กกร. สนับสนุนไทยร่วมเจรจา กลุ่มประเทศ CPTPP

10 มิถุนายน 2563, 15:13น.


          การเข้าร่วมหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจ ภาคพื้นแปซิฟิค หรือ CPTPP นายปรีดี ดาวฉาย ประธานสมาคมธนาคารไทย เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ให้ความสําคัญมากที่สุดครั้งนี้ เห็นมีมติ ควรสนับสนุนให้ไทยเข้าร่วมเจรจากับกลุ่มประเทศ  CPTPP  เดือนสิงหาคม 2563 เพราะการเข้าร่วมเจรจาจะทำให้ไทยได้เห็นข้อดีข้อเสียต่อการเข้าร่วม รวมถึงเข้าใจกระบวนการเข้าร่วมที่จะมีขั้นตอน เช่น การขอเข้าร่วมเจรจา การเข้าร่วมเจรจากับประเทศภาคี หลังจากเจรจาเสร็จต้องนำเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี และขณะเดียวกันต้องมีการทำประชาพิจารณ์ผลการเจรจาด้วย และขั้นตอนสุดท้ายต้องเสนอให้รัฐสภาเห็นชอบ ซึ่งจะต้องใช้ระยะเวลา 3-4 ปี



          นายกลินท์ สารสิน ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ยืนยันการเข้าเจรจาใน CPTPP ด้วยว่า หากการเจรจาแล้วไทยเสียเปรียบ กกร.จะคัดค้านอย่างแน่นอน  โดยจะต้องมีการจัดสัมมนาผลดีผลเสียของการเข้าร่วม CPTPP ก่อนที่จะไปเจรจาด้วย ส่วนเรื่องพันธุ์พืชที่หลายฝ่ายเป็นห่วงนั้น ยังไม่ได้ไปเจรจา จึงไม่ทราบข้อมูลที่ชัดเจน ซึ่งการเจรจานี้จะทำให้ไทยได้รับทราบถึงข้อตกลงในประเทศภาคี เป็นประโยชน์สำหรับการปรับตัวให้แข่งขันกับประเทศต่าง ๆ ในเวทีโลก โดยเฉพาะกลุ่มประเทศอาเซียน  



          สำหรับเศรษฐกิจไทยในปีนี้ กกร.ยังคงประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2563 ไว้คงเดิม โดยมองว่าเศรษฐกิจไทยอาจจะหดตัวในกรอบ ร้อยละ -3 ถึง ร้อยละ -5  และการส่งออกอาจจะหดตัวร้อยละ -5 ถึง ร้อยละ-10 ส่วนอัตราเงินเฟ้อทั่วไป คาดว่าอยู่ในกรอบ ร้อยละ 0.0-1.5 ประชุม กกร.เห็นว่าภาครัฐควรเร่งขับเคลื่อนแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมโดยเร็ว โดยเน้นโครงการที่เพิ่มเม็ดเงินลงสู่เศรษฐกิจฐานรากและฟื้นฟูธุรกิจท้องถิ่นเพื่อสร้างงานอย่างครอบคลุมทั่วประเทศ



          แม้ว่าสถานการณ์โควิด-19 ในไทยจะดีขึ้นจนภาครัฐคลายล็อกให้กิจการต่าง ๆ กลับมาเปิดดำเนินการตั้งแต่เดือนพฤษภาคม (เฟส 1-3) รวมทั้งมีมาตรการเยียวยาเพื่อบรรเทาผลกระทบหลายด้าน ทำให้เครื่องชี้เศรษฐกิจไทยผ่านจุดต่ำสุดแล้ว แต่กำลังซื้อครัวเรือนที่อ่อนแอและพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ขณะเดียวกันเศรษฐกิจโลกที่อยู่ในภาวะถดถอย อีกทั้งยังมีความเสี่ยงจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่ปะทุขึ้นอีกรอบ ทำให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจและภาคธุรกิจไทยจะยังไม่กลับสู่ภาวะปกติหรือก่อนโควิด-19 และคงต้องใช้เวลาอีกพอสมควร

ข่าวทั้งหมด

X