งานวิจัยที่ชี้ให้เห็นชัดว่า ในช่วงสัปดาห์แรกของการติดเชื้อจะเป็นช่วงที่มีปริมาณไวรัสสูง เสี่ยงต่อการแพร่สู่ผู้อื่นได้ คนติดเชื้อมีถึงร้อยละ 20 ที่จะไม่มีอาการ และง่ายต่อการที่จะไม่รู้ตัว หากไม่ป้องกัน ก็มีโอกาสแพร่ให้คนอื่นๆ ได้ เป็นเรื่องที่สำคัญมากที่ต้องเตือนให้ทุกคนรู้ว่าเวลาใช้ชีวิตประจำวันต้องป้องกันเสมอ ใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือ อยู่ห่างๆ พูดน้อยๆ พบปะคนให้น้อยลง สั้นลง ตรวจพบเชื้อได้ทั้งในน้ำมูก น้ำลาย เสมหะ น้ำตา ปัสสาวะ อุจจาระ ฯลฯ ดังนั้นต้องรักษาความสะอาดตามหลักสุขศึกษาที่เรียนมา
สหราชอาณาจักร เลื่อนแผนเปิดเรียนของเด็กประถม
นายกาวิน วิลเลียมสัน รมว.กระทรวงศึกษาธิการของสหราชอาณาจักร แถลงว่า ยกเลิกแผนการกลับมาจัดการเรียนการสอนเต็มรูปแบบ ในห้องเรียนสำหรับเด็กอายุ 5 ขวบ ถึง 11 ขวบ ที่เคยกำหนดไว้ว่าภายในสิ้นเดือน ส.ค. นี้ เนื่องจากสถานการณ์โรคโควิด-19 ในประเทศ ยังน่าวิตกกังวล นายวิลเลียมสัน กล่าวว่า กระทรวงศึกษาธิการ จะประกาศกำหนดการในเรื่องนี้อีกครั้ง เนื่องจาก ตอนนี้กำลังหารือกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อกำหนดแนวทางปฏิบัติด้านสาธารณสุขเพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับทุกคน
กลุ่มเกษตรกร ร้องศาลปกครอง เร่งคุ้มครองชั่วคราวแบน 2 สารพรุ่งนี้
นายสุกรรณ์ สังข์วรรณะ เลขาธิการสมาพันธ์เกษตรปลอดภัย กล่าวว่า วันพรุ่งนี้ จะให้ทนายความยื่นคำร้องต่อศาลปกครองกลาง เร่งรัดพิจารณาและมีคำสั่งคำร้องคุ้มครองชั่วคราวในการกำหนดมาตรการบรรเทาทุกข์จากประกาศกระทรวงอุตสาหกรรมที่ให้แบนสารพาราควอตและคลอร์ไพริฟอส โดยจะมีเกษตรกรผู้ได้รับผลกระทบจำนวนมากไปร่วมแสดงออกด้วย เกษตรกรอีก 10 คน ซึ่งเป็นเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ข้าวโพดหวาน อ้อย มันสำปะหลัง ปาล์มน้ำมัน ยางพารา ลำไย ลองกอง มะม่วง ทุเรียนกล้วย และมะนาว ยื่นคำร้องต่อศาลปกครองกลางตั้งแต่วันที่ 27 พ.ค.ว่าได้รับผลกระทบจากประกาศดังกล่าวที่กำหนดให้พาราควอตและคลอร์ไพริฟอส เป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 4 เป็นผลให้ห้ามผลิต ห้ามนำเข้า ห้ามนำผ่าน ห้ามส่งออก และห้ามครอบครอง มีผลนับตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.ทำให้เกษตรกรได้รับผลกระทบจากประกาศกระทรวงเป็นอย่างมาก
ศาลได้รับคำฟ้องเป็นคดีหมายเลขดำที่ ส.10/2563 โดยมีผู้ถูกฟ้อง 4 ราย คือ กระทรวงอุตสาหกรรม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม คณะกรรมการวัตถุอันตราย และกรมวิชาการเกษตร ศาลแจ้งว่าจะเร่งพิจารณาคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราวในการออกคำสั่งทุเลาการบังคับตามกฎหรือประกาศและกำหนดมาตรการบรรเทาทุกข์ไว้เป็นการชั่วคราวในระหว่างพิจารณาคดีจนกว่าคดีจะถึงที่สุดโดยไม่รอช้า ขณะนี้เวลาเนิ่นนานพอสมควรแล้ว ดังนั้น ผู้ร้องทั้ง 11 คน จึงจะยื่นคำร้องให้ศาลพิจารณาอีกครั้ง เนื่องจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังไม่มีการดำเนินจัดหาสารทดแทนและวิธีการจัดการที่เหมาะสมเสียก่อน การกระทำดังกล่าวได้สร้างความเสียหายต่ออาชีพเกษตรกรทั่วประเทศที่ยังต้องใช้พาราควอต ซึ่งเป็นสารป้องกันกำจัดวัชพืชและคลอร์ไพริฟอสเป็นสารกำจัดแมลงศัตรูพืช สำหรับเตรียมสภาพพื้นดินเพาะปลูกช่วงเข้าสู่ฤดูฝน โดยการยื่นคำร้องครั้งนี้หวังว่าศาลจะมีคำสั่งกำหนดมาตรการเพื่อบรรเทาทุกข์ให้ผู้ฟ้องคดีและเกษตรกรอีกนับล้านคนทั่วประเทศ
ครอบครัวเข้าเยี่ยม‘ลุงบุญช่วย’ กองปราบค้านประกันคดีฮุบที่ธรณีสงฆ์
ครอบครัวพร้อมคนใกล้ชิด ได้เข้าเยี่ยมนายบุญช่วย เจริญสถาพร อายุ 80 ปี และนายกิตติพงษ์ เจริญสถาพร อายุ 43 ปี บุตรชาย ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ข้อหาเบิกความเท็จต่อศาล ให้การเท็จต่อเจ้าพนักงานและเจ้าหน้าที่และร่วมกันยักยอกทรัพย์ หลังถูกตำรวจกองปราบปราม นำหมายศาลเข้าจับกุมตัวที่บ้านพักจังหวัดจันทบุรี ก่อนควบคุมตัวมาสอบปากคำที่กองบังคับการปราบปราม ครอบครัว ระบุว่า จากการพูดคุยกับนายบุญช่วยและลูกชาย ทั้งสองคนไม่ได้เรียกร้องหรือต้องการสิ่งใดเป็นพิเศษ เมื่อคืนนี้นอนหลับได้ตามปกติ ส่วนเรื่องสุขภาพของนายบุญช่วยก็เป็นไปตามวัยที่อายุมากแล้ว ส่วนเรื่องคดีความให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย
พนักงานสอบสวนจะคัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหาทั้งสองคนเนื่องจากคดีมีความผิดร้ายแรง รวมทั้งคดีนี้เอกสารหลักฐานมีจำนวนมาก แม้ว่าผู้ต้องหาจะให้การปฏิเสธแต่เป็นสิทธิ์ที่จะให้การอย่างไรก็ได้ ยืนยันว่า ตำรวจดำเนินคดีไปตามพยานหลักฐาน ส่วนพยานหลักฐานขาดอายุความหรือปลอมแปลงขึ้นมาไม่ใช่อุปสรรคในการดำเนินคดี แต่จะดูพฤติกรรมของผู้ต้องหาเป็นหลักที่ชี้ว่ามีการกระทำความผิด ส่วนคดีนี้จะส่งผลกับคดีอื่นที่ตัดสินในศาลชั้นต้นตัดสินไปแล้วหรือไม่ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาล