ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 19.30 น.วันจันทร์ที่ 8 มิถุนายน 2563
นายกรัฐมนตรีกำชับจัดระเบียบชายหาด ใช้ประโยชน์หลากหลายและยึดป้องกันโควิด-19
หลังคนไทยหลั่งไหลไปเที่ยวทะเลจำนวนมาก นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สั่งการให้มีการจัดระเบียบชายหาดใหม่ และอำนวยความสะดวกให้พี่น้องประชาชนเลือกทำกิจกรรมได้ตามต้องการ แต่ต้องไม่เกิดความแออัดและปลอดภัยจากการแพร่หรือไปรับเชื้อโควิด-19
โดยจัดระเบียบพื้นที่ให้ชัดเจน มีโซนสำหรับประชาชนพักผ่อน รับประทานอาหารให้มีร้านหรือสามารถขายอาหารได้ พร้อมจัดให้มีพื้นที่ว่างที่ประชาชนสามารถปูเสื่อ หรือนำเก้าอี้เล็กมาตั้ง เพื่อรับประทานอาหารกันเองในครอบครัว รวมทั้งพื้นที่สำหรับเล่นกีฬาชายหาด กีฬาทางน้ำ ทางเรือ เน้นความปลอดภัย ไม่ให้รบกวนซึ่งกันและกัน รวมทั้งจำกัดจำนวนผู้เข้ามาท่องเที่ยวในแต่ละพื้นที่ชายหาด ตั้งแต่บริเวณภายนอก ควบคุมการจราจร หากพบเห็นว่าชายหาดบริเวณดังกล่าวดูคับแคบหรือหนาแน่นไปก็ให้พิจารณาใช้ชายหาดอื่นๆ ใกล้เคียงได้โดยต้องมีมาตรการเช่นเดียวกัน
นายกรัฐมนตรียังขอให้กระทรวงมหาดไทย การท่องเที่ยวฯ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมถึงผู้ประกอบการช่วยกันดูแลบริหารจัดการขยะโดยรอบบริเวณดังกล่าวด้วย ยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้ห้ามการทำกิจกรรมใดๆ แต่ขอให้พ่อค้า แม่ค้า คนขายของเรียนรู้ ปรับตัว นำเสนอรูปแบบบริการตาม "ชีวิตวิถีใหม่" หรือ " New Normal"
สธ.ยังตามต่อคนไทยในประเทศไม่ติดเชื้อไวรัสโคโรนาต่ออีก 28-30 วัน อย่าเพิ่งวางใจหลังไม่พบผู้ติดเชื้อครบ 14 วัน
สถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทย ถึงแม้จะไม่พบผู้ติดเชื้อในประเทศมา 14 วันก็ไม่ควรวางใจ นพ.อนุพงษ์ สุจริยากุล ผู้ทรงคุณวุฒิกรมควบคุมโรค เปิดเผย แม้ว่าจะยังไม่พบการติดเชื้อในประเทศมา 14 วัน แสดงให้เห็นว่า สถานการณ์ดีขึ้น เป็นอย่างมาก แต่ก็ยังไม่วางใจ อยากขอให้เฝ้าระวังดูสถานการณ์ไปอีก จนครบ 28-30 วัน โอกาสที่จะพบผู้ติดเชื้อมีน้อยหรือไม่มีแล้ว แบบถึงจะวางใจได้ แต่ก็ขอย้ำว่าแม้การติดเชื้อในประเทศไทยไม่มีมา 14 วันก็ขอให้ประชาชนอย่าการ์ดตก
‘มาเลเซีย’ขยายเวลาปิดประเทศ แรงงานไทยตกใจแห่กลับบ้าน
หลังจากที่ทางการมาเลเซียออกประกาศขยายเวลาควบคุมการเคลื่อนไหวของประชาชนในประเทศออกไปอีกจนถึงวันที่ 31 สิงหาคม นี้ ส่งผลทำให้ตามด่านพรมแดนไทย-มาเลเซีย ด้าน อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส มีแรงงานไทยที่ทำงานอยู่ในร้านอาหารต้มยำกุ้ง หลายแห่งที่ตั้งอยู่ตามรัฐต่างๆของมาเลเซีย ส่วนใหญ่เป็นคนจาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ แห่เดินทางกลับเข้ามาในประเทศไทยมากขึ้น เพราะถูกเลิกจ้าง จากร้านอาหารขายของไม่ค่อยได้ ทำให้ตกงาน
คนติดเชื้อไวรัสโคโรนาทั่วโลก แตะ 7,000,000คนแล้ว
จอห์น ฮอบกิ้น รายงาน ตัวเลขผู้ป่วยโควิด-19 ทั่วโลกอย่างเป็นทางการแล้ว 7,036,623 คน เสียชีวิต 403,131ราย สหรัฐฯมีผู้ป่วยมากที่สุด 1,942,363 คน เสียชีวิต 110,514 ราย รองลงมาคือ บราซิล รัสเซีย และสหราชอาณาจักร ยอดผู้ป่วยทั่วโลกเพิ่มขึ้นสองเท่าภายในหนึ่งเดือน และมีผู้ป่วยใหม่กว่าล้านคนภายใน 9 วัน สำหรับตัวเลขเหล่านี้ได้จากการรวบรวมข้อมูลของทางการแต่ละประเทศและองค์การอนามัยโลก น่าจะสะท้อนเพียงเศษเสี้ยวเดียวของจำนวนผู้ติดเชื้อจริง เพราะถึงแม้หลายประเทศได้เพิ่มการตรวจหาเชื้อมากขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงที่พบการระบาดครั้งแรกเมื่อปลายปีก่อน แต่หลายประเทศก็ตรวจเพียงผู้มีอาการหรือผู้ป่วยหนักเท่านั้น
55 จังหวัด-ส่วนราชการ ของบฯ ฟื้นฟูเศรษฐกิจ ทะลุ 3,700,000 ล้าน จากเงินกู้ 400,000ล้าน คาดต้นเดือน ก.ค. ครม.อนุมัติเงินก้อนแรก
การพิจารณาโครงการของบประมาณจากเงินกู้ 400,000ล้านบาท เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ นายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สศช. เปิดเผยว่า ขั้นตอนการพิจารณาโครงการ วันที่ 5-15 มิ.ย. คณะทำงานจะเริ่มคัดกรองโครงการ โดยเปิดให้ประชาชนแสดงความคิดเห็น เพื่อเสนอต่ออนุกรรมการกลั่นกรองและคณะกรรมการกลั่นกรอง จากนั้นวันที่ 15 มิ.ย.ถึงสิ้นเดือนนี้ อนุกรรมการฯ และคณะกรรมการกลั่นกรองจะพิจารณาคัดเลือกโครงการเสนอต่อ ครม. คาดว่าวันที่ 2 ก.ค. หรือวันที่ 7 ก.ค. จะเริ่มเสนอโครงการต่อ ครม. เพื่อพิจารณาอนุมัติ เพื่อให้โครงการต่างๆ เริ่มดำเนินการได้ในช่วงต้นเดือน ก.ค.นี้
ขณะที่มีโครงการที่เสนอเข้ามายังสภาพัฒน์เพื่อพิจารณาในขั้นแรกแล้ว เช่น -โครงการที่เสนอตามกรอบแผนงานฟื้นฟูเศรษฐกิจ เช่น โครงการเกษตรแปลงใหญ่ต้องการสนับสนุนเครื่องมือ แหล่งน้ำ การแปรรูป ตลาดออนไลน์ ฯลฯ โดยมีผู้เสนอมาแล้ว 91 โครงการ วงเงิน 2,200,000 ล้านบาท
สำหรับส่วนราชการ 13 กระทรวง และ 4 หน่วยงานขึ้นตรงนายกฯ เสนอ 115 โครงการ วงเงิน 1,600,000 ล้านบาท ส่วนกรณีที่ ส.ส.เตรียมแบ่งงบฯ ก้อนนี้คนละ 80 ล้านบาท เพื่อกระจายไปยังเครือข่ายในพื้นที่ นายทศพร ยืนยันว่า ทำไม่ได้
ลดเงินเดือนพนักงานการบินไทยต่ออีก 3 เดือน
นายจักรกฤศฎิ์ พาราพันธกุล รองปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะรองประธานกรรมการ คนที่ 2 ปฏิบัติหน้าที่แทนกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทการบินไทย จำกัด มหาชน กล่าวว่า ได้ขอความร่วมมือกับพนักงานทั้งหมดประมาณ 20,000คน เพื่อลดเงินเดือนต่อไปอีก 3 เดือน ซึ่งพนักงานทั้งหมดยินดีและเซ็นยินยอมลดเงินเดือน ทุกคนให้ความร่วมมือ เพื่อช่วยเหลือองค์กร โดยพนักงานมีความเห็นใจบริษัท เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับสปิริต ในรายที่ยังไม่เซ็นรับทราบก็ต้องจ่ายเงินเดือนเต็ม
ก่อนหน้านี้ที่ประชุมคณะกรรมการครั้งพิเศษเมื่อวันที่ 29 พ.ค. 63 มีมติพิจารณาขยายการปรับลดเงินเดือนและค่าตอบแทนพนักงานออกไปอีก 1 เดือน คือถึงวันที่ 30 มิ.ย. 63 จากเดิมที่ได้มีการลดเงินเดือนและค่าตอบแทนพนักงานมาแล้ว 2 เดือน คือเดือน เม.ย.และ พ.ค. ในรูปแบบอัตราลดแบบขั้นบันได
นายจักรกฤศฎิ์ ยืนยันว่า การบินไทยยังมีสภาพคล่องเพียงพอที่จะจ่ายเงินเดือนให้พนักงานทุกเดือน เพราะขณะนี้ได้ลดค่าใช้จ่าย และการหยุดชำระหนี้หลังจากยื่นคำร้องขอเข้าสู่กระบวนการแผนฟื้นฟูภายใต้ศาลล้มละลายกลาง
เปิด 5 ช่องทาง ฟื้นฟูการบินไทย
แนวทางฟื้นฟูกิจการ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI นางอรอนงค์ ชุณหะมาน ผู้อำนวยการฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์และบริหารกลาง เปิดเผยว่า ขณะนี้มี 5 ช่องทาง คาดว่าการฟื้นฟูกิจการจะแล้วเสร็จภายในปี 2569 ดังนี้
-ปรับโครงสร้างหนี้ โดยจะเจรจาหนี้ทุกประเภทให้ภาระการชำระหนี้และระยะเวลาการชำระหนี้สอดคล้องกับกระแสเงินสด รวมถึงเตรียมจัดหาแหล่งเงินทุนเพิ่มสภาพคล่องระยะสั้นและปรับโครงสร้างเงินทุนระยะยาว ซึ่งจะมาจาก การกู้สถาบันการเงิน, การแปลงหนี้สินเป็นทุน และ การเพิ่มทุน เป็นต้น
-ปรับปรุงเส้นทางการบินและฝูงบิน โดยจะยกเลิกเส้นทางที่ไม่สร้างกำไรหรือไม่สามารถปรับปรุงให้สามารถสร้างกำไรได้ในอนาคต พร้อมทั้งจะมีการปรับเปลี่ยนบริหารจัดการเส้นทางการบินให้เหมาะสมมากขึ้น รวมถึงจะมีการปรับลดประเภทเครื่องบินในฝูงบินเพื่อลดต้นทุน
-ปรับปรุงหน่วยธุรกิจ เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการบริหาร เช่น จัดตั้งบริษัทย่อย ขณะเดียวกันจะจัดหาพันธมิตรมาร่วมทุน รวมถึงมองหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการทำกำไร
-ปรับปรุงกลยุทธ์ด้านพาณิชย์และการหารายได้ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการหารายได้ เช่น ขยายช่องทางการจำหน่ายบัตรโดยสารให้หลากหลายมากขึ้น, นำเทคโนโลยีมาช่วยในการกำหนดราคา และจะมีการปรับปรุงโครงสร้างค่าตอบแทนของตัวแทนจำหน่ายให้เหมาะสมและรัดกุมยิ่งขึ้น
-ปรับโครงสร้างองค์กรใหม่ โดยจะลดงานที่ซ้ำซ้อนและไม่จำเป็น, เพิ่มศักยภาพการทำงานแต่ละหน่วยธุรกิจให้สอดคล้องเชื่อมโยงกัน, ปรับลดจำนวนพนักงานและผลตอบแทนให้สอดคล้องกับความสามารถในการบริหารต้นทุน ค่าใช้จ่าย และกำลังการผลิต อย่างไรก็ตามบริษัทฯ ไม่มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายเรื่องกองทุนสำรองเลี้ยงชีพของพนักงาน และสวัสดิการของพนักงานเปลี่ยนไปเข้าระบบประกันสังคมตามหลักกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
นอกจากนั้นยังได้กำหนดกรอบเวลาจัดทำแผนฟื้นฟูกิจการคาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในเม.ย. 2564 เพื่อส่งให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์นำเข้าประชุมกับเจ้าหนี้ในการพิจารณาแผน หลังจากนั้น ศาลฟื้นฟูกิจการจะมีการพิจารณาเพื่อเห็นชอบด้วยแผนฟื้นฟูฯ และมีคำสั่งให้เริ่มดำเนินการตามแผนฟื้นฟู ภายใน มิ.ย.64 โดยการดำเนินการตามแผนต้องแล้วเสร็จภายใน 5 ปี นับแต่วันที่ศาลมีคำสั่งเห็นชอบด้วยแผนฯ โดยสามารถขยายระยะเวลาการฟื้นฟูกิจการได้ไม่เกิน 2 ครั้ง ครั้งละไม่เกิน 1 ปี
รมว.คมนาคม เผย เสนอแผนฟื้นฟู ขสมก. ภายในเดือนนี้
หลังที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ หรือ คนร.ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ได้อนุมัติแผนฟื้นฟูกิจการ ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือ ขสมก.นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า กระทรวงคมนาคมเตรียมเสนอให้คณะรัฐมนตรีเห็นชอบภายในเดือนมิถุนายนนี้
สำหรับสาระสำคัญการดำเนินการตามแผนฟื้นฟูในส่วนของการแก้ไขปัญหาภาระหนี้และขาดทุนสะสม ของ ขสมก. ยืนยันว่าจะดำเนินการตามกรอบที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติไว้เมื่อปี 2562 ซึ่งรัฐบาลโดยกระทรวงการคลังจะเข้ามารับภาระหนี้ดังกล่าว รวม 127,786 ล้านบาท ทำให้หลังจากนี้จะให้ ขสมก.เริ่มเจรจากับกระทรวงการคลัง เพื่อกำหนดกรอบในการเริ่มทยอยชำระหนี้ โดยหนี้ ขสมก.มี 2 ส่วน ได้แก่ พันธบัตร ซึ่งมีการออกหลายครั้งตั้งแต่ปี 2550 ถึงปัจจุบัน โดยหนี้เหล่านี้มีอายุครบชำระแตกต่างกันอยู่ที่ 60,5339 ล้านบาท หนี้เงินกู้ 63,440 ล้านบาท โดยย้ำว่าการชำระคืนหนี้จะทยอยครบกำหนดและชำระเป็นรายเดือนไม่ได้มีการจ่ายเป็นเงินก้อนชำระหนี้ครั้งเดียว
ส่วนผลประกอบการ ขสมก.ตั้งแต่ปี 2541-2563 ขาดทุนสะสมรวมกว่า 9,000 ล้านบาท
หุ้นไทยปิดตลาดเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปิดตลาดวันนี้ที่ระดับ 1,438.66 จุด เพิ่มขึ้น 2.96 จุด มูลค่าการซื้อขาย 105,398.73 ล้านบาท ตลาดหุ้นไทยวันนี้เคลื่อนไหวค่อนข้างผันผวน หลังจากช่วงเช้าดัชนีปรับขึ้นไปกว่า 19 จุด ทำให้เกิดแรงขายทำกำไร นักลงทุนยังระมัดระวังการลงทุน แม้ภาพรวม ยังเป็นบวกหลังจากหลายประเทศทยอยคลายล็อกมาตรการคุมเข้มสกัดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้ตัวเลขเศรษฐกิจของประเทศหลักมีทิศทางที่ดีขึ้น
นอกจากนี้ การที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส บรรลุข้อตกลงขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน 9.7 ล้านบาร์เรล/วัน ออกไปจนถึงเดือน ก.ค. ช่วยผลักดันให้หุ้นในกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้น
ตลาดยังจับตาเงินทุนไหลเข้าว่าจะมีต่อเนื่องหรือไม่ หลังจากซื้อสุทธิต่อเนื่องตลอดสัปดาห์ที่แล้ว แต่เริ่มเห็นการซื้อน้อยลงเมื่อวันศุกร์เพราะเมื่อพิจารณาภาพรวมตั้งแต่ต้นปีนี้นักลงทุนต่างชาติยังอยู่ในทิศทางขายมากกว่าซื้อ และเงินทุนไหลเข้ารอบนี้เข้ามาทั้งภูมิภาคไม่ใช่ไทยเพียงประเทศเดียว นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 787.69 ล้านบาท
ตลาดหุ้นโตเกียวปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ช่วงปลายเดือนก.พ.และปิดแดนบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 6 ในวันนี้ หลังจากสหรัฐฯเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งขึ้นอย่างเหนือความคาดหมาย ซึ่งช่วยให้นักลงทุนมีความหวังว่า เศรษฐกิจโลก จะฟื้นตัวรวดเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ ดัชนีนิกเกอิพุ่งขึ้น 314.37 จุด ปิดที่ 23,178.10 จุด ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 21 ก.พ.
ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดวันนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย เนื่องจากแรงเทขายทำกำไรของนักลงทุนทำให้ดัชนีลดลงจากเมื่อเช้า หลังได้แรงหนุนจากตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯที่แข็งแกร่งเกินคาด ดัชนีฮั่งเส็งเพิ่มขึ้น 6.36 จุด ปิดวันนี้ที่ 24,776.77 จุด
สทนช.เสนอครม.พรุ่งนี้ มาตรการบริหารจัดการน้ำรับมือฤดูฝน
หลังสำรวจเส้นทางการไหลของผักตบชวา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากการบินสำรวจพบว่า การแก้ปัญหาผักตบชวาและวัชพืชต่างๆ ทำไปได้มากแล้ว สามารถกำจัดไปได้ 200,000กว่าตัน แต่ก็ยังมีตกค้างมากกว่า 200,000ตันเช่นกัน จึงได้กำชับให้ทุกหน่วยเร่งดำเนินการกำจัด เพื่อให้น้ำไหลได้ตามธรรมชาติ ไม่มาขวางทางน้ำ และให้ทันก่อนที่น้ำเหนือจะไหลหลากลงมาในช่วงเดือนกรกฎาคม
นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) กล่าวว่านอกจากการจัดเก็บผักตบชวาในแม่น้ำสายหลักและจุดเชื่อมต่อโดย 4 หน่วยงานมีความก้าวหน้ามากกว่าร้อยละ 90 ยังจะเสนอแนวทางบริหารจัดการน้ำรับมือฤดูฝนต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวันพรุ่งนี้ เพื่อไม่ให้ผักตบชวาเติบโตได้เร็วขึ้นและเกิดความยั่งยืน เช่น ตั้งจุดจัดเก็บถาวร กำหนดอัตราค่าจัดเก็บ เพื่อเป็นมาตรการจูงใจให้ประชาชนในพื้นที่ร่วมกำจัดผักตบชวา หรือการใช้สารเคมีในการควบคุมการเจริญเติบโตของผักตบ รวมถึงควบคุมการทิ้งขยะและน้ำเสียลงสู่แม่น้ำลำคลอง เพื่อให้ผักตบชวาเข้าสู่แม่น้ำสายหลักน้อยสุด ซึ่งคาดว่าจะมีฝนมากขึ้นในเดือนกรกฎาคมที่จะส่งผลให้กระแสน้ำเชี่ยวและกำจัดได้ยากขึ้น