หลังตำรวจกองปราบปรามได้คุมตัว 2 พ่อลูก นายบุญช่วย และ นายกิตติพงษ์ เจริญสถาพร ผู้ต้องหาในคดีเบิกความเท็จต่อศาล,ให้การเท็จต่อเจ้าพนักงานและเจ้าหน้าที่ และร่วมกันยักยอกทรัพย์ กรณีข้อพิพาทที่ดินใน อำเภอเขาคิชฌกูฎ และบางส่วนในอำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี ของมูลนิธิอภิธรรมมหาธาตุ เนื้อที่กว่า 3,800 ไร่
เช้าวันนี้ครอบครัวได้เดินทางมาเยี่ยม โดยระบุว่า จากการพูดคุยกับผู้ต้องหาทั้ง2คน ไม่ได้เรียกร้องอะไรเป็นพิเศษ และไม่ขอพูดถึงเรื่องคดีความ ขอให้เป็นไปตามขั้นตอนกฎหมาย
พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการกองปราบปราม กล่าวว่า จากการสอบปากคำนายบุญช่วยและนายกิตติพงษ์มีอาการเครียด ยังคงปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา แต่ไม่เป็นปัญหาในการทำงาน เพราะตำรวจมั่นใจในพยานหลักฐานที่จะสามารถเอาผิดได้ มีการสอบพยานบุคคลไปกว่า 100 ปาก ทั้งประชาชน พระสงฆ์ เจ้าหน้าที่รัฐที่ทราบเหตุการณ์ ให้การสอดคล้องกัน และต่างยืนยันว่าที่ดินที่พิพาทเป็นของมูลนิธิฯ
รวมทั้งตำรวจยังมีเอกสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมการสร้างหลักฐานเท็จ โดยนายสมพล โกศลานันท์ เจ้าของเดิม ได้ซื้อขายที่ดินให้กับพระกิตติวุฑโฒ ภิกขุ ในนามมูลนิธิฯ ตั้งแต่ปี 2513 จากการตรวจสอบที่ดินทั้งหมดกว่า 3,800 ไร่ พบว่าเป็นที่ดินที่มีเอกสารสิทธิ์ นส.3 จำนวนกว่า 3,500 ไร่ ส่วนที่เหลือเป็นที่ว่างเปล่าไม่มีเอกสารสิทธิ์ แต่อยู่ในที่ดินผืนเดียวกัน นายสมพล ได้ซื้อขายแบบเหมาแปลงในราคา 12 ล้านบาทในขณะนั้น ซึ่งมูลนิธิฯได้ทยอยจ่ายเงินไปแล้วกว่า 10 ล้านบาท แม้จะจ่ายไม่ครบ แต่ก็ถือว่าได้ส่งมอบที่ดินให้กับมูลนิธิฯแล้ว จึงถือว่ามูลนิธิฯเป็นผู้ครอบครองอย่างแท้จริง ขณะนี้สืบสวนคดีไปกว่าร้อยละ 95 คาดว่า จะสามารถสรุปสำนวนส่งฟ้องอัยการได้ในเร็วๆ นี้
ส่วนการสืบสวนในครั้งนี้ จะส่งผลกับคดีที่ศาลชั้นต้นจังหวัดจันทบุรี พิพากษาให้โอนกรรมสิทธิ์ครอบครองที่ดินไปให้นายบุญช่วยหรือไม่ ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาล ไม่อาจก้าวล่วงได้ แต่ตำรวจกองปราบปรามทำตามพยานหลักฐานเพื่อพิสูจน์ว่าใครคือผู้ครอบครองกรรมสิทธิ์ที่ดินที่แท้จริงเท่านั้น
รองผู้บังคับการกองปราบปราม ระบุว่า ตำรวจกองปราบปรามสืบสวนคดีนี้มาตั้งแต่ปี2561 ไม่ได้นิ่งนอนใจ และได้เคยเรียก พล.ต.ต.ธารินทร์ จันทราทิพย์ อดีตรองจเรตำรวจ มาให้ปากคำด้วย ก่อนที่พล.ต.ต.ธารินทร์ จะก่อเหตุยิงในศาลจังหวัดจันทบุรีเมื่อปลายปี 2562 ยังไม่ได้พบพิรุธที่จะไปก่อเหตุ
โดยเมื่อวานครอบครัวผู้ต้องหาได้ยื่นหลักทรัพย์ขอประกันตัวคนละ 1 ล้านบาท แต่พนักงานสอบสวนไม่อนุญาตให้ประกันตัวในชั้นสอบสวน เนื่องจากเกรงจะยุ่งเหยิงพยานหลักฐานรวมถึงความเสียหายในคดีนี้มีมากถึง 3,500 ล้านบาท ซึ่งในวันพรุ่งนี้ ตำรวจจะคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คนไปขออำนาจศาลอาญา ฝากขังผัดแรก

นอกจากนี้ยังมีข้อมูลพบว่าพระกิตติวุฑโฒ ภิกขุ เป็นเจ้าของที่ดินในจังหวัดสงขลาและชลบุรี อีกประมาณ 2,000-3,000 ไร่ ตามพินัยกรรมของพระกิตติวุฑโฒ ระบุว่า ที่ดินทั้ง 2 แห่งเป็นธรณีสงฆ์ และกฎหมายกำหนดให้ทรัพย์สินที่พระสงฆ์ได้มาระหว่างบวช หากมรณภาพ ทรัพย์สินจะต้องตกเป็นของวัดทำให้วัดถือเป็นผู้เสียหาย หากวัดต้องการที่ดินดังกล่าววัดจะต้องไปฟ้องร้อง
ข่าวทั้งหมด