ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 19.30 น.วันพฤหัสบดีที่ 4 มิถุนายน 2563

04 มิถุนายน 2563, 19:37น.


ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 19.30 น.วันพฤหัสบดีที่ 4 มิถุนายน 2563



หุ้นไทยแตะระดับ 1,400 จุด เพิ่มขึ้น 36.83 จุด



         ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,411.01 จุด เพิ่มขึ้น 36.83 จุด มูลค่าการซื้อขาย 122,562.18 ล้านบาท มูลค่าการซื้อขายขึ้นมาสูงสุดในรอบ 1 ปีเศษ โดยวันที่ 28 พ.ค.62 มีมูลค่าการซื้อขาย 204,855.67 ล้านบาท ตลอดทั้งวัน หุ้นไทยทำระดับสูงสุดที่ 1,413.54 จุด และทำระดับต่ำสุด 1,393.21 จุด        



         ตลาดหุ้นไทยวันนี้บวกได้แข็งแรงกว่าตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่ปรับตัวขึ้นมาไม่มากเท่าไร หุ้นไทยได้รับแรงหนุนจากหุ้นในกลุ่มแบงก์ที่ขึ้นนำตลาดฯ คาดว่าจะเป็นเป้าหมายของนักลงทุนต่างชาติที่กลับเข้ามาลงทุน ขณะที่หุ้นกลุ่มพลังงานยังมีความไม่แน่นอนจากการประชุมกลุ่มโอเปกประเด็นการยืดระยะเวลาการลดกำลังการผลิตน้ำมันออกไป อย่างไรก็ดี ให้จับตาการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันนี้ และตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯในวันพรุ่งนี้ นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 2,469.57 ล้านบาท



-ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปรับตัวขึ้นปิดแดนบวกเป็นวันที่ 4 ติดต่อกันในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนมีความหวังว่า ธนาคารกลางยุโรปจะมีมติออกมาตรการเพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ดัชนีนิกเกอิปิดเพิ่มขึ้น 81.98 จุด แตะที่ 22,695.74 จุด



-ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดวันนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากปัจจัยบวกจากการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ของประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก สามารถชดเชยปัจจัยลบจากสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯกับจีน ดัชนีฮั่งเส็งเพิ่มขึ้น 40.68 จุด ปิดวันนี้ที่ 24,366.30 จุด



 ‘เห็นแล้วไม่สบายใจ’ นายกรัฐมนตรี เตือนคนแห่เที่ยวชายหาด ต้องดูแลตัวเอง



          หลังคนแห่เที่ยวบางแสน ทำให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า เห็นภาพแล้วรู้สึกไม่สบายใจ ฝากสื่อมวลชนช่วยเตือนประชาชนที่นั่งใกล้กันขนาดนั้น แต่เห็นใจเนื่องจากเป็นวันหยุด และอยากไปเที่ยวผ่อนคลาย  พร้อมเตือนว่า อย่าลืมดูแลตัวเอง และต้องใส่หน้ากากอนามัย หากไปติดในเด็กเล็กหรือคนในครอบครัวจะเกิดปัญหาขึ้นมาอีก และถ้าเจ้าหน้าที่ไปห้ามจะเกิดทะเลาะกันได้



          นายกรัฐมนตรีมองว่า หากสถานที่ท่องเที่ยวมีคนไปจำนวนมาก  อาจจะเปลี่ยนไปท่องเที่ยวสถานที่อื่น ๆ ชายหาดอื่น หากอยากสูดโอโซนหรือจอดรถริมทะเลก็ได้ เพราะจะไม่คุ้ม ถ้าสนุกเพียงชั่วคราวแล้วต้องติดโควิด-19 จะทำให้เดือดร้อนกันทั้งหมด



          ส่วนจะมีแนวโน้มพิจารณาคลายล็อกในกิจกรรม กิจการระยะที่ 4 เร็วขึ้นหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กำลังพิจารณา โดยเฉพาะเหตุการณ์ที่บางแสน ที่ประชาชนแห่เที่ยวจำนวนมาก จะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีกหรือไม่ หากสถานการณ์ดีขึ้น จะคลายล็อกระยะ 4 ให้ แต่หากยังมีความเสี่ยงอยู่ อาจจะพิจารณาห้ามไว้ก่อน และจำเป็นต้องยืดระยะเวลาออกไปอีก 



          ส่วนผู้ที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศจะต้องเพิ่มวันกักตัวหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขกำลังพิจารณา แต่จำนวนวันขณะนี้เป็นตัวเลขที่พอรับได้  ถือเป็นข้อดีของการมีสถานที่กักกัน ซึ่งก่อนหน้านี้หลายคนไม่เห็นด้วย เพราะถือเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล แต่คือสิ่งที่ช่วยลดการแพร่ระบาดของโรคได้  เรื่องวันนี้น่าดีใจที่เจอเชื้อเฉพาะผู้ที่อยู่ในสถานที่กักกันของรัฐ ขณะที่ผู้ติดเชื้อในประเทศยังไม่เพิ่มขึ้น แต่ย้ำว่าทุกคนยังต้องระมัดระวังตัว



          ส่วนคนไทยที่เดินทางกลับจากต่างประเทศมีจำนวนเพิ่มขึ้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลต้องจัดหาสถานที่รองรับในการกักกันตัว ขณะนี้ในส่วนของพื้นที่ภาคใต้ มีเดินทางกลับมาจำนวนหนึ่ง และกำลังให้ตรวจสอบภาพข่าวที่มีเด็กถูกกักขัง ซึ่งไม่ทราบว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่ แต่ยืนยันว่ามีคนดูแลอยู่ ไม่มีใครใจร้ายที่จะทำแบบนั้นกับเด็กเล็ก 



เคาะแจกเงินเก็บตก 'โควิด'รอบสุดท้าย9,000,000คนมิ.ย.นี้



          นายประสงค์ พูนธเนศ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ชุด 10 ปลัดกระทรวง ได้เห็นชอบให้มีการจ่ายเงินเยียวยาช่วยเหลือผู้รับผลกระทบโควิด-19 รอบสุดท้ายสำหรับคนที่ยังตกหล่นไม่เคยได้รับความช่วยเหลือจากมาตรการใดมาก่อนประมาณ 9,000,000คน ใน 4 กลุ่ม ได้แก่



1.กลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่ยังไม่เคยได้รับเงินจากมาตรการใดเลย 1,200,000 คน



2.กลุ่มผู้ลงทะเบียนไม่สำเร็จจากโครงการเราไม่ทิ้งกัน เช่น ระบุเพศ อายุ อาชีพไม่ถูกต้อง 300,000คน



3.กลุ่มเปราะบาง เด็ก ผู้พิการ และผู้สูงอายุ ซึ่งตรวจสอบความซ้ำซ้อน กับมาตรการอื่นแล้ว  เหลือ 6,900,000-7,000,000 คน



และ 4.กลุ่มที่จ่ายประกันสังคมไม่ครบ 6 เดือน อีก 66,000คน



          ทั้งนี้ขั้นต่อไปจะเสนอให้คณะกรรมการกลั่นกรองพิจารณาโครงการใช้เงินจาก พ.ร.ก.กู้เงินฉุกเฉิน 1 ล้านล้านบาทสัปดาห์หน้า ก่อนเสนอ ครม.เห็นชอบต่อไป ซึ่งหากทำเสร็จเร็วจะเริ่มโอนเงินได้ในเดือนมิ.ย.นี้ โดยจะโอนรวดเดียว 2 เดือนทั้งในส่วนเดือน พ.ค.-มิ.ย. และเดือนสุดท้ายจะโอนอีกทีในเดือนก.ค. แต่จะได้รับเดือนละ 1,000 บาท หรือ 5,000  บาท ก็ต้องรอคณะกรรมการกลั่นกรองฯ และครม.พิจารณาก่อน



 



ยังไม่ได้ข้อสรุป มาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวในประเทศ ฟื้นเศรษฐกิจไทย



          นายยุทธศักดิ์  สุภสร  ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจนถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะวงเงินที่จะนำไปใช้อย่างไรให้เกิดประโยชน์คุ้มค่ามากที่สุด คาดมีความชัดเจนในสัปดาห์หน้า ก่อนนำเสนอต่อที่ประชุม ครม. วันที่ 9 มิ.ย.



          สำหรับมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวที่ ททท. เสนอนั้น เป็นอีกมาตรการที่ต่อเนื่อง จากการให้ความช่วยเหลือประชาชนของรัฐบาล เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวภายในประเทศให้สามารถกลับมาดำเนินกิจการและกิจกรรมต่อไปได้  ซึ่งขณะนี้เชื่อมั่นว่า มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 สามารถดำเนินตามแนวทางของกระทรวงสาธารณสุข  ได้สร้างความมั่นใจให้กับคนไทยให้เดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศควบคู่กับการดูแลตัวเอง จากนั้นจะต่อยอดสู่การสร้างความเชื่อมั่นในการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในการเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยต่อไป



ทบ.สรุปผลสอบ "สนามมวย" บกพร่อง คุมโควิด-19 สั่งปลด กก.สนามมวย เรียบ



          การสอบสวน สนามมวยลุมพินี ที่เป็นจุดแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จากการจัดการแข่งขันมวย 6 มี.ค.2563  พล.ต.บุรินทร์ ทองประไพ ผู้อำนวยการสำนักงานพระธรรมนูญทหารบก และคณะกรรมการสอบสวนฯพบว่า มีความบกพร่องในการที่ไม่สามารถควบคุมโรคได้ จึงได้เสนอลงโทษด้วยการปลดกรรมการสนามมวยทั้งหมด



          โดยพล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก ได้สั่งปลดกรรมการสนามมวยทั้งหมดแล้ว ขณะที่ พล.ต.ราชิต อรุณรังษี เจ้ากรมสวัสดิการทหารบก ในฐานะนายสนามมวย ได้ถูกโยกย้ายเข้าประจำ บก.ทบ.แล้ว ตั้งแต่กลาง มี.ค. และจะเกษียณอายุราชการ ในเดือนกันยายนนี้        



บอร์ดติดตามฟื้นฟูกิจการการบินไทย สั่งทำรายละเอียดตัดสิทธิประโยชน์'การบินไทย' หลังพ้นสภาพรัฐวิสาหกิจ



         นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คณะกรรมการติดตามการดำเนินการแก้ไขปัญหา บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ได้หยิบยกประเด็นเรื่องสิทธิประโยชน์ต่างๆของการบินไทยที่เคยได้จากความเป็นรัฐวิสาหกิจขึ้นมาหารือ และก็ได้มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ(สคร.) ไปตั้งเรื่องเข้ามาและเสนอเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อให้เป็นมติ ครม.ออกมา ซึ่งจะออกมาอย่างไรนั้นขึ้นอยู่กับ ครม.ที่จะทบทวน เพราะที่ผ่านมาการบินไทยได้สิทธิต่างๆ ไปตามมติ ครม.ซึ่งหากยังมีสิทธิประโยชน์เหล่านั้นอยู่ ก็ไม่เป็นธรรมกับเอกชนรายอื่น



"การบินไทย" เสนอ 4 เรื่อง ให้รัฐบาลช่วยเหลือ



          นายประภาศ คงเอียด ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ ในฐานะกรรมการและเลขานุการคณะกรรมการติดตามการดำเนินการฟื้นฟู บริษัท การบินไทย จำกัด(มหาชน) เปิดเผยหลังประชุมร่วมกับผู้บริหารและที่ปรึกษาการเงินและกฎหมายเข้าร่วมประชุม เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. เพื่อให้คณะกรรมการฯ ได้รับทราบสถานะคดีปัจจุบันของการบินไทย และมีแนวทางใดที่ต้องการให้คณะกรรมการฯ ให้ความช่วยเหลือด้านใดบ้าง



          โดยมี 4 เรื่องหลักที่การบินไทยต้องการให้คณะกรรมการฯ ช่วยเหลือ คือ



1. การจัดไทม์สลอต หรือ ช่วงเวลาเที่ยวบินใหม่ โดยในคณะกรรมการฯ มีตัวแทนของคมนาคมอยู่ 2 คนอยู่แล้ว ซึ่งจะพิจารณาในส่วนของคมนาคมว่าทำได้หรือไม่เพียงใด



2. ปัญหาเครื่องบินที่มีสัญญาเช่าหรือเช่าซื้อ ถ้าเกิดจะต้องบินในต่างประเทศ จะเสี่ยงต่อการถูกยึด ซึ่งเรื่องนี้ทีมกฎหมายจะต้องไปยื่นขอคุ้มครองต่อศาลประเทศนั้น เพื่อให้ศาลรับรู้ว่า ขณะนี้มีการยื่นคำร้องฟื้นฟูแล้วในศาลล้มละลายกลางที่ประเทศไทย



3. ขอให้ทางคณะกรรมการประสานคู่ค้าการบินไทย โดยเฉพาะคู่ค้ารัฐวิสาหกิจ เช่น บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT และบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เพื่อบรรเทาค่าใช้จ่ายในระหว่างฟื้นฟู



และ 4. สัญญาต่างๆ ที่การบินไทยทำไว้กับภาครัฐและรัฐวิสาหกิจ เมื่อการบินไทยเปลี่ยนจากรัฐวิสาหกิจเป็นบริษัทมหาชน ต้องแก้ไขสัญญาใหม่ หรือบางสัญญาเป็นเรื่องรัฐวิสาหกิจ ทำกับรัฐวิสาหกิจ เมื่อเปลี่ยนเป็นบริษัทมหาชน จะเข้าเกณฑ์กฎหมายพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชนหรือไม่ ซึ่งหากมีกรณีดังกล่าวจะต้องแก้ไขเพื่อจะได้ไม่เป็นประเด็นโต้แย้งในศาล



          นอกจากนั้น การบินไทย มีมติแต่งตั้งนายชาญศิลป์  ตรีนุชกร เป็นกรรมการบริษัท แทนนายไพรินทร์ ชูโชติถาวร และเป็นกรรมการอิสระ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 4 มิ.ย.63 นี้เป็นต้นไป



รวบแล้ว!รายสุดท้าย หลบหนีจากเรือนจำสว่างแดนดิน หลังซ่อนตัวนานกว่า 1 เดือน



          หลังเกิดเหตุ  5 ผู้ต้องขังก่อเหตุหลบหนีจากเรือนจำสว่างแดนดิน จ.สกลนคร เมื่อวันที่ 1 พ.ค. ล่าสุด  ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เซกา จ.บึงกาฬ จับกุมตัวนายอนนท์ หลักคำ อายุ 42 ปี ผู้ต้องหาหลบหนีที่ยังเหลืออยู่คนสุดท้ายตามหมายจับของศาลจังหวัดสว่างแดนดินได้ บริเวณบ้านไม่ทราบเลขที่ พื้นที่บ้านตาลเดี่ยว หมู่ 4 ต.ท่าสะอาด อ.เซกา จ.บึงกาฬ



          เบื้องต้นสอบสวนผู้ต้องหาทราบว่า ภายหลังจากการก่อเหตุหลบหนีในพื้นที่เซกากับท่าม่วง ซึ่งเป็นรอยต่อ โดยช่วงเช้าจะไปหลบซ่อนพื้นที่เซกา เย็นหลบไปซ่อนที่ท่าม่วง เพื่อป้องกันการติดตามตัวของเจ้าหน้าที่



ตร.นิวยอร์กบาดเจ็บ 3 คนจากเหตุชุมนุมจอร์จ ฟลอยด์



        ตำรวจนิวยอร์ก เปิดเผยว่ามีเจ้าหน้าที่ 3 คนได้รับบาดเจ็บจากการถูกแทงและถูกยิง ในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ในย่านบรูคลิน และพบเหตุปล้นร้านจึงเข้าขัดขวางเหตุการณ์ นายเดอร์มอท เชีย ผู้บัญชาการตำรวจนิวยอร์ก กล่าวว่าเจ้าหน้าที่อยู่ในระหว่างการตรวจพื้นที่เพื่อป้องกันเหตุทรัพย์สิน และตำรวจคนแรกผู้พบชายผู้ต้องสงสัยในจุดใกล้กับโบสถ์และแฟลทบุช อะเวนิว เมื่อเดินสวนกันชายคนนั้นก็หันมาแทงทางด้านซ้ายของลำคอ ตำรวจอีก 2 คนที่ได้ยินเสียงปืน จึงเข้าไปช่วยระงับเหตุ แต่พบว่าปืนของเจ้าหน้าที่คนแรกอยู่ในมือของคนร้าย จึงมีการยิงต่อสู้กัน เมื่อเหตุการณ์สงบลงพบว่า ทั้ง 4 คนมีอาการบาดเจ็บ ถูกนำส่งโรงพยาบาลคิงส์เคาน์ตี้ โดยกลุ่มตำรวจ 3 คนมีอาการคงที่แล้ว ส่วนชายผู้ต้องสงสัยยังมีอาการหนัก



         เหตุการณ์ในย่านบรูคลินเกิดขึ้นท่ามกลางการประท้วงเรียกร้องความยุติธรรมให้แก่นายจอร์จ ฟลอยด์ และต่อต้านการเหยียดสีผิว ซึ่งไม่แน่ชัดว่าทั้ง 2 เหตุการณ์จะเกี่ยวข้องกันหรือไม่ โดยในย่านบรูคลินมีประชาชน 1,000 คนฝ่าฝืนเคอร์ฟิวออกมาร่วมการประท้วง ขณะที่สถานการณ์ในหลายพื้นที่กลับสู่ความเงียบสงบหลังจากที่อัยการเพิ่มข้อกล่าวหานายตำรวจที่ร่วมอยู่ในเหตุการณ์ที่ทำให้นายฟลอยด์เสียชีวิต



ส.ส.ฝ่ายค้านในฮ่องกงถูกจับ หลังขว้างของเหลวมีกลิ่นในที่ประชุม



          ตำรวจและนักดับเพลิงต้องเข้าไปภายในห้องประชุมของสภานิติบัญญัติฮ่องกงในวันนี้ (4 มิ.ย.) หลังจากที่สมาชิกฝ่ายค้าน 2 คนขว้างของเหลวที่มีกลิ่นเหม็นในห้องประชุม เพื่อเป็นการแสดงสัญลักษณ์ของการปราบปรามผู้ประท้วงที่จัตุรัสเทียนอันเหมินเมื่อ 31 ปีที่แล้ว



          ในขณะที่สมาชิกในห้องประชุมกำลังมีการอภิปรายโต้เถียงเกี่ยวกับกฎหมายเพลงชาติจีน ทำให้การประชุมต้องหยุดชะงัก และเจ้าหน้าที่ตำรวจและดับเพลิงต้องเข้ามาควบคุมตัวทั้ง 2 คนออกไป ความตึงเครียดในฮ่องกงเพิ่มสูงขึ้นหลังจากที่สภาประชาชนแห่งชาติจีน ผ่านความเห็นชอบกฎหมายความมั่นคงเพื่อบังคับใช้ในฮ่องกง และห้ามต่างชาติเข้าแทรกแซงสถานการณ์ในฮ่องกง

ข่าวทั้งหมด

X