ทันสถานการณ์โลก 06.30 น.วันพุธที่ 10 มิถุนายน 2563

10 มิถุนายน 2563, 06:17น.


ธนาคารโลก ชี้พิษโควิด-19 ฉุดเศรษฐกิจโลกดิ่งสุดในรอบ 150 ปี



          ธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์) เปิดเผยว่า ผลกระทบจากโรคโควิด- 19 ทำให้เศรษฐกิจโลกพังเสียหายเป็นวงกว้างที่สุดนับตั้งแต่ปี 2413 แม้ว่ารัฐบาลประเทศต่างๆจะพยายามใช้มาตรการต่างๆบรรเทาผลกระทบแล้วก็ตาม จากรายงานเรื่อง Global Economic Prospect ประเมินว่า เศรษฐกิจโลกปีนี้จะหดตัวราวร้อยละ 5.2 เป็นภาวะถดถอยครั้งรุนแรงที่สุดในรอบ 80 ปี แต่เนื่องจากการระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้ประเทศต่างๆทั่วโลกได้รับผลกระทบถือเป็นวิกฤตครั้งร้ายแรงที่สุดในรอบ 150 ปี



          เวิลด์แบงก์ คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจโลกจะเริ่มฟื้นตัวและเติบโตได้ราวร้อยละ 4.2 ในปี 2564 แต่ยังมีความเสี่ยงจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระลอก 2 จะทำให้สถานการณ์เลวร้ายลง และอาจนำไปสู่การผิดนัดชำระหนี้ของบริษัทต่างๆ 



          ความรุนแรงของวิกฤตเศรษฐกิจครั้งนี้ อาจทำให้ประชากรโลก 70-100 ล้านคนเข้าสู่ภาวะยากจนสุดขีดมากกว่าตัวเลข 60 ล้านคนที่เคยประเมินไว้ก่อนหน้านี้



เศรษฐกิจสหรัฐฯ ถดถอย คาดไตรมาส 2 ทรุดหนักมากกว่า 20%  



          กลุ่มนักเศรษฐศาสตร์อเมริกัน คณะกรรมการกำหนดวงจรธุรกิจ สำนักงานวิจัยเศรษฐกิจแห่งชาติ (เอ็นบีอีอาร์) องค์กรวิจัยไม่หวังผลกำไรและไม่แบ่งฝักแบ่งฝ่าย ผู้ทำหน้าที่ตัดสินว่าเศรษฐกิจถดถอยเริ่มต้นและสิ้นสุดลงเมื่อใด รายงานว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ เข้าสู่ขาลง เนื่องจากทั้งการจ้างงานและการผลิตลดลงมาก แม้จะเกิดขึ้นในช่วงสั้นกว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอยครั้งอื่นๆ ทำให้เศรษฐกิจสหรัฐฯเข้าสู่ภาวะถดถอย ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของสหรัฐฯ ไตรมาสแรก ดิ่งลงร้อยละ 4.8 ขณะที่ คาดว่าจีดีพีในไตรมาส 2 จะทรุดตัวลงมากกว่าร้อยละ 20  นอกจากนี้ ตัวเลขอัตราการว่างงานพุ่งขึ้นตั้งแต่เดือน เม.ย. และล่าสุดเดือนพ.ค.อยู่ที่ร้อยละ 13.3         



ฝรั่งเศส อัดฉีดเงิน 15,000 ล้านยูโร พยุงอุตสาหกรรมการบิน



          นายบรูโน เลอ แมร์ รมว.กระทรวงเศรษฐกิจของฝรั่งเศส เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติจัดสรรงบประมาณฉุกเฉิน 15,000 ล้านยูโร หรือราว 531,152.16 ล้านบาท ช่วยอุตสาหกรรมการบินให้กลับมามีศักยภาพด้านการแข่งขันอีกครั้ง ท่ามกลางวิกฤตโรคระบาดโควิด-19 ที่ยืดเยื้อ หากรัฐบาลไม่เข้ามาแทรกแซงมีความเป็นไปได้สูงมากที่จะต้องปลดพนักงานมากถึง 100,000 คน หรือ 1 ใน 3 ของจำนวนที่มีอยู่ในปัจจุบัน



          ก่อนหน้านี้ รัฐบาลฝรั่งเศส อนุมัติเงินช่วยเหลือแบบมีเงื่อนไขให้กับบริษัทแอร์ฟรานซ์ ซึ่งเป็นสายการบินแห่งชาติ เป็นวงเงิน 7,000 ล้านยูโร หรือ 247,865.94 ล้านบาท



คาเธ่ย์ แปซิฟิค เข้าสู่แผนฟื้นฟูกิจการ หลังฮ่องกง ต้องการรักษาภาพศูนย์กลางการบิน



          คาเธ่ย์ แปซิฟิค สายการบินหลักของฮ่องกงและหนึ่งในสายการบินขนาดใหญ่ที่สุดของทวีปเอเชีย ยื่นหนังสือต่อตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง รายงานการเข้าสู่กระบวนการช่วยเหลือตามแผนของคณะผู้บริหารฮ่องกง คิดเป็นวงเงินช่วยเหลือเกือบ 40,000 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง หรือประมาณ 162,071.75 ล้านบาท เป็นครั้งแรกที่รัฐบาลฮ่องกงเข้าไปมีส่วนร่วมกับการดำเนินงานของบริษัทเอกชน



          แนวทางการดำเนินงานตามกรอบของแผนฟื้นฟู รวมถึงการที่รัฐบาลฮ่องกงจัดตั้งบริษัทชื่อ เอวิเอชั่น2020 เพื่อร่วมเป็นเจ้าของกิจการผ่านการซื้อหุ้นบุริมสิทธิ์เป็นมูลค่า 19,500 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง หรือประมาณ 79,009.98 ล้านบาท คิดเป็นประมาณร้อยละ 6 แม้การถือครองหุ้นบุริมสิทธิ์ไม่มีสิทธิ์ออกเสียงเกี่ยวกับนโยบายบริหาร แต่มีรายงานว่า คณะผู้บริหารจะได้สิทธิ์ให้มีตัวแทนผู้สังเกตการณ์ 2 คน ในบอร์ดบริหารของสายการบิน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับทุกฝ่ายว่า คาเธ่ย์ แปซิฟิค จะสามารถรักษาสภาพคล่องจนกว่าจะผ่านพ้นวิกฤตโรคระบาดโควิด-19 ไปได้



          เอวิเอชั่น 2020 จะปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำเป็นวงเงิน 7,800 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง  ราว 72,121.93 ล้านบาท  ให้กับคาเธ่ย์ แปซิฟิค นอกจากนี้ยังมีขั้นตอนการระดมทุนปลีกย่อยอีกหลายแบบ ซึ่งเมื่อขั้นตอนทั้งหมดเสร็จสิ้น ผู้ถือหุ้นเดิม นำโดยกลุ่มสไวร์ มีสัดส่วนหุ้นลดลงจากร้อยละ 45 เหลือร้อยละ 42.26 แอร์ไชน่า สายการบินแห่งชาติของจีน จะมีสัดส่วนหุ้นจากเดิมร้อยละ 30 เหลือร้อยละ 28.17 และกาตาร์ แอร์เวย์ส สายการบินแห่งชาติของกาตาร์ ถือครองหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 9.38



          ปัจจัยสำคัญที่ทำให้คณะผู้บริหารฮ่องกงของนางแคร์รี แลม ตัดสินใจช่วยเหลือคาเธ่ย์ แปซิฟิก คือ ต้องการรักษาฮ่องกงให้เป็นหนึ่งในศูนย์กลางการบินพาณิชย์ของทวีปเอเชียต่อไป และเพื่อประคองเศรษฐกิจของเขตบริหารพิเศษแห่งนี้ไว้ โดยการดำเนินงานของคาเธ่ย์ แปซิฟิค สร้างงานให้กับชาวฮ่องกงแล้วมากกว่า 330,000 ตำแหน่ง



เวียดนาม เตรียมเปิดเที่ยวบิน ไปประเทศปลายทางปลอดโควิด



          เวียดนาม มีเขตแดนติดกับจีน ประเทศต้นแหล่งการระบาด มีรายงานผู้ติดเชื้อ 332 คน และไม่มีผู้เสียชีวิต วางแผนจะอนุญาตให้เปิดเที่ยวบินระหว่างประเทศกับชาติที่ไม่พบการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ เป็นระยะเวลา 30 วัน สื่อทางการรายงานอ้างคำกล่าวของนายกรัฐมนตรีเหวียน ซวน ฟุ้ก  ที่ระบุว่า จุดหมายปลายทางลำดับแรกๆ ที่จะเดินทาง ได้แก่ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และกัมพูชา ไม่ได้มีการระบุว่า นายกฯเหวียน จะให้คนที่เดินทางเข้าเวียดนามจากประเทศดังกล่าวต้องถูกกักตัวเฝ้าระวังโรคหรือไม่



          ส่วนสถานการณ์เศรษฐกิจที่จังหวัดบั๊กซาง ตลาดส่งออกลิ้นจี่สดขนาดใหญ่ ในแต่ละฤดูกาลมีการขายผลไม้ประมาณ 100,000 ตัน มูลค่ากว่า 30 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 942 ล้านบาท ไปจีน รวมทั้งญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และสหรัฐฯ แต่ธุรกิจปีนี้ตกต่ำ เนื่องจาก เวียดนาม ปิดเขตแดนตามมาตรการป้องกันโรค ทำให้มีระยะเวลาช่วงสั้นๆเพียง 6 สัปดาห์ ที่ชาวจีน จะข้ามแดนมารับซื้อลิ้นจี่ในตลาดเวียดนาม ประกอบกับพ่อค้าชาวจีนและญี่ปุ่นหลายร้อยคนถูกกักตัวเป็นเวลา 14 วันด้วย  แม้รัฐบาลเวียดนามจะประกาศ แผนการกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ แต่ราคาลิ้นจี่ลดลงประมาณครึ่งหนึ่ง จากปีที่แล้ว



ครูในอิตาลี ชุมนุมเรียกร้องเพิ่มมาตรการก่อนเปิดเรียน



          ที่กรุงโรม เมืองหลวงของอิตาลี กลุ่มครูอาจารย์ชุมนุมเรียกร้องให้เพิ่มมาตรการป้องกันตามโรงเรียนต่างๆ ก่อนเปิดเรียนในเดือนก.ย.เพื่อความปลอดภัยของครูและนักเรียน เบื้องต้น อาจจะต้องจัดการเรียนการสอนเหลื่อมเวลาเรียน เพื่อลดความแออัดในห้องเรียน ขณะที่ นักเรียนและผู้ปกครอง เรียกร้องให้ใช้สถานที่กว้างๆ โล่งๆ อย่างสวนสาธารณะจัดกิจกรรมการเรียนการสอนแทนการอยู่แต่ในห้องเรียน  



          สวนสัตว์ในกรุงปารีส ฝรั่งเศส เปิดให้ประชาชนเข้าชมตามปกติ หลังปิดให้บริการนานถึง 3 เดือน ปรากฏว่าในช่วงที่ปิดให้บริการ สวนสัตว์แห่งนี้ได้ต้อนรับสมาชิกใหม่ถึง 62 ตัว รวมทั้งลูกลิงบาบูน และนกฟลามิงโก ผู้เข้าชมต้องสวมหน้ากากอนามัย เช็ดมือด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ และมีการจำกัดจำนวนผู้เข้าชม



          หลายประเทศเริ่มผ่อนคลายมาตรการเข้มงวด ขณะที่ยังมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง



-บราซิล แม้จะยังมีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่การผ่อนคลายมาตรการเข้มงวด ทำให้ผู้คนเริ่มกลับมาใช้ชีวิตตามปกติ เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่นครรีโอเดจาเนโร ตามชายหาดแน่นไปด้วยนักท่องเที่ยว ขณะที่ ผู้เชี่ยวชาญเตือนผ่อนคลายมาตรการเร็วเกินไป



-เที่ยวบินลำเลียงอุปกรณ์ทางการแพทย์และความช่วยเหลืออื่นๆจากอิหร่านเดินทางถึงเวเนซุเอลาแล้ว ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญเตือนเวเนซุเอลา เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 อย่างรุนแรงจากสภาพเศรษฐกิจที่ล่มสลายส่งผลกระทบต่อการให้บริการด้านสาธารณสุขในเวเนซุเอลา  



-การจราจรในกรุงมอสโก รัสเซีย กลับมาติดขัดอีกครั้ง ขณะที่ชาวเมืองพากันออกมาตามท้องถนนรับอากาศอบอุ่นช่วงฤดูใบไม้ผลิ หลายคนรู้สึกดีหลังจากที่ต้องอยู่บ้านมาหลายเดือน ขณะที่หลายคนไม่ยอมสวมหน้ากากอนามัย  นายกเทศมนตรีเซอร์เก โซเบียนิน เปิดเผยว่า ประชาชนสามารถเดินทางออกจากบ้านได้อย่างเสรีเป็นครั้งแรกนับจากวันที่ 30 มี.ค. เปิดให้บริการร้านทำผม ร้านเสริมสวย และร้านสัตว์เลี้ยง ส่วนร้านอาหารและคาเฟ่ จะเปิดเป็นสองระยะตั้งแต่วันที่ 16 มิ.ย.





 

ข่าวทั้งหมด

X