การปราบปรามข่าวปลอม หรือ เฟคนิวส์ พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ ผบก.ขส. บช.ปส. หัวหน้าชุดประสานความร่วมมือกับศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม (Anti-Fake News Center) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแถลงผลการปราบปรามผู้กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และการดำเนินการโดยการใช้อำนาจตาม พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ระหว่างวันที่ 25 พ.ค. ถึง 5 มิ.ย. ของศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมที่สร้างความตื่นตระหนกแก่ประชาชน และสร้างความเสื่อมเสียชื่อเสียงต่อประเทศ มีการจับกุมผู้กระทำผิดได้ 9 รายด้วยกัน
รายที่ 1. จับกุม นางฉวีวรรณ (ขอสงวนนามสกุล) ที่ได้โพสต์เฟซบุ๊กว่ามีหญิงป่วยหนักโควิด-19 ล้มกลางห้างดังเมืองระยอง ได้ที่ จ.ระยอง
รายที่ 2. จับกุม นายศรไกร (ขอสงวนนามสกุล) ที่โพสต์เฟซบุ๊กว่า กระเทียมไทยช่วยต้านโควิด-19 ได้ที่ จ.สุพรรณบุรี
รายที่ 3. จับกุม น.ส.อฤทธิสา (ขอสงวนนามสกุล) ที่โพสต์เฟซบุ๊กว่า ขิง น้ำกระชาย ผสมน้ำผึ้งมะนาว ช่วยต้านโควิด-19 ได้ที่ จ.ชลบุรี
ส่วนอีก 6 รายได้โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊กซึ่งมีเนื้อหาในลักษณะเดียวกัน คือ รัฐหลอกให้ลงทะเบียนรับเงินเยียวยาเพื่อจะเรียกเก็บภาษีที่จ.อุบลราชธานี, ร้อยเอ็ด, นครราชสีมา, สมุทรปราการ,ลำปาง และ นครศรีธรรมราช
จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมดรับสารภาพว่า เป็นผู้โพสต์จริงแต่ไม่ทราบว่าข้อมูลที่ได้รับมาเป็นข่าวปลอม ไม่ได้มีเจตนาจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด พร้อมกับยืนยันว่าจะตรวจสอบข้อมูลต่างๆ อย่างละเอียดก่อนที่จะโพสต์
พล.ต.ต.พันธนะ กล่าวอีกว่า ฝากเตือนประชาชนให้ระมัดระวังการโพสต์ข่าวปลอม เพราะจะถูกดำเนินคดีตามความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และความผิดตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มีโทษจำคุก 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ อย่างไรก็ตามหลังมีการดำเนินคดีกับผู้สร้างข้อความปลอมตั้งแต่เดือน ม.ค.-ปัจจุบัน ทำให้มีผู้กระทำความผิดสร้างข่าวปลอมลดลงอย่างเห็นได้ชัด